Tube Manager สุดยอดโปรแกรมการจัดการ Youtube ฟรีครับ

Tube Manager Toturial#1: Search &View Youtube Video

Tube Manager Toturial#2: Youtube Video Downloader

Tube Manager Toturial#3: Video Editor &Conversion

Tuesday, March 31, 2009

เชลซีหนาว!บาร์ซ่าจ้องดึงเช็กเฝ้าเสาแทนบัลเดส




ลือสนั่นเมืองกระทิงดุ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า กำลังเล็งกระชากตัว ปีเตอร์ เช็ก ยอดมือกาว เชลซี มาเฝ้าเสาแทน บิคตอร์ บัลเดส โกล์มือ 1 ที่อาจอำลาถิ่น คัมป์ นู ในเร็ววันนี้


บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที ลา ลีกา สเปน ตกเป็นข่าว เมื่อวันอังคารที่ 31 มีนาคม ที่ผ่านมาว่า อาจจะดำเนินการเซ็นสัญญาคว้าตัว ปีเตอร์ เช็ก ผู้รักษาประตูจอมหนึบของ เชลซี สโมสรชั้นนำในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาเฝ้าเสาในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยหวังให้มาแทนที่ บิคตอร์ บัลเดส นายทวารจอมเหวอ ที่ส่อแววหมดอนาคตในถิ่น คัมป์ นู


เช็ก ได้รับการยกย่องว่า เป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดคนหนึ่งในยุโรป ซึ่ง "เอล มุนโด้ เดปอร์ติโบ" หนังสือพิมพ์กีฬาชื่อดังแดนกระทิงดุ รายงานว่า "เจ้าบุญทุ่ม" ที่กำลังมีปัญหาในตำแหน่งโกล์มือ 1 นั้น คือหนึ่งในหลายทีมที่ให้ความสนใจในฝีไม้ลายมือของนายด่านทีมชาติสาธารณรัฐเช็กวัย 26 ปี


ขณะที่มือกาวตัวจริงอย่าง บัลเดส ยังไม่ได้เซ็นสัญญาฉบับใหม่เลย และก็เชื่อกันว่า เขาเรียกร้องเงินมากกว่าที่สโมสรยินดีจ่ายให้อีกด้วย และจากการที่สัญญาฉบับปัจจุบันกำลังจะหมดลงในเร็ววันนี้ อาจจะทำให้ บาร์ซ่า ตัดสินใจขายนายทวารชาวสแปนิชวัย 27 ปี ออกไปเพื่อนำเงินเข้ามาสู่สโมสร ถ้าหากเจ้าตัวไม่ยอมต่อสัญญาออกไป


"เดลี่ เมล์" หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์เมืองผู้ดี อ้างคำพูดของ เช็ก ที่เคยให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อปี 2007 ว่า "ผมสามารถจินตนาการว่าตัวเองจะอยู่ในอังกฤษต่อไปหรือเปล่า? ผมไม่สามารถให้คำตอบได้ แต่ผมมีความสุขกับ เชลซี มาก และตัวผมเองก็เริ่มหลงรัก พรีเมียร์ลีก แล้วด้วย ผมเคยชินกับการใช้ชีวิตในกรุงลอนดอนแล้ว ซึ่งทั้งภรรยาของผมและตัวผมเองต่างก็ชอบมัน แต่ในกรณีที่ บาร์เซโลน่า ให้ความสนใจนั้น ใช่ แน่นอนอยู่แล้วว่า มันควรค่าที่จะได้รับการพิจารณา"




........................................................................................................................................................................



ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

ตอร์ยืนเป้ายิงเติร์ก,เลี่ยนไร้คมฉะไอริช




"กระทิงดุ" สเปน บุกรัง "ไก่งวง" ตุรกี เกมนี้ไม่เสี่ยงส่ง ดาวิด บีย่า เชื่อส่ง เฟร์นานโด ตอร์เรส สตาร์ลิเวอร์พูล ยืนหน้าเป้า ถ้าชนะการันตีเข้ารอบ ขณะที่ "อัซซูรี่" อิตาลี ไม่ปรับทัพแม้กองหน้าขาดแคลน เปิดบ้านปะทะ "ยักษ์เขียว" ไอร์แลนด์ ในเกมฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนยุโรป คืนนี้


ฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม 5
ตุรกี - สเปน


สนาม: อาลี ซามี เยน, อิสตันบูล, ตุรกี


ฟาติห์ เตริม กุนซือคนเก่งของทีม "ไก่งวง" ทีมชาติตุรกี ยังพอใจกับฟอร์มของลูกทีม แม้จะออกไปแพ้ให้กับ สเปน ทีมจ่าฝูงมา 0-1 ที่สนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว เมื่อวันเสาร์ที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา หล่นมาอยู่อันดับ 3 ของกลุ่ม โดยหวังจะกลับมาแก้ตัวในการเล่นที่อาลี ซามี เยน บ้านตัวเองวันพุธที่ 1 เมษายน นี้


สำหรับตัวหลักในแดนหน้ายังไว้วางใจในความสามารถของ นิฮัต คาห์เวซี่ ดาวยิงจากสโมสร บียาร์เรอัล ในลา ลีกา สเปน และ ตุนกาย ซานลี่ ดาวดังจากมิดเดิ้ลสโบรช์ แต่ไม่มี เซอร์เว็ต เซติน กับ ฮาลิล อัลตินท็อป ที่บาดเจ็บ ส่วน เอเรน กุนกอร์, เอ็มเร่ เบโลโซกลู กับ ฮามิต อัลตินท็อป ที่เจ็บเล็กน้อยพร้อมลงสนาม


ทีมเติร์กจะลงเล่นระบบ 4-4-2 แดนกลางมี โคลิน คาซิม ริชาร์ดส์ ลงทำเกมร่วมกับ เมห์เม็ต ออเรลิโอ, อายฮาน อั๊คมาน และ อาร์ดา ตูราน ส่วน นิฮัต คาห์เวซี่ หรือ ตุนกาย ซานลี่ ลงเล่นกองหน้าคู่ ซามีห์ เซนเติร์ก


ทางด้าน "กระทิงดุ" ทีมชาติสเปน แชมป์ยูโร 2008 โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดไม่แพ้ใครตั้งแต่ปี 2006 รวม 30 นัดเข้าให้แล้วหลังจากเฉือนชนะตุรกี 1-0 นัดล่าสุด นำโด่งเป็นจ่าฝูงกลุ่ม 5 ชนะรวด 5 นัด มี 15 แต้ม ทิ้งอันดับ 2 บอสเนียฯ 6 แต้ม ซึ่งถ้าเอาชนะนัดนี้ได้ น่าจะทำให้ทีม "กระทิงดุ" มีโอกาสสดใสที่จะเข้าป้ายในอันดับ 1 และเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายที่แอฟริกาใต้ ปีหน้า แบบอัตโนมัติ


ความพร้อมชุดนี้ต้องรอเช็กความฟิตของ ดาวิด บีย่า กองหน้าตัวเก่งของบาเลนเซีย ซึ่ง บิเซนเต้ เดล บอสเก้ กุนซือของสเปน อาจตัดสินดร็อปเอาไว้ข้างสนามก่อนแล้วปรับจาก 4-4-2 มาเล่น 4-2-3-1 เพื่อความรัดกุมมากขึ้นด้วย โดยอาจส่ง เฟร์นานโด ตอร์เรส สตาร์ลิเวอร์พูล ยืนหน้าเป้า


ส่วน อัลเบิร์ต ริเอร่า ที่ไม่มีส่วนร่วมในเกมล่าสุดจะกลับมาเล่นตัวจริงในตำแหน่งปีกซ้าย พร้อมได้ ดาบิด ซิลบา คอยสร้างสรรค์เกม ขณะที่ ซานติอาโก้ กาซอร์ล่า ทำเกมฝั่งขวา


แนวรับมอบตัวจริงให้ การ์ลอส มาร์เชน่า ที่หายเจ็บกลับมาลงเล่นแทน ราอูล อัลบิโอล ยืนเคียงข้าง เคราร์ด ปิเก้ ดาวเตะบาร์เซโลน่า คนทำประตูในนัดก่อน

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม
ตุรกี : โวลคาน เดมิเรล - ซาบรี้ ซาริโอกลู, เอ็มเร่ อาซิค, อิบราฮิม คาส, ฮาคาน บัลต้า - โคลิน คาซิม ริชาร์ดส์, เมห์เม็ต ออเรลิโอ, อายฮาน อั๊คมาน, อาร์ด้า ตูราน - นิฮัต คาห์เวซี่ (กัปตันทีม), เซมีห์ เซนเติร์ก
สเปน : อีเกร์ กาซียาส (กัปตันทีม) - เซร์คิโอ รามอส, เคราร์ด ปิเก้, การ์ลอส มาร์เชน่า, โจน กัปเดบีล่า - ชาบี เอร์นานเดซ, ชาบี อลอนโซ่ - ซานติอาโก้ กาซอร์ล่า, ดาบิด ซิลบา, อัลเบิร์ต ริเอร่า - เฟร์นานโด ตอร์เรส
ผู้ตัดสิน: ไมค์ ไรลี่ย์ (อังกฤษ)


ฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม 8
อิตาลี - ไอร์แลนด์



มาร์เชลโล่ ลิปปี้ เทรนเนอร์ทีมอัซซูรี่ เพิ่งนำทีมบุกโค่น มอนเตเนโกร มาได้นิ่มๆ 2-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้เก็บแต้มฉีกหนี ไอร์แลนด์ ออกไปเป็น 2 แต้ม ขึ้นไปยึดจ่าฝูงของกลุ่มเต็มตัวแล้ว


ข่าวร้ายของ ลิปปี้ คืออาการบาดเจ็บของ อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ กองหน้าร่างเล็กของ อูดิเนเซ่ ที่เจ็บเส้นเอ็นหัวเข่าซ้ายตั้งแต่นาทีที่ 9 ของเกมกับ มอนเตเนโกร จนถึงขั้นต้องพักยาว


ก่อนหน้านี้ ลิปปี้ ต้องเจอปัญหาในแดนหน้าอยู่ก่อนแล้ว เมื่อไม่มีทั้ง ลูก้า โทนี่ และ อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ ที่บาดเจ็บ แต่อย่างไรก็ตาม ลิปปี้ ยังคงไม่เรียกกองหน้าคนใดเข้ามาเสริม


ระบบการเล่น 4-3-3 จานลุยจิ บุฟฟ่อน ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้งาน จานลูก้า ซัมบร็อตต้า, ฟาบิโอ คันนาวาโร่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่, ฟาบิโอ กรอสโซ่ แดนกลางมี อังเจโล ปาลอมโบ, อันเดรีย ปิร์โล่, ดานิเอเล่ เด รอสซี่ สามประสานแดนหน้าใช้ ฟาบิโอ กวายาเรลล่า, จามเปาโล ปาซซินี่, วินเชนโซ่ ยากวินต้า


ด้าน โจวานนี่ ตราปัตโตนี่ กุนซือชาวอิตาเลี่ยนของทีมยักษ์เขียว เพิ่งพลาดท่าโดน บัลแกเรีย ตีเสมอ 1-1 ในช่วงท้ายเกม จากการทำเข้าประตูตัวเองของ เควิน คิลบาน ทำให้สถานการณ์ต้องตกเป็นรอง อิตาลี 2 แต้ม


สภาพทีม ตราปัตโตนี่ ต้องชวดใช้งาน เดเมี่ยน ดัฟฟ์ ปีกซ้ายตัวเก่งจาก นิวคาสเซิ่ล แน่นอนแล้ว เพราะอาการบาดเจ็บต้นขา ทำให้ สตีเฟ่น ฮันท์ จะได้รับบทบาทดังกล่าวแทนต่อไป และไม่น่าจะมีการปรับทัพเพิ่มเติมในส่วนของตำแหน่งอื่นๆ


ระบบการเล่น 4-4-2 เชย์ กิฟเว่น ลงเฝ้าเสา แนวรับมี พอล แม็คเชน, ริชาร์ด ดันน์, จอห์น โอเช, เควิน คิลบาน กองกลางใช้บริการ ไอเด้น แม็คเกดี้, เกล็น วีแลน, คีธ แอนดรูว์ส, สตีเฟ่น ฮันท์ คู่หน้าใช้ ร็อบบี้ คีน เล่นกับ เควิน ดอยล์

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
อิตาลี (4-3-3) : จานลุยจิ บุฟฟ่อน, จานลูก้า ซัมบร็อตต้า, ฟาบิโอ คันนาวาโร่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่, ฟาบิโอ กรอสโซ่, อังเจโล ปาลอมโบ, อันเดรีย ปิร์โล่, ดานิเอเล่ เด รอสซี่, ฟาบิโอ กวายาเรลล่า, จามเปาโล ปาซซินี่, วินเชนโซ่ ยากวินต้า
ไอร์แลนด์ (4-4-2) : เชย์ กิฟเว่น, พอล แม็คเชน, ริชาร์ด ดันน์, จอห์น โอเช, เควิน คิลบาน, ไอเด้น แม็คเกดี้, เกล็น วีแลน, คีธ แอนดรูว์ส, สตีเฟ่น ฮันท์, ร็อบบี้ คีน, เควิน ดอยล์


ฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม 9
ฮอลแลนด์ - มาเซโดเนีย



เบิร์ต ฟาน มาร์ไวก์ กุนซือ ฮอลแลนด์ ทำทีมคว้าชัยชนะ 4 นัดรวด ยิงได้ 8 ลูก เสียประตูเดียวเท่านั้น โอกาสผ่านเข้ารอบสุดท้ายเป็นไปอย่างสดใส หลังถล่ม สกอตแลนด์ 3-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา


สภาพทีม ฟาน มาร์ไวก์ ต้องเสีย โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กองหน้า อาร์เซน่อล ที่โหม่งประตูที่สองในเกมที่แล้ว เนื่องจากเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า แต่ก็มี ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท, เวสลี่ย์ สไนเดอร์ และ อิบราฮิม อเฟลลาย รอสแตนด์บายอยู่แล้ว


แนวรุกของทีมอัศวินสีส้มยังคงเป็นจุดเด่น เพราะมีทั้ง คลาส-แยน ฮุนเตลาร์, อาร์เยน ร็อบเบน, เดิร์ค เค้าท์ และ เวสลี่ย์ สไนเดอร์ เป็นตัวหลัก


ระบบการเล่น 4-2-3-1 มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้งาน เกรกอรี่ ฟาน เดอร์ วีล, อังเดร ออยเยอร์, ยอริส มาไธจ์เซ่น, โจวานนี่ ฟาน บร็องค์ฮอร์สท์ แดนกลางมี มาร์ค ฟาน บอมเมล กับ ไนเจล เดอ ย็อง เป็นตัวรับ ส่วนตัวรุกใช้ เดิร์ค เค้าท์, เวสลี่ย์ สไนเดอร์, อาร์เยน ร็อบเบน หน้าเป้าเป็น คลาส-แยน ฮุนเตลาร์


ด้าน โกรัน เทเมลคอฟ กุนซือ มาเซโดเนีย ไม่มีโปรแกรมแข่งในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้สภาพทีมค่อนข้างสมบูรณ์ ตัวหลักอย่าง โกรัน ปานเดฟ, โกเซ่ เซดลอสกี้, อิกอร์ มิเตรสกี้, เวลิเช่ ซูมูลิโคสกี้ และ โกรัน มาซนอฟ ยังติดทีมชุดนี้ครบครัน


อย่างไรก็ตาม เปตาร์ มิโลเซฟสกี้ ประตูมือ 1 ได้ถอนตัวออกไปเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากได้รับบาดเจ็บ
ระบบการเล่น 4-4-2 ยาเน่ นิโคโลสกี้ ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้ นิโคลเซ่ โนเวสกี้, โกเซ่ เซดลอสกี้, อิกอร์ มิเตสกี้, โบบัน เกอร์ซารอฟ แดนกลางมี เวลิเซ่ ซูมูลิโคสกี้, โกรัน โปปอฟ, วลัตโก้ กรอซดานอสกี้, โรเบิร์ต เปตรอฟ คู่หน้า โกรัน มาซนอฟ ยืนคู่ โกรัน ปานเดฟ

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮอลแลนด์ (4-2-3-1) : มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก, เกรกอรี่ ฟาน เดอร์ วีล, อังเดร ออยเยอร์, ยอริส มาไธจ์เซ่น, โจวานนี่ ฟาน บร็องค์ฮอร์สท์, มาร์ค ฟาน บอมเมล, ไนเจล เดอ ย็อง, เดิร์ค เค้าท์, เวสลี่ย์ สไนเดอร์, อาร์เยน ร็อบเบน, คลาส-แยน ฮุนเตลาร์
มาเซโดเนีย (4-4-2) : ยาเน่ นิโคโลสกี้, นิโคลเซ่ โนเวสกี้, โกเซ่ เซดลอสกี้, อิกอร์ มิเตรสกี้, โบบัน เกอร์ซารอฟ, เวลิเซ่ ซูมูลิโคสกี้, โกรัน โปปอฟ, วลัตโก้ กรอซดานอสกี้, โรเบิร์ต เปตรอฟ, โกรัน มาซนอฟ, โกรัน ปานเดฟ


ฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม 4
เวลส์ - เยอรมัน


สนาม: มิลเลนเนี่ยม สเตเดี้ยม


ศึกสำคัญของทีมชาติเยอรมันในการบุกเยือนเวลส์ ที่คาร์ดิฟฟ์ โดยหมายมั่นปั้นมือว่าจะคว้าชัยให้ได้อีกนัดเพื่อการันตีการเข้ารอบสุดท้าย ขณะที่เวลส์ต้องการคว้าชัยให้ได้เช่นกันเพื่อยืดลมหายใจในการลุ้นผ่านเข้ารอบ หลังจากที่แพ้เกมล่าสุดให้กับฟินแลนด์คาบ้าน 0-2 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา


ทีมมังกรแดงของจอห์น โทแช็คในเกมนี้พยายามจัดทัพที่ดีที่สุดลงเตะเพื่อลุ้นคว่ำทีมชาติเยอรมันให้ได้ หลังจากที่แพ้ในการเจอกันหนแรกที่เยอรมันอย่างสูสี 0-1 ที่ทีมแทบไม่ได้ปรับเปลี่ยนตัวนักเตะมากมายนัก โดยโทแช็ค พยายามเน้นกลางแน่นไว้ก่อน แนวรับยังมีเกเร็ธ เบลจากท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์นำทัพลงลุยทางซ้ายเหมือนเดิม แดนกลางใช้แซม ริคเก็ตส์จากฮัลล์ ซิตี้นำทีมลงลุย เช่นเดียวกับเจสัน คูมาส มิดฟิลด์จากวีแกนที่จะเป็นตัวปั้นเกม ส่วนกองหน้าเตรียมส่งเคร็ก เบลลามี่ กับโรเบิร์ต เอิร์นชอว์ พร้อมพังประตู


ทางด้านทีมชาติเยอรมันของโยกี้ เลิฟ ได้ข่าวดีหลังจากที่บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ มิดฟิลด์ตัวเกมของบาเยิร์น มิวนิคได้รับบาดเจ็บที่เข่ากลับมาลงซ้อมได้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และฟิตสมบูรณ์ที่จะลงช่วยทีมได้อย่างไม่มีปัญหา โดยเลิฟน่าจะส่งพิโอเตอร์ โทรชอฟสกี้ กองกลางจากฮัมบูร์กลงปั้นเกมอีกครั้งหลังหายเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาแทนที่ของมาร์เซลล์ ยานเซ่นเพื่อนร่วมทีมที่มีสิทธิกลับไปนั่งสำรอง โดยทีมไม่มีแค่เรเน่ อ๊าดเลอร์ ผู้รักษาประตูเลเวอร์ฯที่เจ็บข้อศอกไม่ได้เดินทางมาร่วมกับทีมด้วย


นอกนั้นทัพอินทรีเหล็กแทบเป็นชุดเดิมทั้งหมด ผู้รักษาประตูใช้โรเบิร์ต เอ็งเค่เหมือนเดิม ราการหลังตัวกลางนำโดยแพร์ แมร์เตซัคเคอร์ ลงเล่นร่วมกับแซร์ดาร์ ทาสซี่ แบ็กขวาเป็นมัทธีอัส เบ็ค ทางซ้ายเป็นฟิลิปป์ ลาห์ม กองกลางมีมิชาเอล บัลลัค พร้อมเป็นจอมทัพนำทีมลงลุยร่วมกับโธมัส ฮิตเซิ่ลสแปร์เกอร์ เช่นเดียวกับพิโอเตอร์ โทรชอฟสกี้ และบาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ที่ทำเกมทางริมเส้น ส่วนคู่หัวหอกยังเป็นมาริโอ โกเมซ ที่จะได้โอกาสอีกครั้งในการลงถล่มประตูร่วมกับลูคัส โพดอลสกี้ กองหน้าจากบาเยิร์น มิวนิค

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เวลส์(3-3-2-2):เวย์น เฮนเนสซี่ย์-เจมส์ คอลลินส์,เลวิน ยาตานก้า,เกเร็ธ เบลล์-ไซมอน เดวิส,แซม ริคเก็ตส์,แอรอน แรมซี่ย์-คริส กุนเตอร์,เจสัน คูมาส-เคร็ก เบลลามี่,โรเบิร์ต เอิร์นชอว์
เยอรมัน(4-2-2-2):โรเบิร์ต เอ็งเค่-มัทธีอัส เบ็ค,แพร์ แมร์เตซัคเคอร์,แซร์ดาร์ ทาสซี่,ฟิลิปป์ ลาห์ม-มิชาเอล บัลลัค,โธมัส ฮิตเซิ่ลสแปร์เกอร์-บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์,บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์,พิโอเตอร์ โทรชอฟสกี้-มาริโอ โกเมซ,ลูคัส โพดอลสกี้
ผู้ตัดสิน: เทอร์เย่ เฮาเก้ (นอร์เวย์)




ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

กัลเลียนี่ปัดเลโอนาร์โด้ขึ้นกุมบังเหียนมิลาน




อาเดรียโน่ กัลเลียนี่ ขาใหญ่ เอซี มิลาน ปัดข่าวลือ เลโอนาร์โด้ จะก้าวขึ้นมาทำหน้าที่คุมทีมในฤดูกาลหน้าตามที่สื่อแดนมะกะโรนีคาดเดา ย้ำหน้าที่ของอดีตดาวเตะทีมชาติบราซิลคือรั้งตำแหน่งผู้อำนวยการสโมสรต่อไป รวมทั้งปฏิเสธการดึง โรแบร์โต้ มันชินี่ อดีตกุนซือ อินเตอร์ มิลาน เข้ามาทำหน้า เนื่องจากสไตล์การทำงานแตกต่างกันย่างสิ้นเชิง



อาเดรียโน่ กัลเลียนี่ รองประธานสโมสรเอซี มิลาน ยักษ์ใหญ่แห่งศึกกัลโช่ เซเรีย อา ออกมายืนยันว่า เลโอนาร์โด้ อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติบราซิล จะไม่ถูกแต่งตั้งให้รับหน้าที่เทรนเนอร์คนใหม่ของพวกเขาในฤดูกาลหน้าอย่างแน่นอน และจะทำงานในฐานะผู้อำนวยการสโมสรต่อไป

ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเช้าวันอังคารสื่อเมืองมะกะโรนี ประโคมข่าวว่า อดีตดาวเตะชุดแชมป์โลก 1994 จะเข้ามากุมบังเหียนแทน คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือคนปัจจุบันที่ชะตาใกล้จะขาดเต็มที่ และเขายังมีข่าวว่าอาจย้ายไปคุม "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ยอดทีมแห่งสเปน แทนอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม กัลเลียนี่ ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงแม้แต่นิดเดียว "ผมอยากที่จะกล่าวย้ำอย่างเป็นทางการว่า เลโอนาร์โด้ จะทำหน้าที่ผู้อำนวยการสโมสร มิลาน ต่อไปในฤดูกาลหน้า เขาจะไม่ได้เป็นโค้ช สำหรับตอนนี้ เลโอนาร์โด้ อยู่ในหลักสูตรที่จะเข้ารับการทดสอบเพื่อที่จะขอใบอนุญาตเป็นโค้ชระดับ 2"

ส่วนข่าวที่อ้างว่าจะดึง โรแบร์โต้ มันชินี่ อดีตเทรนเนอร์ "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน มาคุมทีมนั้น ขาใหญ่แห่งถิ่น ซาน ซิโร่ ยืนยันว่าคงไม่มีทาง "มันชินี่ กับ มิลาน นะเหรอ ? ผมคิดว่ามันคงเป็นเรื่องยาก เพราะสไตล์การทำทีมในช่วงที่ผ่านมาของเขา มันแตกต่างจากเรามาก"




ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

มาสเคถ่อมตัวบอกเป็นแค่ส่วนหนึ่งทีมฟ้า-ขาว




ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ห้องเครื่อง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ถ่อมตัว บอกตนก็เป็นแค่เพียงนักเตะคนหนึ่งของทีมชาติอาร์เจนตินา เท่านั้น ไม่ได้ดีเลิศอะไรมากมายเหมือนที่ได้รับการยกย่องจาก "เสือเตี้ย" ดีเอโก้ มาราโดน่า ว่าเป็นขุนพลที่ทัพลูกหนัง "ฟ้า-ขาว" จะขาดไปเสียไม่ได้


ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ กัปตันทีมชาติอาร์เจนตินา จากสโมสร ลิเวอร์พูล แห่งศึกพรีเมียร์ลีก แสดงอาการอ่อนน้อมถ่อมตนสุดขีด ระบุว่า เขาก็เป็นแค่สมาชิกคนหนึ่งของทัพ "ฟ้า-ขาว" เท่านั้น แม้จะได้รับการยกย่องจาก ดีเอโก้ มาราโดน่า เจ้านายคนเก่ง มาแล้วหลายครั้งก็ตาม

มาสเคราโน่ ยืนยืนว่า เขาไม่ใช่นักเตะที่ อาร์เจนตินา ขาดไม่ได้เด็ดขาด ตามที่ได้รับคำชมอย่างแน่นอน โดยระบุว่า "มันก็เป็นเพียงแค่คำชม ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้นหรอก แน่นอนผมชอบมาก เมื่อพวกเขาพูดถึงผมดีๆ แบบนั้น แต่ผมก็เป็นแค่สมาชิกอีกคนหนึ่งของทีมแค่นั้นเอง"

พร้อมกันนั้น ห้องเครื่อง "หงส์แดง" ยังกล่าวถึงเกมที่ "ฟ้า-ขาว" จะต้องทำศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก กับ โบลิเวีย วันพุธที่ 1 เม.ย. นี้ โดยเสริมว่า "เราจะต้องเล่นกับ โบลิเวีย เรารับรู้ถึงตำแหน่งของเราแล้ว ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลให้เราต้องเล่นกันอย่างชาญฉลาด และเล่นในเกมของเรา เราจะมองไปถึง 3 แต้มแน่นอน เพราะเรารู้ว่า มันเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่จะชนะ เพื่อขยับเข้าไปใกล้ฟุตบอลโลก 2010 ให้มากกว่านี้"




ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

ทูนอาร์มี่เฮเชียเรอร์เตรียมคุมสาลิกากู้วิกฤต




สื่อเมืองผู้ดี ต่างพร้อมใจกันรายงานข่าวดีให้ "ทูนอาร์มี่" ได้เฮกันยกใหญ่ หลังจาก "ฮอตชอต" อลัน เชียเรอร์ อดีตกองหน้ากัปตันทีมนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เตรียมเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีมบ้านเกิด ไปจนจบฤดูกาลนี้ เพื่อกู้วิกฤตพาทีมหนีตกชั้น และคาดว่าจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเช้าวันพฤหัสบดีนี้ตามเวลาท้องถิ่น



รายงานข่าวโทรทัศน์จากสถานีอังกฤษทั้ง สกายสปอร์ต นิวส์ และ บีบีซี สปอร์ต รวมทั้ง สื่อท้องถิ่น พากันโหมข่าวเป็นเป็นกระแสเดียวกันว่า อลัน เชียเรอร์ อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษ และ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เตรียมกลับสู่ถิ่น เซนต์ เจมส์ พาร์ค ในฐานะผู้จัดการทีม เพื่อกอบกู้วิกฤตนำขุนพล "สาลิกาดง" ที่รั้งอันดับ 18 ในตารางพรีเมียร์ลีก หนีการตกชั้นใน 8 นัดที่เหลือของฤดูกาลนี้

ตำนานดาวยิงของ "เดอะ แม็กพายส์" วัย 38 ปี ทำหน้าที่นักวิจารณ์ทางช่อง บีบีซี จะมารั้งบังเหียนแทน คริส ฮิวจ์ตัน กุนซือรักษาการณ์แทน โจ คินเนียร์ ผู้จัดการทีมมือเก๋าวัย 62 ปีที่ตอนนี้กำลังพักฟื้นจากการผ่าตัดบายพาสเส้นเลือดหัวใจ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

คินเนียร์ ที่ ไมค์ แอชลี่ย์ เจ้าของสโมสร ให้ความนับถืออย่างมากนั้น มีกำหนดต้องไปพบผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจ วันจันทร์หน้า เพื่อตัดสินว่าเขาฟิตพอจะกลับมาทำหน้าที่ข้างสนามได้หรือเปล่า อย่างไรก็ตาม เป็นที่พูดกันว่าเขาอาจได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นไปเป็นผู้อำนวยการฟุตบอลแทน เพื่อหลีกทางให้ เชียเรอร์

สกาย สปอร์ต นิวส์ และ บีบีซี ต่างรายงานข่าวด่วนช่วงดึกวันอังคารว่า เชียเรอร์ จะมารับตำแหน่งผู้จัดการทีม โดยเจ้าแรกระบุว่าสโมสรจะเปิดตัวเขาอย่างเป็นทางการ ตอนเช้าวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่ แหล่งข่าวสโมสร ได้บอก สำนักข่าวรอยเตอร์สว่า อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ จะแถลงข่าวในวันพฤหัสบดีเช่นกัน และ ด้วยเหตุนี้ สโมสรจึงไม่ขอให้ความเห็นใดๆ จนกว่าจะถึงตอนนั้น

หากทุกอย่างเป็นไปตามนี้ เชียเรอร์ จะประเดิมคุมทีมนัดแรกในเกมที่ นิวคาสเซิ่ล เปิดบ้านพบ เชลซี วันเสาร์นี้ ก่อนจะตามด้วยแมตช์กับ สโต๊ค ซิตี้, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, พอร์ทสมัธ, ลิเวอร์พูล, มิดเดิ้ลสโบรซ์ อริร่วมแถบภาคอีสาน, ฟูแล่ม และ แอสตัน วิลล่า




........................................................................................................................................................................



ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

เชลซีหนาว!บาร์ซ่าจ้องดึงเช็กเฝ้าเสาแทนบัลเดส




ลือสนั่นเมืองกระทิงดุ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า กำลังเล็งกระชากตัว ปีเตอร์ เช็ก ยอดมือกาว เชลซี มาเฝ้าเสาแทน บิคตอร์ บัลเดส โกล์มือ 1 ที่อาจอำลาถิ่น คัมป์ นู ในเร็ววันนี้


บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที ลา ลีกา สเปน ตกเป็นข่าว เมื่อวันอังคารที่ 31 มีนาคม ที่ผ่านมาว่า อาจจะดำเนินการเซ็นสัญญาคว้าตัว ปีเตอร์ เช็ก ผู้รักษาประตูจอมหนึบของ เชลซี สโมสรชั้นนำในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาเฝ้าเสาในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยหวังให้มาแทนที่ บิคตอร์ บัลเดส นายทวารจอมเหวอ ที่ส่อแววหมดอนาคตในถิ่น คัมป์ นู


เช็ก ได้รับการยกย่องว่า เป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดคนหนึ่งในยุโรป ซึ่ง "เอล มุนโด้ เดปอร์ติโบ" หนังสือพิมพ์กีฬาชื่อดังแดนกระทิงดุ รายงานว่า "เจ้าบุญทุ่ม" ที่กำลังมีปัญหาในตำแหน่งโกล์มือ 1 นั้น คือหนึ่งในหลายทีมที่ให้ความสนใจในฝีไม้ลายมือของนายด่านทีมชาติสาธารณรัฐเช็กวัย 26 ปี


ขณะที่มือกาวตัวจริงอย่าง บัลเดส ยังไม่ได้เซ็นสัญญาฉบับใหม่เลย และก็เชื่อกันว่า เขาเรียกร้องเงินมากกว่าที่สโมสรยินดีจ่ายให้อีกด้วย และจากการที่สัญญาฉบับปัจจุบันกำลังจะหมดลงในเร็ววันนี้ อาจจะทำให้ บาร์ซ่า ตัดสินใจขายนายทวารชาวสแปนิชวัย 27 ปี ออกไปเพื่อนำเงินเข้ามาสู่สโมสร ถ้าหากเจ้าตัวไม่ยอมต่อสัญญาออกไป


"เดลี่ เมล์" หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์เมืองผู้ดี อ้างคำพูดของ เช็ก ที่เคยให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อปี 2007 ว่า "ผมสามารถจินตนาการว่าตัวเองจะอยู่ในอังกฤษต่อไปหรือเปล่า? ผมไม่สามารถให้คำตอบได้ แต่ผมมีความสุขกับ เชลซี มาก และตัวผมเองก็เริ่มหลงรัก พรีเมียร์ลีก แล้วด้วย ผมเคยชินกับการใช้ชีวิตในกรุงลอนดอนแล้ว ซึ่งทั้งภรรยาของผมและตัวผมเองต่างก็ชอบมัน แต่ในกรณีที่ บาร์เซโลน่า ให้ความสนใจนั้น ใช่ แน่นอนอยู่แล้วว่า มันควรค่าที่จะได้รับการพิจารณา"




........................................................................................................................................................................



ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

ตอร์ยืนเป้ายิงเติร์ก,เลี่ยนไร้คมฉะไอริช




"กระทิงดุ" สเปน บุกรัง "ไก่งวง" ตุรกี เกมนี้ไม่เสี่ยงส่ง ดาวิด บีย่า เชื่อส่ง เฟร์นานโด ตอร์เรส สตาร์ลิเวอร์พูล ยืนหน้าเป้า ถ้าชนะการันตีเข้ารอบ ขณะที่ "อัซซูรี่" อิตาลี ไม่ปรับทัพแม้กองหน้าขาดแคลน เปิดบ้านปะทะ "ยักษ์เขียว" ไอร์แลนด์ ในเกมฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนยุโรป คืนนี้


ฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม 5
ตุรกี - สเปน


สนาม: อาลี ซามี เยน, อิสตันบูล, ตุรกี


ฟาติห์ เตริม กุนซือคนเก่งของทีม "ไก่งวง" ทีมชาติตุรกี ยังพอใจกับฟอร์มของลูกทีม แม้จะออกไปแพ้ให้กับ สเปน ทีมจ่าฝูงมา 0-1 ที่สนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว เมื่อวันเสาร์ที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา หล่นมาอยู่อันดับ 3 ของกลุ่ม โดยหวังจะกลับมาแก้ตัวในการเล่นที่อาลี ซามี เยน บ้านตัวเองวันพุธที่ 1 เมษายน นี้


สำหรับตัวหลักในแดนหน้ายังไว้วางใจในความสามารถของ นิฮัต คาห์เวซี่ ดาวยิงจากสโมสร บียาร์เรอัล ในลา ลีกา สเปน และ ตุนกาย ซานลี่ ดาวดังจากมิดเดิ้ลสโบรช์ แต่ไม่มี เซอร์เว็ต เซติน กับ ฮาลิล อัลตินท็อป ที่บาดเจ็บ ส่วน เอเรน กุนกอร์, เอ็มเร่ เบโลโซกลู กับ ฮามิต อัลตินท็อป ที่เจ็บเล็กน้อยพร้อมลงสนาม


ทีมเติร์กจะลงเล่นระบบ 4-4-2 แดนกลางมี โคลิน คาซิม ริชาร์ดส์ ลงทำเกมร่วมกับ เมห์เม็ต ออเรลิโอ, อายฮาน อั๊คมาน และ อาร์ดา ตูราน ส่วน นิฮัต คาห์เวซี่ หรือ ตุนกาย ซานลี่ ลงเล่นกองหน้าคู่ ซามีห์ เซนเติร์ก


ทางด้าน "กระทิงดุ" ทีมชาติสเปน แชมป์ยูโร 2008 โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดไม่แพ้ใครตั้งแต่ปี 2006 รวม 30 นัดเข้าให้แล้วหลังจากเฉือนชนะตุรกี 1-0 นัดล่าสุด นำโด่งเป็นจ่าฝูงกลุ่ม 5 ชนะรวด 5 นัด มี 15 แต้ม ทิ้งอันดับ 2 บอสเนียฯ 6 แต้ม ซึ่งถ้าเอาชนะนัดนี้ได้ น่าจะทำให้ทีม "กระทิงดุ" มีโอกาสสดใสที่จะเข้าป้ายในอันดับ 1 และเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายที่แอฟริกาใต้ ปีหน้า แบบอัตโนมัติ


ความพร้อมชุดนี้ต้องรอเช็กความฟิตของ ดาวิด บีย่า กองหน้าตัวเก่งของบาเลนเซีย ซึ่ง บิเซนเต้ เดล บอสเก้ กุนซือของสเปน อาจตัดสินดร็อปเอาไว้ข้างสนามก่อนแล้วปรับจาก 4-4-2 มาเล่น 4-2-3-1 เพื่อความรัดกุมมากขึ้นด้วย โดยอาจส่ง เฟร์นานโด ตอร์เรส สตาร์ลิเวอร์พูล ยืนหน้าเป้า


ส่วน อัลเบิร์ต ริเอร่า ที่ไม่มีส่วนร่วมในเกมล่าสุดจะกลับมาเล่นตัวจริงในตำแหน่งปีกซ้าย พร้อมได้ ดาบิด ซิลบา คอยสร้างสรรค์เกม ขณะที่ ซานติอาโก้ กาซอร์ล่า ทำเกมฝั่งขวา


แนวรับมอบตัวจริงให้ การ์ลอส มาร์เชน่า ที่หายเจ็บกลับมาลงเล่นแทน ราอูล อัลบิโอล ยืนเคียงข้าง เคราร์ด ปิเก้ ดาวเตะบาร์เซโลน่า คนทำประตูในนัดก่อน

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม
ตุรกี : โวลคาน เดมิเรล - ซาบรี้ ซาริโอกลู, เอ็มเร่ อาซิค, อิบราฮิม คาส, ฮาคาน บัลต้า - โคลิน คาซิม ริชาร์ดส์, เมห์เม็ต ออเรลิโอ, อายฮาน อั๊คมาน, อาร์ด้า ตูราน - นิฮัต คาห์เวซี่ (กัปตันทีม), เซมีห์ เซนเติร์ก
สเปน : อีเกร์ กาซียาส (กัปตันทีม) - เซร์คิโอ รามอส, เคราร์ด ปิเก้, การ์ลอส มาร์เชน่า, โจน กัปเดบีล่า - ชาบี เอร์นานเดซ, ชาบี อลอนโซ่ - ซานติอาโก้ กาซอร์ล่า, ดาบิด ซิลบา, อัลเบิร์ต ริเอร่า - เฟร์นานโด ตอร์เรส
ผู้ตัดสิน: ไมค์ ไรลี่ย์ (อังกฤษ)


ฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม 8
อิตาลี - ไอร์แลนด์



มาร์เชลโล่ ลิปปี้ เทรนเนอร์ทีมอัซซูรี่ เพิ่งนำทีมบุกโค่น มอนเตเนโกร มาได้นิ่มๆ 2-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้เก็บแต้มฉีกหนี ไอร์แลนด์ ออกไปเป็น 2 แต้ม ขึ้นไปยึดจ่าฝูงของกลุ่มเต็มตัวแล้ว


ข่าวร้ายของ ลิปปี้ คืออาการบาดเจ็บของ อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ กองหน้าร่างเล็กของ อูดิเนเซ่ ที่เจ็บเส้นเอ็นหัวเข่าซ้ายตั้งแต่นาทีที่ 9 ของเกมกับ มอนเตเนโกร จนถึงขั้นต้องพักยาว


ก่อนหน้านี้ ลิปปี้ ต้องเจอปัญหาในแดนหน้าอยู่ก่อนแล้ว เมื่อไม่มีทั้ง ลูก้า โทนี่ และ อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ ที่บาดเจ็บ แต่อย่างไรก็ตาม ลิปปี้ ยังคงไม่เรียกกองหน้าคนใดเข้ามาเสริม


ระบบการเล่น 4-3-3 จานลุยจิ บุฟฟ่อน ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้งาน จานลูก้า ซัมบร็อตต้า, ฟาบิโอ คันนาวาโร่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่, ฟาบิโอ กรอสโซ่ แดนกลางมี อังเจโล ปาลอมโบ, อันเดรีย ปิร์โล่, ดานิเอเล่ เด รอสซี่ สามประสานแดนหน้าใช้ ฟาบิโอ กวายาเรลล่า, จามเปาโล ปาซซินี่, วินเชนโซ่ ยากวินต้า


ด้าน โจวานนี่ ตราปัตโตนี่ กุนซือชาวอิตาเลี่ยนของทีมยักษ์เขียว เพิ่งพลาดท่าโดน บัลแกเรีย ตีเสมอ 1-1 ในช่วงท้ายเกม จากการทำเข้าประตูตัวเองของ เควิน คิลบาน ทำให้สถานการณ์ต้องตกเป็นรอง อิตาลี 2 แต้ม


สภาพทีม ตราปัตโตนี่ ต้องชวดใช้งาน เดเมี่ยน ดัฟฟ์ ปีกซ้ายตัวเก่งจาก นิวคาสเซิ่ล แน่นอนแล้ว เพราะอาการบาดเจ็บต้นขา ทำให้ สตีเฟ่น ฮันท์ จะได้รับบทบาทดังกล่าวแทนต่อไป และไม่น่าจะมีการปรับทัพเพิ่มเติมในส่วนของตำแหน่งอื่นๆ


ระบบการเล่น 4-4-2 เชย์ กิฟเว่น ลงเฝ้าเสา แนวรับมี พอล แม็คเชน, ริชาร์ด ดันน์, จอห์น โอเช, เควิน คิลบาน กองกลางใช้บริการ ไอเด้น แม็คเกดี้, เกล็น วีแลน, คีธ แอนดรูว์ส, สตีเฟ่น ฮันท์ คู่หน้าใช้ ร็อบบี้ คีน เล่นกับ เควิน ดอยล์

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
อิตาลี (4-3-3) : จานลุยจิ บุฟฟ่อน, จานลูก้า ซัมบร็อตต้า, ฟาบิโอ คันนาวาโร่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่, ฟาบิโอ กรอสโซ่, อังเจโล ปาลอมโบ, อันเดรีย ปิร์โล่, ดานิเอเล่ เด รอสซี่, ฟาบิโอ กวายาเรลล่า, จามเปาโล ปาซซินี่, วินเชนโซ่ ยากวินต้า
ไอร์แลนด์ (4-4-2) : เชย์ กิฟเว่น, พอล แม็คเชน, ริชาร์ด ดันน์, จอห์น โอเช, เควิน คิลบาน, ไอเด้น แม็คเกดี้, เกล็น วีแลน, คีธ แอนดรูว์ส, สตีเฟ่น ฮันท์, ร็อบบี้ คีน, เควิน ดอยล์


ฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม 9
ฮอลแลนด์ - มาเซโดเนีย



เบิร์ต ฟาน มาร์ไวก์ กุนซือ ฮอลแลนด์ ทำทีมคว้าชัยชนะ 4 นัดรวด ยิงได้ 8 ลูก เสียประตูเดียวเท่านั้น โอกาสผ่านเข้ารอบสุดท้ายเป็นไปอย่างสดใส หลังถล่ม สกอตแลนด์ 3-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา


สภาพทีม ฟาน มาร์ไวก์ ต้องเสีย โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กองหน้า อาร์เซน่อล ที่โหม่งประตูที่สองในเกมที่แล้ว เนื่องจากเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า แต่ก็มี ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท, เวสลี่ย์ สไนเดอร์ และ อิบราฮิม อเฟลลาย รอสแตนด์บายอยู่แล้ว


แนวรุกของทีมอัศวินสีส้มยังคงเป็นจุดเด่น เพราะมีทั้ง คลาส-แยน ฮุนเตลาร์, อาร์เยน ร็อบเบน, เดิร์ค เค้าท์ และ เวสลี่ย์ สไนเดอร์ เป็นตัวหลัก


ระบบการเล่น 4-2-3-1 มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้งาน เกรกอรี่ ฟาน เดอร์ วีล, อังเดร ออยเยอร์, ยอริส มาไธจ์เซ่น, โจวานนี่ ฟาน บร็องค์ฮอร์สท์ แดนกลางมี มาร์ค ฟาน บอมเมล กับ ไนเจล เดอ ย็อง เป็นตัวรับ ส่วนตัวรุกใช้ เดิร์ค เค้าท์, เวสลี่ย์ สไนเดอร์, อาร์เยน ร็อบเบน หน้าเป้าเป็น คลาส-แยน ฮุนเตลาร์


ด้าน โกรัน เทเมลคอฟ กุนซือ มาเซโดเนีย ไม่มีโปรแกรมแข่งในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้สภาพทีมค่อนข้างสมบูรณ์ ตัวหลักอย่าง โกรัน ปานเดฟ, โกเซ่ เซดลอสกี้, อิกอร์ มิเตรสกี้, เวลิเช่ ซูมูลิโคสกี้ และ โกรัน มาซนอฟ ยังติดทีมชุดนี้ครบครัน


อย่างไรก็ตาม เปตาร์ มิโลเซฟสกี้ ประตูมือ 1 ได้ถอนตัวออกไปเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากได้รับบาดเจ็บ
ระบบการเล่น 4-4-2 ยาเน่ นิโคโลสกี้ ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้ นิโคลเซ่ โนเวสกี้, โกเซ่ เซดลอสกี้, อิกอร์ มิเตสกี้, โบบัน เกอร์ซารอฟ แดนกลางมี เวลิเซ่ ซูมูลิโคสกี้, โกรัน โปปอฟ, วลัตโก้ กรอซดานอสกี้, โรเบิร์ต เปตรอฟ คู่หน้า โกรัน มาซนอฟ ยืนคู่ โกรัน ปานเดฟ

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮอลแลนด์ (4-2-3-1) : มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก, เกรกอรี่ ฟาน เดอร์ วีล, อังเดร ออยเยอร์, ยอริส มาไธจ์เซ่น, โจวานนี่ ฟาน บร็องค์ฮอร์สท์, มาร์ค ฟาน บอมเมล, ไนเจล เดอ ย็อง, เดิร์ค เค้าท์, เวสลี่ย์ สไนเดอร์, อาร์เยน ร็อบเบน, คลาส-แยน ฮุนเตลาร์
มาเซโดเนีย (4-4-2) : ยาเน่ นิโคโลสกี้, นิโคลเซ่ โนเวสกี้, โกเซ่ เซดลอสกี้, อิกอร์ มิเตรสกี้, โบบัน เกอร์ซารอฟ, เวลิเซ่ ซูมูลิโคสกี้, โกรัน โปปอฟ, วลัตโก้ กรอซดานอสกี้, โรเบิร์ต เปตรอฟ, โกรัน มาซนอฟ, โกรัน ปานเดฟ


ฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม 4
เวลส์ - เยอรมัน


สนาม: มิลเลนเนี่ยม สเตเดี้ยม


ศึกสำคัญของทีมชาติเยอรมันในการบุกเยือนเวลส์ ที่คาร์ดิฟฟ์ โดยหมายมั่นปั้นมือว่าจะคว้าชัยให้ได้อีกนัดเพื่อการันตีการเข้ารอบสุดท้าย ขณะที่เวลส์ต้องการคว้าชัยให้ได้เช่นกันเพื่อยืดลมหายใจในการลุ้นผ่านเข้ารอบ หลังจากที่แพ้เกมล่าสุดให้กับฟินแลนด์คาบ้าน 0-2 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา


ทีมมังกรแดงของจอห์น โทแช็คในเกมนี้พยายามจัดทัพที่ดีที่สุดลงเตะเพื่อลุ้นคว่ำทีมชาติเยอรมันให้ได้ หลังจากที่แพ้ในการเจอกันหนแรกที่เยอรมันอย่างสูสี 0-1 ที่ทีมแทบไม่ได้ปรับเปลี่ยนตัวนักเตะมากมายนัก โดยโทแช็ค พยายามเน้นกลางแน่นไว้ก่อน แนวรับยังมีเกเร็ธ เบลจากท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์นำทัพลงลุยทางซ้ายเหมือนเดิม แดนกลางใช้แซม ริคเก็ตส์จากฮัลล์ ซิตี้นำทีมลงลุย เช่นเดียวกับเจสัน คูมาส มิดฟิลด์จากวีแกนที่จะเป็นตัวปั้นเกม ส่วนกองหน้าเตรียมส่งเคร็ก เบลลามี่ กับโรเบิร์ต เอิร์นชอว์ พร้อมพังประตู


ทางด้านทีมชาติเยอรมันของโยกี้ เลิฟ ได้ข่าวดีหลังจากที่บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ มิดฟิลด์ตัวเกมของบาเยิร์น มิวนิคได้รับบาดเจ็บที่เข่ากลับมาลงซ้อมได้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และฟิตสมบูรณ์ที่จะลงช่วยทีมได้อย่างไม่มีปัญหา โดยเลิฟน่าจะส่งพิโอเตอร์ โทรชอฟสกี้ กองกลางจากฮัมบูร์กลงปั้นเกมอีกครั้งหลังหายเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาแทนที่ของมาร์เซลล์ ยานเซ่นเพื่อนร่วมทีมที่มีสิทธิกลับไปนั่งสำรอง โดยทีมไม่มีแค่เรเน่ อ๊าดเลอร์ ผู้รักษาประตูเลเวอร์ฯที่เจ็บข้อศอกไม่ได้เดินทางมาร่วมกับทีมด้วย


นอกนั้นทัพอินทรีเหล็กแทบเป็นชุดเดิมทั้งหมด ผู้รักษาประตูใช้โรเบิร์ต เอ็งเค่เหมือนเดิม ราการหลังตัวกลางนำโดยแพร์ แมร์เตซัคเคอร์ ลงเล่นร่วมกับแซร์ดาร์ ทาสซี่ แบ็กขวาเป็นมัทธีอัส เบ็ค ทางซ้ายเป็นฟิลิปป์ ลาห์ม กองกลางมีมิชาเอล บัลลัค พร้อมเป็นจอมทัพนำทีมลงลุยร่วมกับโธมัส ฮิตเซิ่ลสแปร์เกอร์ เช่นเดียวกับพิโอเตอร์ โทรชอฟสกี้ และบาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ที่ทำเกมทางริมเส้น ส่วนคู่หัวหอกยังเป็นมาริโอ โกเมซ ที่จะได้โอกาสอีกครั้งในการลงถล่มประตูร่วมกับลูคัส โพดอลสกี้ กองหน้าจากบาเยิร์น มิวนิค

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เวลส์(3-3-2-2):เวย์น เฮนเนสซี่ย์-เจมส์ คอลลินส์,เลวิน ยาตานก้า,เกเร็ธ เบลล์-ไซมอน เดวิส,แซม ริคเก็ตส์,แอรอน แรมซี่ย์-คริส กุนเตอร์,เจสัน คูมาส-เคร็ก เบลลามี่,โรเบิร์ต เอิร์นชอว์
เยอรมัน(4-2-2-2):โรเบิร์ต เอ็งเค่-มัทธีอัส เบ็ค,แพร์ แมร์เตซัคเคอร์,แซร์ดาร์ ทาสซี่,ฟิลิปป์ ลาห์ม-มิชาเอล บัลลัค,โธมัส ฮิตเซิ่ลสแปร์เกอร์-บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์,บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์,พิโอเตอร์ โทรชอฟสกี้-มาริโอ โกเมซ,ลูคัส โพดอลสกี้
ผู้ตัดสิน: เทอร์เย่ เฮาเก้ (นอร์เวย์)




ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

กัลเลียนี่ปัดเลโอนาร์โด้ขึ้นกุมบังเหียนมิลาน




อาเดรียโน่ กัลเลียนี่ ขาใหญ่ เอซี มิลาน ปัดข่าวลือ เลโอนาร์โด้ จะก้าวขึ้นมาทำหน้าที่คุมทีมในฤดูกาลหน้าตามที่สื่อแดนมะกะโรนีคาดเดา ย้ำหน้าที่ของอดีตดาวเตะทีมชาติบราซิลคือรั้งตำแหน่งผู้อำนวยการสโมสรต่อไป รวมทั้งปฏิเสธการดึง โรแบร์โต้ มันชินี่ อดีตกุนซือ อินเตอร์ มิลาน เข้ามาทำหน้า เนื่องจากสไตล์การทำงานแตกต่างกันย่างสิ้นเชิง



อาเดรียโน่ กัลเลียนี่ รองประธานสโมสรเอซี มิลาน ยักษ์ใหญ่แห่งศึกกัลโช่ เซเรีย อา ออกมายืนยันว่า เลโอนาร์โด้ อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติบราซิล จะไม่ถูกแต่งตั้งให้รับหน้าที่เทรนเนอร์คนใหม่ของพวกเขาในฤดูกาลหน้าอย่างแน่นอน และจะทำงานในฐานะผู้อำนวยการสโมสรต่อไป

ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเช้าวันอังคารสื่อเมืองมะกะโรนี ประโคมข่าวว่า อดีตดาวเตะชุดแชมป์โลก 1994 จะเข้ามากุมบังเหียนแทน คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือคนปัจจุบันที่ชะตาใกล้จะขาดเต็มที่ และเขายังมีข่าวว่าอาจย้ายไปคุม "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ยอดทีมแห่งสเปน แทนอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม กัลเลียนี่ ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงแม้แต่นิดเดียว "ผมอยากที่จะกล่าวย้ำอย่างเป็นทางการว่า เลโอนาร์โด้ จะทำหน้าที่ผู้อำนวยการสโมสร มิลาน ต่อไปในฤดูกาลหน้า เขาจะไม่ได้เป็นโค้ช สำหรับตอนนี้ เลโอนาร์โด้ อยู่ในหลักสูตรที่จะเข้ารับการทดสอบเพื่อที่จะขอใบอนุญาตเป็นโค้ชระดับ 2"

ส่วนข่าวที่อ้างว่าจะดึง โรแบร์โต้ มันชินี่ อดีตเทรนเนอร์ "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน มาคุมทีมนั้น ขาใหญ่แห่งถิ่น ซาน ซิโร่ ยืนยันว่าคงไม่มีทาง "มันชินี่ กับ มิลาน นะเหรอ ? ผมคิดว่ามันคงเป็นเรื่องยาก เพราะสไตล์การทำทีมในช่วงที่ผ่านมาของเขา มันแตกต่างจากเรามาก"




ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

มาสเคถ่อมตัวบอกเป็นแค่ส่วนหนึ่งทีมฟ้า-ขาว




ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ห้องเครื่อง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ถ่อมตัว บอกตนก็เป็นแค่เพียงนักเตะคนหนึ่งของทีมชาติอาร์เจนตินา เท่านั้น ไม่ได้ดีเลิศอะไรมากมายเหมือนที่ได้รับการยกย่องจาก "เสือเตี้ย" ดีเอโก้ มาราโดน่า ว่าเป็นขุนพลที่ทัพลูกหนัง "ฟ้า-ขาว" จะขาดไปเสียไม่ได้


ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ กัปตันทีมชาติอาร์เจนตินา จากสโมสร ลิเวอร์พูล แห่งศึกพรีเมียร์ลีก แสดงอาการอ่อนน้อมถ่อมตนสุดขีด ระบุว่า เขาก็เป็นแค่สมาชิกคนหนึ่งของทัพ "ฟ้า-ขาว" เท่านั้น แม้จะได้รับการยกย่องจาก ดีเอโก้ มาราโดน่า เจ้านายคนเก่ง มาแล้วหลายครั้งก็ตาม

มาสเคราโน่ ยืนยืนว่า เขาไม่ใช่นักเตะที่ อาร์เจนตินา ขาดไม่ได้เด็ดขาด ตามที่ได้รับคำชมอย่างแน่นอน โดยระบุว่า "มันก็เป็นเพียงแค่คำชม ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้นหรอก แน่นอนผมชอบมาก เมื่อพวกเขาพูดถึงผมดีๆ แบบนั้น แต่ผมก็เป็นแค่สมาชิกอีกคนหนึ่งของทีมแค่นั้นเอง"

พร้อมกันนั้น ห้องเครื่อง "หงส์แดง" ยังกล่าวถึงเกมที่ "ฟ้า-ขาว" จะต้องทำศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก กับ โบลิเวีย วันพุธที่ 1 เม.ย. นี้ โดยเสริมว่า "เราจะต้องเล่นกับ โบลิเวีย เรารับรู้ถึงตำแหน่งของเราแล้ว ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลให้เราต้องเล่นกันอย่างชาญฉลาด และเล่นในเกมของเรา เราจะมองไปถึง 3 แต้มแน่นอน เพราะเรารู้ว่า มันเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่จะชนะ เพื่อขยับเข้าไปใกล้ฟุตบอลโลก 2010 ให้มากกว่านี้"




ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

ทูนอาร์มี่เฮเชียเรอร์เตรียมคุมสาลิกากู้วิกฤต




สื่อเมืองผู้ดี ต่างพร้อมใจกันรายงานข่าวดีให้ "ทูนอาร์มี่" ได้เฮกันยกใหญ่ หลังจาก "ฮอตชอต" อลัน เชียเรอร์ อดีตกองหน้ากัปตันทีมนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เตรียมเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีมบ้านเกิด ไปจนจบฤดูกาลนี้ เพื่อกู้วิกฤตพาทีมหนีตกชั้น และคาดว่าจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเช้าวันพฤหัสบดีนี้ตามเวลาท้องถิ่น



รายงานข่าวโทรทัศน์จากสถานีอังกฤษทั้ง สกายสปอร์ต นิวส์ และ บีบีซี สปอร์ต รวมทั้ง สื่อท้องถิ่น พากันโหมข่าวเป็นเป็นกระแสเดียวกันว่า อลัน เชียเรอร์ อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษ และ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เตรียมกลับสู่ถิ่น เซนต์ เจมส์ พาร์ค ในฐานะผู้จัดการทีม เพื่อกอบกู้วิกฤตนำขุนพล "สาลิกาดง" ที่รั้งอันดับ 18 ในตารางพรีเมียร์ลีก หนีการตกชั้นใน 8 นัดที่เหลือของฤดูกาลนี้

ตำนานดาวยิงของ "เดอะ แม็กพายส์" วัย 38 ปี ทำหน้าที่นักวิจารณ์ทางช่อง บีบีซี จะมารั้งบังเหียนแทน คริส ฮิวจ์ตัน กุนซือรักษาการณ์แทน โจ คินเนียร์ ผู้จัดการทีมมือเก๋าวัย 62 ปีที่ตอนนี้กำลังพักฟื้นจากการผ่าตัดบายพาสเส้นเลือดหัวใจ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

คินเนียร์ ที่ ไมค์ แอชลี่ย์ เจ้าของสโมสร ให้ความนับถืออย่างมากนั้น มีกำหนดต้องไปพบผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจ วันจันทร์หน้า เพื่อตัดสินว่าเขาฟิตพอจะกลับมาทำหน้าที่ข้างสนามได้หรือเปล่า อย่างไรก็ตาม เป็นที่พูดกันว่าเขาอาจได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นไปเป็นผู้อำนวยการฟุตบอลแทน เพื่อหลีกทางให้ เชียเรอร์

สกาย สปอร์ต นิวส์ และ บีบีซี ต่างรายงานข่าวด่วนช่วงดึกวันอังคารว่า เชียเรอร์ จะมารับตำแหน่งผู้จัดการทีม โดยเจ้าแรกระบุว่าสโมสรจะเปิดตัวเขาอย่างเป็นทางการ ตอนเช้าวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่ แหล่งข่าวสโมสร ได้บอก สำนักข่าวรอยเตอร์สว่า อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ จะแถลงข่าวในวันพฤหัสบดีเช่นกัน และ ด้วยเหตุนี้ สโมสรจึงไม่ขอให้ความเห็นใดๆ จนกว่าจะถึงตอนนั้น

หากทุกอย่างเป็นไปตามนี้ เชียเรอร์ จะประเดิมคุมทีมนัดแรกในเกมที่ นิวคาสเซิ่ล เปิดบ้านพบ เชลซี วันเสาร์นี้ ก่อนจะตามด้วยแมตช์กับ สโต๊ค ซิตี้, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, พอร์ทสมัธ, ลิเวอร์พูล, มิดเดิ้ลสโบรซ์ อริร่วมแถบภาคอีสาน, ฟูแล่ม และ แอสตัน วิลล่า




........................................................................................................................................................................



ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

เชว่าลั่นไม่ท้อแม้ชีวิตค้าแข้งไม่กระเตื้อง




อังเดร เชฟเชนโก้ หัวหอกจอมอาภัพของ "ปีศาจแดง-ดำ" เอซี มิลาน มั่นใจ ตนเองยังไม่มาถึงทางตันในเส้นทางชีวิตค้าแข้ง แม้จะโดนดองนั่งข้างสนามมาตลอดฤดูกาลนี้ นับตั้งแต่ย้ายกลับมารักษาแผลใจจากความล้มเหลวในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แต่ก็ยังคงไม่ได้รับโอกาสในการลงเล่นเท่าที่ควร



อังเดร เชฟเชนโก้ กองหน้าชาวยูเครนของ เอซี มิลาน ยักษ์ใหญ่ลีกมะกะโรนี ยืนยันว่า ยังคงมีความหวังในเส้นทางการค้าแข้งของตัวเอง และยังมีความสามารถที่พร้อมจะแสดงออกมาอยู่เสมอ แม้จะได้ลงเล่นให้กับต้นสังกัดน้อยมาก นับตั้งแต่ย้ายกลับมาจาก เชลซี อดีตต้นสังกัด ในพรีเมียร์ลีก จนมีคำถามว่าชีวิตนักเตะของเขามาถึงทางตันแล้วหรือยัง

ดาวยิง ที่ลงเล่นให้กับ "ปีศาจแดง-ดำ" ไปแค่ 901 นาทีในฤดูกาลนี้ กำลังอยู่ในแค้มป์ทีมชาติยูเครน ซึ่งเขาก็ได้เปิดเผยกับ ลา กัซเซตต้า เดลโล่ สปอร์ต ว่า " เพื่อนร่วมทีมไม่สงสัยหรอกว่า ทำไมผมถึงได้รับการเรียกตัวมาติดทีมชาติ พวกเขาแค่ถามผมว่าผมเป็นยังไงบ้าง และผมก็บอกพวกเขาว่าผมยังคงสบายดี "

" ผมไม่เคยเสียใจเลยที่ย้ายกลับมา มิลาน ผมต้องการฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาสู่สภาพที่ดี และผมก็ทำมันได้ แม้ว่าผมจะยังไม่ถูกเรียกไปใช้งาน แต่ผมก็พยายามทำให้ตัวเองพร้อมลงเล่นเสมอ ตอนผมกลับมา ผมบอกสโมสรว่าผมยอมรับได้ทุกอย่างไม่ว่าผมจะได้รับอะไร ผมรู้ว่าผมจะไม่ได้ของขวัญอะไรแน่ๆ ผมรู้ว่า ผมต้องเริ่มด้วยการเป็นตัวเลือกลำดับสุดท้ายของ มิลาน แต่ผมก็จะปฏิบัติตัวอย่างมืออาชีพจนถึงเวลาสุดท้าย " หัวหอกวัย 32 ปี ระบุ

ส่วนการลงเล่นให้ทีมชาติยูเครน ในเกมฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก กับทีมชาติอังกฤษ ในวันพุธนี้ อดีตกองหน้า ดินาโม เคียฟ กล่าวว่า " ทีมยูเครนชุดนี้เป็นทีมที่ยังหนุ่ม และสามารถเติบโตได้อีก เรารู้ว่าอังกฤษเป็นหนึ่งในทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก และเราก็หวังที่จะทำสิ่งที่พิเศษได้บ้างที่เวมบลีย์ ผมยังไม่เคยลงเล่นในสนามแห่งใหม่นี้มาก่อน ผมได้รับบาดเจ็บสมัยที่อยู่กับเชลซี และผมเคยลงเล่นในสนามเวมบลีย์เก่าไป 2 ครั้ง "

" ผมมีความฝันที่จะทำประตูให้ได้ที่สนามแห่งนี้ เพราะมันจะเป็นประตูที่ 40 ในการลงเล่นให้กับทีมชาติของผม นอกเหนือจากนั้น ผมยังฝันที่จะยิงประตูเพื่อช่วยให้ทีมของเราเข้ารอบคัดเลือกด้วย " ดาวยิงที่เคยมีค่าตัวแพงเป็นสถิติของเกาะอังกฤษ กล่าว





ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

แลมเบียสปัดข่าวสาลิกาส่อล้มละลาย




ดีเร็ค แลมเบียส บอสใหญ่ "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ยันชัด สโมสรไม่มีความเสี่ยงต่อการล้มละลาย จนต้องตกอยู่ในการบริหารจัดการอย่างแน่นอน เพราะการเงินของสโมสรมั่นคงดีอยู่แล้ว แม้ ไมค์ แอชลี่ย์ เจ้าของสโมสร จะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ทั่วโลกอยู่บ้างก็ตาม



ดีเร็ค แลมเบียส ประธานสโมสร นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ทีมหนีตายแห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกโรงมาลดกระแสเรื่องที่พูดกันว่า สโมสรอาจต้องเผชิญสถานการณ์ที่ถูกบริหารจัดการ หลังจากมีข่าวลือบอกเป็นนัยว่า นิวคาสเซิ่ล ที่รั้งอันดับ 18 ก่อนเกมพบ เชลซี วันเสาร์นี้ อาจต้องล้มละลาย หากพวกเขาตกชั้น ในช่วงที่วิกฤตเศรษฐกิจระบาดไปทั่วโลก

ช่วงต้นฤดูกาลที่ผ่านมา ไมค์ แอชลี่ย์ เจ้าของสโมสร พยายามขาย "เดอะ แม็กพายส์" หลังจากถูกแฟนบอลโจมตี สืบเนื่องจากกรณีที่ เควิน คีแกน ลาออกไป เพราะความขัดแย้งเกี่ยวกับนโยบายการซื้อขายนักเตะ แถมยังมีอีกหลายครั้งที่ เจ้าของธุรกิจเครื่องกีฬา โดน ทูนอาร์มี่ โวยที่ไม่ยอมทุ่มเงินซื้อนักเตะให้มากกว่านี้

อย่างไรก็ตาม แลมเบียส ยืนกรานว่า สโมสรไม่ได้ตกอยู่ในสถานะการเงินที่ล่อแหลมขนาดนั้น โดยกล่าวว่า "เรื่องนี้มันน่าขัน ไม่ยุติธรรม และ ไม่มีมูล อีกทั้งน่าหงุดหงิด เพราะไม่มีข้อเท็จจริงเลย เราตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องดิ้นรนหนีตกชั้น ซึ่งเราต้องการให้ทุกคนหนุนหลังเรา"

นอกจากนี้ แลมเบียส ยังเสริมเรื่องที่ถูกถามว่า จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าทีมหนีตกชั้นไม่สำเร็จ ว่า "เราคงต้องปรับแผนธุรกิจของเราใหม่เหมือนรายอื่นๆ การเงินของเราแข็งแกร่งมาก และ เราก็ไม่มีความเสี่ยงที่จะถูกบริหารจัดการเลย ไมค์ ได้รับผลกระทบจากภาวะเงินฝืด เขาต่างจากคนอื่นตรงไหน สโมสรไม่ได้มีไว้ขาย และ เราก็แสดงชัดเจนแล้วว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ"




........................................................................................................................................................................



ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

โรมาริโอชูโล้นโด้คัมแบ็กกู้วิกฤติแซมบ้า




โรมาริโอ อดีตหัวหอกระดับตำนานเลือดแซมบ้า หนุนหลังให้ โรนัลโด้ ดาวยิงร่างตุ้ยนุ้ยเพื่อนร่วมชาติ กลับมาเป็นคนกอบกู้วิกฤติของทีมชาติบราซิล ที่กำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างย่ำแย่ หลังจาก กองหน้าชื่อก้อง กลับมาจากอาการบาดเจ็บ และกำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดในลีกบ้านเกิด



โรมาริโอ อดีตสุดยอดกองหน้าทีมชาติบราซิล ออกมาสนับสนุน โรนัลโด้ หัวหอกรุ่นน้องร่วมชาติ ที่เพิ่งกลับมาจากอาการบาดเจ็บยาว และกำลังลงเล่นให้กับ โครินเธียนส์ ในลีกเมืองกาแฟ ในการกลับมาติดทีมชาติอีกครั้งหนึ่ง เพื่อแก้ปัญหาในแดนหน้าให้ทีมชาติ หลังจากฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่ของ "เซเลเซา" ในเกมฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก นัดล่าสุด ที่ทำได้แค่เสมอกับ เอกวาดอร์ 1-1

อดีตดาวเตะเจ้าของแชมป์โลกปี 1994 เชื่อว่า "เหยินใหญ่" จะเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมในแดนหน้าให้ทีมได้ ไม่ใช่เฉพาะในรอบคัดเลือก แต่รวมถึงในฟุตบอลโลก 2010 รอบสุดท้าย ที่ แอฟริกาใต้ ด้วย โดยกล่าวว่า " ผมมั่นใจว่าหากเขา (โรนัลโด้) ยังคงพัฒนาฟอร์มการเล่น และเทคนิคกลับมาเรื่อยๆ แล้ว เขาจะเป็นนักเตะที่สำคัญสำหรับ บราซิล ในฟุตบอลโลก "

อดีตสตาร์ดังวัย 43 ปี ยังเชื่อว่า หัวหอกดีกรีนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่า ไม่จำเป็นต้องกลับมาเล่นให้ได้ในสไตล์สุดพริ้วเหมือนสมัยก่อน เพราะแค่การทำประตูของเขาก็มีประโยชน์มากพอแล้ว " ในช่วงท้ายของอาชีพของผม ผมแทบไม่คิดเรื่องการเล่นให้ดี ผมพยายามทำประตูอย่างเดียว ซึ่งเขาก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาทำได้ เขายิง 4 ลูกจาก 5 นัด ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับกองหน้าที่ต้องยิงให้ได้ "




ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

เปเป้รับสภาพดินาตาเล่เดี้ยงยาวทำอูดิฯป่วน




ซิโมเน่ เปเป้ ดาวเตะจอมพริ้ว อูดิเนเซ่ เชื่อการขาดหายไปของ อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ ดาวยิงตัวสำคัญ จะสร้างความเสียหายครั้งสำคัญต่อผลงานของทีมอย่างไม่ต้องสงสัย หลังเกิดเดี้ยงยาวจากการลงสนามรับใช้ทีมชาติอิตาลี เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา



ซิโมเน่ เปเป้ ปีกตัวเก่งของ อูดิเนเซ่ แห่งศึกกัลโช่ เซเรีย อา ยอมรับว่า อาการบาดเจ็บของ อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ ดาวยิงทีมชาติอิตาลี เพื่อนร่วมสโมสร ที่ได้รับมาจากเกมฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม 8 นัดบุกเชือด มอนเตเนโกร 2-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อทีมอย่างแน่นอน

หัวหอกวัย 31 กะรัต มีอาการบาดเจ็บบริเวณเอ็นหัวเข่าซ้าย และจะเข้ารับการผ่าตัดในไม่ช้านี้ ซึ่งน่าจะส่งผลให้ต้องพักยาวไปจนถึงฤดูกาลหน้าเลยทีเดียว ทำให้ เปเป้ เป็นห่วงว่า การขาดหายไปของนักเตะกำลังหลักอาจส่งผลกระเทือนต่อฟอร์มการเล่นของทีมในเกมที่เหลือของซีซั่น

"การขาดหายไปของ ดิ นาตาเล่ เป็นสิ่งน่าผิดหวังทั้งสำหรับทีมชาติอิตาลี และ อูดิเนเซ่ เขาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยม และพวกเราต้องเล่นเกมที่เหลือโดยไม่มีเขา และเช่นเดียวกับการที่นักเตะชั้นแนวหน้าไม่อาจจะพลาดการลงสนามแม้เพียงเล็กน้อย เขาก็เป็นผู้นำคนสำคัญของเราที่ อูดิเนเซ่ เช่นเดียวกัน" เปเป้ กล่าวอย่างเป็นกังวล





ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

เบนายูนยันคิดถูกกลับช่วยชาติ




ยอสซี่ เบนายูน กองกลาง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ยืนยันคิดถูกที่ตัดสินใจเดินทางไปช่วยทีมชาติอิสราเอล เกมเสมอ กรีซ 1-1 ศึกเวิลด์ คัพ 2010 รอบคัดเลือก โซนยุโรป เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แม้อาจจะมีปัญหากับต้นสังกัดได้ก็ตาม



ยอสซี่ เบนายูน มิดฟิลด์ร่างอรชรของ ลิเวอร์พูล สโมสรขวัญใจมหาชนแห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกมายืนยันว่าเขาคิดถูกแล้ว ที่ตัดสินใจเล่นให้ทีมชาติอิสราเอล ในเกมเปิดบ้านเสมอกับ กรีซ 1-1 ศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม 2 เมื่อวันเสาร์ที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา

ดาวเตะเลือดยิว มีปัญหาบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า ทำให้ "หงส์แดง" ไม่อยากให้นักเตะเดินทางไปช่วยชาติในเกมนัดดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เบนายูน ฝืนมติสโมสร ตัดสินใจกลับไปเล่นให้ อิสราเอล ซึ่งมีโอกาสสร้างความไม่พอใจให้กับ ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือลิเวอร์พูล

เบนายูน ที่โชคร้าย ได้รับบาดเจ็บน่องจนถูกเปลี่ยนตัวออกในนาที 77 ยืนยันว่า คิดถูกแล้วที่เดินทางมาช่วย อิสราเอล ในเกมนี้ "ผมเชื่อว่าตัวเองตัดสินใจถูกแล้ว เราหวังว่าจะเอาชนะ กรีซ ได้ในเกมเยือน ผลเสมอ (1-1 ในบ้าน) ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร แม้เป้าหมายของเราจะยังเป็นการบุกไปชนะที่ กรีซ ก็ตาม"




ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

Monday, March 30, 2009

เซอร์มั่นใจฮาร์โก้ฟิตทันเปิดซีซั่นใหม่แน่




เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เผยมั่นใจมากว่า โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ มิดฟิลด์ตัวรับ จะฟิตทันช่วยทีมเปิดฤดูกาลใหม่ เพราะการผ่าตัดดำเนินไปด้วยดี และตอนนี้กำลังฟื้นฟูร่างกายแบบค่อยเป็นค่อยไป



เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมรสยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แจ้งข่าวดี และความคืบหน้าเรื่องการพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บหัวเข่าของ โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ ห้องเครื่องตัวหลัก กำลังเป็นไปด้วยดี โดยเน้นช้าแต่ชัวร์ พลางกล่าวอย่างมั่นใจว่า "ฮาร์โก้" จะกลับมาอย่างฟิตปั๋งกว่าเดิมแน่นอน

ฮาร์กรีฟส์ ขึ้นเขียงผ่าตัดหัวเข่าทั้ง 2 ข้างที่ สหรัฐฯ ภายใต้การลงมีดของ ดร.ริชาร์ด สเตดแมน ศัลยแพทย์คนดัง ที่เชี่ยวชาญเรื่องหัวเข่า และเคยผ่าตัดให้พ่อค้าแข้งดังๆ กลับมาเล่นได้อีกครั้งแล้วมากมายหลายคน โดย เฟอร์กูสัน กล่าวว่า "การพักฟื้นของ โอเว่น เป็นไปด้วยดี และเขาจะเข้ารับการฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง เราทำไปทีละขั้นๆ ไม่เร่งรีบใดๆ และทำให้มั่นใจว่า ทุกอย่างทำอย่างถูกต้อง เพื่อที่เขาจะกลับมาอย่างสมบูรณ์ที่สุด"

"เขาไม่พร้อมสำหรับฤดูกาลนี้ แต่ โอเว่น จะทำงานกับสตาฟฟ์เพื่อเรียกความฟิตช่วงซัมเมอร์ และเราหวังว่า เขาจะพร้อมเมื่อถึงเวลาซ้อมปรี-ซีซั่น และเดินทางไปทัวร์เอเชียช่วงกลางเดือนกรกฎาคม ต่อไป การผ่าตัดครั้งที่สองของ โอเว่น ประสบความสำเร็จด้วยดี และมันดีกว่าครั้งแรกที่ดูซับซ้อนกว่า การผ่าตัดครั้งที่ 2 สมบูรณ์แบบ ผมมั่นใจว่าเขาจะพร้อมเมื่อฤดูกาลใหม่เปิดฉาก" เซอร์ เฟอร์กี้ ระบุ

"การส่งเขาไปผ่าตัดสองครั้งไม่ใช่ตัดสินใจกันได้ง่ายๆ แต่เราไม่อยากจะลองทางเลือกอื่นๆ อีกแล้ว เราเคยพยายามด้วยการส่งเขาไปหาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อฉีดยาต่อเนื่อง อัตราความสำเร็จนั้นดีเยี่ยม แต่โชคร้ายที่มันไม่ดีพอสำหรับ โอเว่น เพราะเขายังรู้สึกเจ็บเข่าอยู่ มันคือช่วงเวลาที่เลวร้ายสำหรับเขา และเราเองก็คิดถึงเขา แต่หวังจริงๆ ว่าเราจะกำจัดปัญหาต่างๆ ได้ด้วยดี" เฟอร์กูสัน กล่าว




........................................................................................................................................................................



ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

แฟนผีแดงยิ้มแกรี่รับจ่อฟิตเต็มถัง




แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้รับข่าวดี ภายหลัง แกรี่ เนวิลล์ ฟูลแบ็กมากประสบการณ์ดีกรีทีมชาติอังกฤษ เผย ใกล้กลับมาฟิตเต็มถึงแล้ว โดยเตรียมลงเคาะสนิมในเกมของทีมสำรองวันจันทร์นี้ และหากไม่มีปัญหาอะไร คาดว่าน่าจะกลับมาลงเล่นเป็นตัวจริง ในเกมลีกที่พบกับ แอสตัน วิลล่า สุดสัปดาห์นี้



แกรี่ เนวิลล์ แบ็กขวากัปตันทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เผยข่าวดีก่อนถึงเกมลีกที่จะเปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รับการมาเยือนของ แอสตน วิลล่า ในวันอาทิตย์ที่ 5 เมษายนนี้ ว่า เขาใกล้กลับมาฟิตเต็มถังแล้ว ภายหลังได้รับบาดเจ็บต้นขา จนทำให้พลาดลงสนามไปนานถึง 2 เดือน

ดาวเตะวัย 34 ปี เตรียมกลับมาลงเคาะสนิมอีกครั้ง ในเกมของทีมสำรองที่พบกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม อย่างไรก็ตามในเกมลีกที่พบกับ วิลล่า ในวันอาทิตย์นี้ แมนฯ ยูไนเต็ด จะไม่มี ราฟาเอล ดา ซิลวา และ เวส บราวน์ ลงสนามอย่างแน่นอน ภายหลังทั้งคู่ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ

เนวิลล์ มีปัญหาบาดเจ็บเรื้อรังมาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ภายหลังได้รับบาดเจ็บข้อเท้าในเดือนมีนาคมปี 2007 ซึ่งทำให้ต้องพลาดลงเล่นตลอดทั้งฤดูกาล 2007-2008 ก่อนจะกลับมาลงสนามได้อีกครั้งในช่วงต้นฤดูกาล แต่เคราะห์ก็ยังไม่หมด เมื่อดันมาได้รับบาดเจ็บต้นขาจนทำให้พลาดลงสนามไปอีกครั้ง

ทั้งนี้ ในเกมลีกนัดล่าสุดที่ แมนฯ ยูไนเต็ด พลิกพ่าย ฟูแล่ม 0-2 ที่สนาม คราเวน ค็อตเทจ เมื่อวันเสาร์ที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา เนวิลล์ กลับมามีชื่อเป็นตัวสำรอง และล่าสุดเตรียมกลับมาลงเคาะสนิมอีกครั้ง และหากไม่มีปัญหาอะไรคาดว่าเจ้าตัวน่าจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมพบ วิลล่า ต่อไป




........................................................................................................................................................................



ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

บิ๊กตราหมียันมานิชไม่อำลาทีมชัวร์




เอ็นริเก้ เซเรโซ่ ขาใหญ่ แอตฯ มาดริด ยืนกราน มานิช มิดฟิลด์เท้าหนัก อยู่รับใช้ต้นสังกัดต่อไป ชี้ปัญหาที่ดาวเตะเลือดฝอยทองมีกับทีมถือเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้กับทุกสโมสร


เอ็นริเก้ เซเรโซ่ ประธานสโมสร แอตเลติโก มาดริด ทีมชั้นนำแห่งเวที ลา ลีกา สเปน ออกมายืนยันว่า มานิช กองกลางทีมชาติโปรตุเกส จะอยู่ค้าแข้งในถิ่น บิเซนเต้ กัลเดร่อน ต่อไปอย่างแน่นอน ถึงแม้มีข่าวว่าตัวนักเตะกำลังได้รับความสนใจจาก ซันเดอร์แลนด์ ทีมลูกหนังในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก็ตาม


ดาวเตะวัย 31 ปี มีฤดูกาลที่หน้าผิดหวังกับ แอตฯ มาดริด โดยไม่ได้รับการเหลียวแลจาก ฮาเบียร์ อกีร์เร่ เทรนเนอร์คนก่อนเลย แถมยังถูกเพื่อนร่วมทีมบางคนโจมตีเรื่องขาดความทุ่มเทอีกด้วย จนมีข่าวว่า ริคกี้ สบราเกีย กุนซือ "แมวดำ" พร้อมกระชากตัวไปร่วมทีม แต่ถึงกระนั้น เซเรโซ่ คอนเฟิร์ม ชัดเจนว่า ไม่ปล่อย อดีตมิดฟิลด์ เชลซี ไปไหนแน่


"แอตเลติโก ต้องการนักเตะดีที่สุด และ มานิช คือ 1 ในนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นกับ มานิช มันก็เกิดขึ้นได้กับทุกๆทีมนั่นแหละ ปัญหาสามารถเกิดขึ้นได้ในห้องแต่งตัวของทุกๆทีม แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ลืมมันไปหมด เขายังมีสัญญาอีก 1 ปีครึ่ง และเราก็ไว้วางใจเขา" บิ๊กบอส "ตราหมี" กล่าว




........................................................................................................................................................................



ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

พี่ชายรับดินโญ่คิดถึงบาร์ซ่าทุกลมหายใจ




โรแบร์โต้ เดอ อัสซิส พี่ชายและเอเยนต์ส่วนตัวของ โรนัลดินโญ่ กองกลางทีมชาติบราซิลของ เอซี มิลาน ยอมรับ น้องชายของเขายังลืม บาร์เซโลน่า ไม่ได้หลังประสบความสำเร็จมากมายในถิ่น คัมป์ นู พร้อมเชื่อหาก "ดินโญ่" มีเวลามากพอกับ "ปีศาจแดง-ดำ" เขาจะงัดฟอร์มเก่งกลับมาอีกครั้งแน่นอน



โรแบร์โต้ เดอ อัสซิส พี่ชาย และเอเยนต์ส่วนตัวของ โรนัลดินโญ่ เพลย์เมกเกอร์ฟอร์มหลุดของ เอซี มิลาน ยักษ์ใหญ่แห่งศึกกัลโช่ เซเรีย อา เผย "ดินโญ่" ยังลืม บาร์เซโลน่า ไม่ลง หลังยอมรับการค้าแข้งกับ "เจ้าบุญทุ่ม" เป็นสิ่งที่สุดพิเศษในชีวิต เพราะเป็นเมืองที่สวยงาม แถมแฟนบอลยังให้ความเคารพเขาเป็นอย่างดี

"ดินโญ่" ซึ่งกำลังเผชิญกับข่าวไร้อนาคตในถิ่น ซาน ซิโร่ เพราะนอกจากฟอร์มตกแล้ว ยังถูกลือว่าขี้เกียจซ้อมด้วย ทำให้ตอนนี้มีข่าวเล็ดลอดออกมาว่าเขาอาจจะโดนขายทิ้งในช่วงซัมเมอร์นี้ โดย แอสซิส เผยว่าตอนนี้น้องชายของเขายังไม่อาจลืม 6 ปีที่ยิ่งใหญ่กับ บาร์ซ่า ได้เลย "บาร์เซโลน่า จะเป็นเมืองสุดแสนพิเศษสำหรับเราตลอดไป เราคงจะมีความสุขที่ได้กลับไปที่นั่น เรามีความรักและเคารพทั้งในเมืองแห่งนี้ รวมทั้งสโมสรด้วย"

นอกจากนี้ อัสซิส เผยต่อไปว่าที่คัมป์ นู เขาและน้องชายมีเพื่อนฝูงมากมาย แม้ว่าจะย้ายไปอยู่กับ "ปีศาจแดง-ดำ" แล้วก็ตาม รวมทั้งยังหวังว่า บาร์ซ่า จะประสบความสำเร็จทั้งในโกปา เดล เรย์, ลา ลีกา และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก "เรามีเพื่อนมากมายที่ บาร์เซโลน่า และเราก็หวังนี่จะเป็นปีแห่งชัยชนะของสโมสร"

อย่างไรก็ตาม อัสซิส ยืนยันว่า "เหยินน้อย" ยังมีความสุขดีกับการค้าแข้งกับ มิลาน แม้จะต้องพบกับช่วงเวลาที่ยากลำบากนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมด้วยค่าตัวมหาศาล "โรนัลดินโญ่ เริ่มต้นได้ดีที่นี่ แต่จากนั้นเขาต้องพบกับปัญหาบาดเจ็บรบกวน ซึ่งทำให้เขาหลุดจากทีม เขาอยู่ในช่วงชีวิตใหม่ และต้องใช้เวลานานสำหรับผลที่จะเข้ามา ถ้าเราสามารถมีเวลาให้ได้"






ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

เจิดยกยอเรน่าโกล์ดีที่สุดในโลก




สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมคนเก่งของ ลิเวอร์พูล ยกยอ เปเป้ เรน่า นายทวารเพื่อนร่วมสังกัดเต็มที่ บอกเป็นโกล์ที่ดีที่สุดในโลกตอนนี้เลยก็ว่าได้ หลังเห็นจอมหนึบหัวเหม่งงัดฟอร์มเซฟลูกยากๆได้ตั้งหลายหนในซีซั่นนี้



สตีเว่น เจอร์ราร์ด จอมทัพกัปตันทีม ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมายกย่อง โฆเซ่ มานูเอล เรน่า นายทวารเพื่อนร่วมทีมว่า เป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลกชั่วโมงนี้ เนื่องจาก "เปเป้" สามารถงัดฟอร์มเซฟลูกยิงยากๆได้เสมอในช่วงท้ายเกม แถมยังเปิดเกมรุกให้กับทีมได้ดีอีกด้วย


ในเวทีพรีเมียร์ลีก เรน่า มักจะถูกมองข้ามอยู่เสมอ เพราะ เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ มือกาวเลือดดัตช์ กำลังทำผลงานได้อย่างสุดยอดกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขณะที่ในนามทีมชาติสเปน เขาก็ทำได้แค่เป็นโกล์มือ 2 รองจาก อิเกร์ กาซิยาส ของ เรอัล มาดริด อีก แต่ถึงกระนั้น "สตีวี่จี" มองว่า อดีตจอมหนึบ บียาร์เรอัล และ บาร์เซโลน่า รายนี้ ไม่ได้มีฝีมือเป็นรองทั้ง 2 คนเลยแม้แต่น้อย


"พวกเราต่างแฮปปี้กับผู้รักษาประตูที่เรามีอยู่กับทีม เท่าที่ผมรู้มา เปเป้ น่าจะเป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลกชั่วโมงนี้เลยก็ว่าได้ ถ้าหากคุณดูเกมที่เราเก็บชัยชนะได้ในช่วงที่ผ่านมา เปเป้ มักจะมีส่วนสำคัญในชัยชนะเหล่านั้นเสมอ เขาสามารถช่วยเซฟลูกยิงยากๆในช่วงเวลาที่สำคัญได้ตั้งหลายครั้ง นอกจากนี้เขายังสร้างสรรค์โอกาสยิงประตูให้กับทีมได้ดีอีกด้วย พวกเรารู้ดีว่าเขาเก่งแค่ไหน และก็แน่นอนว่า เขาคือ 1 ในนักเตะที่ดีที่สุดในโลก" เจอร์ราร์ด กล่าว

ทั้งนี้ เรน่า เพิ่งจะทำสถิติคลีนชีต 100 นัด จากการลงเฝ้าเสา 197 นัด ในเกมที่ ลิเวอร์พูล เปิดรัง แอนฟิลด์ ต้อน แอสตัน วิลล่า 5-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นสถิติที่ดีกว่า เรย์ คลีเมนซ์ ตำนานผู้รักษาประตู "หงส์แดง" ยุคปลายปี 60 - ต้นปี 80 ที่ทำคลีนชีต 100 นัด จากลงเฝ้าเสา 200 นัด




........................................................................................................................................................................



ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

แลมพ์สเตือนแข้งสิงโตระวังเชว่าให้ดี




แฟร้งค์ แลมพาร์ด ห้องเครื่องตัวเก่งของ เชลซี กระตุ้นเพื่อนร่วมทีมชาติอังกฤษ ให้จับตาดู อังเดร เชฟเชนโก้ ดาวยิงตัวเก่งของ ยูเครน เอาไว้ให้ดี ไม่งั้นอาจต้องน้ำตาตก ก่อนมีโปรแกรมทำศึกเวิลด์ คัพ 2010 รอบคัดเลือก โซนยุโรป วันพุธนี้



แฟร้งค์ แลมพาร์ด กองกลางจอมยิงไกลของ เชลซี สโมสรเงินถุงเงินถังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก เตือนเพื่อนร่วมทีม "สิงโตคำราม" อังกฤษ ระวัง อังเดร เชฟเชนโก้ หัวหอกจอมเก๋า กัปตันทีมชาติยูเครน ให้ดี ในเกมที่ทั้ง 2 ทีมจะพบกันในศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม 6 ที่สนามเวมบลีย์ วันพุธที่ 1 เมษายนนี้

แม้ว่าทัพ "สิงโตคำราม" จะไล่ถล่ม สโลวาเกีย 4-0 ในเกมอุ่นเครื่องเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แต่เกมที่จะพบกับ ยูเครน ถือเป็นงานหนักมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ทีมเยือนมี เชฟเชนโก้ ยืนเป็นหัวหอก ซึ่ง แลมพาร์ด ต้องเตือนเพื่อนร่วมทีมว่าคอยจับตามอง ดาวยิงเอซี มิลาน อดีตเพื่อนเก่าในทีม "สิงห์บลูส์" ให้ดีไม่ งั้นอาจน้ำตาตกได้

อดีตดาวเตะเวสต์แฮม ยูไนเต็ด กล่าวว่า "เราพยายามกันอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และโชว์ฟอร์มได้ดีในเกมเมื่อวันเสาร์ ซึ่งเป็นการเสริมสร้างความเชื่อมั่นได้ดี เราได้ผลการแข่งขันที่ดีอย่างต่อเนื่อง เราจะต้องเล่นด้วยฟอร์มแบบนี้ และพยายามทำให้ เวมบลีย์ กลายเป็นป้อมปราการที่แข็งแกร่ง เราอาจไม่ได้เล่นด้วยฟอร์มที่สมบูรณ์แบบ (กับ สโลวาเกีย) และผมเชื่อว่า ยูเครน เป็นทีมที่แข็งแกร่งกว่า สโลวาเกีย สิ่งที่สำคัญก็คือต้องพยายาม และเก็บชัยชนะให้ได้"

นอกจากนี้ "แลมพ์ส" เชื่อว่า เชฟเชนโก้ ซึ่งเคยค้าแข้งอยู่กับ "สิงห์บลูส์" จะสร้างอันตรายให้กับแนวรับของ อังกฤษ แน่นอน "เชฟเชนโก้ เป็นนักเตะเก่งอย่างไม่ต้องสงสัย และเขาจะสร้างปัญหาให้กับเราได้ ไม่ว่าจะเป็นการยิงประตู หรือการทำทางให้เพื่อน ผมไม่รู้ว่า




ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

เบ็คส์ไม่น้อยใจพร้อมรับบทซูเปอร์ซับให้สิงโต




เดวิด เบ็คแฮม มิดฟิลด์เท้าชั่งทองของเอซี มิลาน ยันไม่มีปัญหาในการรับบทตัวสำรองในทัพ "สิงโตคำราม" อังกฤษ เพราะถือว่าตนยังมีความสำคัญ และเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติอยู่เช่นเดิม โดยขอทุ่มเทเท่าเดิมไม่ว่าจะได้ลงเล่นมากน้อยแค่ไหน



เดวิด เบ็คแฮม กองกลางซูเปอร์สตาร์ของเอซี มิลาน สโมสรดังแห่งศึกกัลโช่ เซเรีย อา ออกมายืนยันว่าพร้อมที่จะลงเล่นรับใช้ทีมชาติอังกฤษ แม้ว่าจะต้องตกเป็นตัวสำรองของทีมก็ตาม หลังจากที่เพิ่งทำสถิติลงเล่นทีมชาติมากที่สุดในตำแหน่งเอาต์ฟิลด์ 109 นัด ในเกมอุ่นเครื่องที่ชนะ ทีมชาติสโลวาเกีย 4-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

แม้ว่าจะต้องตกเป็นตัวสำรองของ อารอน เลนน่อน ปีกรุ่นน้องในเกมที่ผ่านมา แต่ดาวดังวัย 33 ปี ก็ยังคงแสดงความอันตรายโดยเป็นคนเปิดให้ เวย์น รูนี่ย์ โขกเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ซึ่งทำให้เจ้าตัวยังคงมั่นใจว่ายังคงมีประโยชน์ให้กับทีม "สิงโตคำราม" และพร้อมที่จะลงเล่นไม่ว่าจะได้เป็นตัวจริงหรือไม่ก็ตาม

อดีตสตาร์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เรอัล มาดริด เผยว่า " ทุกคนต้องการลงเล่นเป็นตัวจริงให้ทีมชาติอังกฤษทั้งนั้น แต่เมื่อมาถึงวันหนึ่ง ทุกคนก็ยังอยากจะลงเล่นให้ทีมชาติอยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นตัวสำรองก็ตาม ตัวสำรองก็เป็นส่วนสำคัญมาก เหมือนอย่างทีมแมนฯ ยูไนเต็ด ชุดทริปเปิ้ลแชมป์ปี 1999 ที่มีตัวสำรองชั้นดีอย่าง เท็ดดี้ เชอริ่งแฮม และ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ "

" บางครั้งตัวสำรองก็ลงสนามมาและช่วยเราเปลี่ยนแปลงเกมนั้น หรือกอบกู้ทีมได้ในบางครั้ง ในนัดที่ผ่านมา ผมดีใจที่ลงมาและเปิดให้เราได้ 1 ประตู ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมทำมาตลอดอาชีพของผม และเมื่อผมมีโอกาส เราก็มีนักเตะอย่าง เวย์น รูนี่ย์, เอมิล เฮสกี้ หรือ ปีเตอร์ เคร้าช์ ที่จะจัดการปิดบัญชี ถ้าผมได้ลงเป็นตัวจริง ผมก็จะทำเต็มที่ แต่ถ้าไม่ ผมก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของทีม ซึ่งเรากำลังไปได้ดี " เบ็คแฮม กล่าว

แม้ว่า เบ็คแฮม เพิ่งจะทำลายสถิติของเซอร์ บ็อบบี้ มัวร์ ในการเป็นนักเตะเอาต์ฟิลด์ที่ลงเล่นมากของทัพ "สิงโตคำราม" แต่ยังเหลือสถิติของ ปีเตอร์ ชิลตัน ตำนานนายทวารที่สร้างสถิติ 125 นัดเอาไว้ โดยเจ้าตัวกล่าวว่า " ผมได้รับการขอให้ถ่ายรูปกับเสื้อทีมชาติที่มีเลข 109 อยู่บนหลัง แต่ผมก็เคยทำไปแล้วตอนติดครบ 100 นัด ซึ่งผมคิดว่าเราไม่ควรไปสนใจกับมันมากนัก "

อย่างไรก็ตาม มิดฟิลด์จอมฟรีคิก ก็ยังเปิดเผยว่ามีความสุขทุกครั้งที่ได้ลงเล่นให้ทีมชาติ และไม่รู้สึกตื่นเต้นกังวลแต่อย่างใด " ผมไม่ได้ประหม่าเลย ผมคงไม่ประหม่าหรอกถ้าลงเล่นในเวมบลีย์ในตอนที่มีอายุขนาดนี้ แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับผมมาก "




ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

ราฟายันแอ็กเกอร์มีอนาคตกับหงส์แดง




ราฟาเอล เบนิเตซ นายใหญ่ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ยืนยัน แดเนี่ยล แอ็กเกอร์ กองหลังตัวเก่งยังมีอนาคตสดใสในถิ่นแอนฟิลด์ ชี้หากนักเตะฟิตเต็มร้อยย่อมมีโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงมากกว่าผู้เล่นคนอื่น



ราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีมชาวสเปนของ ลิเวอร์พูล สโมสรขวัญใจมหาชนแห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกมายืนยันว่า แดเนี่ยล แอ็กเกอร์ ปราการหลังทีมชาติเดนมาร์ก ยังคงอยู่ในแผนการสร้างทีมของเขาต่อไป มั่นใจเมื่อไหร่ที่นักเตะฟิตสมบูรณ์ย่อมมีโอกาสลงเล่นตัวจริงให้กับ "หงส์แดง" แน่นอน

กองหลังวัย 24 ปี มักจะไม่ค่อยได้ลงเล่นเป็นตัวจริงมากนักในฤดูกาลนี้ เนื่องจากมีปัญหาบาดเจ็บรบกวน ทำให้เขาตกเป็นข่าวว่าจะย้ายออกจากถิ่นแอนฟิลด์ มาตลอด โดยในช่วงที่ผ่านมา มีรายงานว่า เอซี มิลาน กำลังจับตามองสถานการณ์ของนักเตะ เพราะ แอ็กเกอร์ ยังไม่ยอมต่อสัญญาฉบับใหม่ ซึ่งมีเหตุผลมาจากการที่เขาไม่มั่นใจอนาคตตัวเอง เพราะที่ผ่านมาต้องตกเป็นตัวเลือกสุดท้ายต่อจาก เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล และ ซามี่ ฮูเปีย

อย่างไรก็ตาม อดีตนายใหญ่ บาเลนเซีย ยืนยันว่า เซนเตอร์แบ็กเลือดโคนม อยู่ในแผนการทำทีม และมีโอกาสได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ หากเขายังอยู่ค้าแข้งกับ "เดอะ เร้ดส์" ต่อไป "แอ็กเกอร์ รู้ถึงสิ่งที่ผมคิดเกี่ยวกับตัวเขา ถ้าเขาอยู่ในสภาพที่ฟิต เขาจะมีโอกาสดีพอๆ กับนักเตะคนอื่นที่จะได้ลงเล่น หรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ"




........................................................................................................................................................................



ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

คาเปลโล่เชื่อรูน-เจิด-แลมพ์สเล่นเข้ากันได้




ฟาบิโอ คาเปลโล่ นายใหญ่ทีมชาติอังกฤษ มั่นใจ เวย์น รูนี่ย์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด และ แฟร้งค์ แลมพาร์ด 3 แข้งชั้นนำของทีมสามารถเล่นเข้าขากันได้อย่างแน่นอน พร้อมเชื่อเกมรับมือ ยูเครน ศึกเวิลด์ คัด 2010 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม 6 วันพุธนี้ คงเป็นงานที่หนักแน่นอน



ฟาบิโอ คาเปลโล่ ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ออกมาแสดงความมั่นใจว่าลูกทีมของเขาสามารถเล่นเข้ากันได้อย่างลงตัวในเวลานี้ เชื่อตอนนี้นักเตะพร้อมที่จะรับมือ ยูเครน ที่สนามเวมบลีย์ ศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม 6 ในวันพุธที่ 1 เมษายนนี้

เวย์น รูนี่ย์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด และ แฟร้งค์ แลมพาร์ด 3 แข้งชั้นนำของทัพ "ทรี ไลออนส์" โชว์ฟอร์มได้อย่างเข้าขาในเกมเวิลด์ คัพ รอบคัดเลือก 2 นัดหลังสุด รวมทั้งเกมอุ่นเครื่องถล่ม สโลวาเกีย 4-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งเกมนี้ หัวหอก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซัดไป 2 ประตู และ แลมพาร์ด 1 ลูก

ก่อนหน้านี้หลายฝ่ายต่างกังวลว่า คาเปลโล่ อาจจะต้องพบปัญหาปวดหัวเนื่องจากนักเตะทั้ง 3 คนมักเล่นไม่เข้าขากัน อย่างไรก็ตาม "ดอน ฟาบิโอ" ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าลูกทีมของเขาสามารถเล่นเข้ากันได้เป็นอย่างดี "ผมพูดมาตลอดว่านักเตะสำคัญ ผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม สามารถเล่นร่วมกันได้ คุณก็แค่ต้องหาตำแหน่งที่เหมาะสมให้กับพวกเขา มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับผม ผมเป็นผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ แต่ตอนที่ผมเลือกนักเตะมาติดทีมเพราะพวกเขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับสโมสรของพวกเขา ผู้จัดการทีมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล เป็นคนที่สำคัญมาก"

นอกจากนี้ คาเปลโล่ เชื่อ เจอร์ราร์ด และ รูนี่ย์ เล่นเข้ากันได้ดีในทัพ "สิงโตคำราม" โดยกล่าวว่า "ผมมีความเชื่อมั่นในตัวของนักเตะทั้ง 2 คน แต่ผมคิดว่านักเตะก็มีความเชื่อมั่นในสิ่งนี้ด้วยเช่นกัน พวกเขาสามารถรู้สึกถึงสิ่งนี้ได้ด้วยตัวเอง ผมเชื่อมั่นในพวกเขา และมีปฏิกิริยาโต้กลับจากฟอร์มของพวกเขา นี่เป็นสิ่งสำคัญมาก ผมเคยเป็นนักเตะ และทำงานเป็นผู้จัดการทีมมานาน ผมรู้ว่านักเตะทุกคนต้องการความเชื่อมั่น"

แม้จะอุ่นเครื่องชนะ สโลวาเกีย 4-0 ก็ตาม แต่ อดีตนายใหญ่ เอซี มิลาน และเรอัล มาดริด ยอมรับว่าคงต้องเจองานหนักในเกมรับมือ ยูเครน วันพุธนี้แน่นอน "ผมมีความสุขเพราะเรามีการเคลื่อนที่ได้ดี รวมทั้งสร้างสรรค์โอกาสทำประตูมากมาย แต่ ยูเครน เป็นทีมที่ดี พวกเขามีเกมรับที่แข็งแกร่ง และเล่นเกมสวนกลับ มันคงจะไม่ใช่เกมง่ายๆ แต่มันเป็นเกมที่สำคัญสำหรับเรา"




ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

เบลเลอร์สยันไม่คิดลาเวลส์




เคร็ก เบลลามี่ หัวหอกอันตราย "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอมรับสุดผิดหวังที่ "มังกรแดง" เวลส์ อาจกระเด็นตกรอบ เวิลด์ คัพ 2010 รอบคัดเลือกอย่างรวดเร็ว หลังฟอร์มสุดบู่ แพ้ ฟินแลนด์ หมดรูป เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่ยืนกรานไม่หันหลังให้ทีมชาติ และจะขอแก้ตัวในทัวร์นาเมนต์ต่อไป



เคร็ก เบลลามี่ กองหน้าฝีเท้าจัดของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กล่าวยืนยันว่า เขาจะไม่หันหลังให้ทีมชาติเวลส์ อย่างเด็ดขาด แม้สุดผิดหวังกับฟอร์มการเล่นของทีม ในเกมที่โดน ฟินแลนด์ บุกมาอัด 0-2 คาสนาม มิลเลนเนียม สเตเดี้ยม ในเกมฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก กลุ่ม 4 เมื่อวันเสาร์ที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา

อดีตหัวหอก ลิเวอร์พูล และ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ประกาศอย่างชัดเจนว่าเขาจะรับใช้ทัพ "มังกรแดง" ต่อไป แม้ความหวังในการผ่านเข้าไปเล่นที่แอฟริกาใต้ จะลางเลือนเต็มที "มีนักเตะทีมชาติเวลส์ฝีเท้ายอดเยี่ยมหลายคนที่เคยตกรอบคัดเลือกการแข่งขันรายการสำคัญมาแล้ว แต่ผมไม่ใช่คนเหล่านั้น ผมยังห่างไกลกับคำว่ายอดเยี่ยมอีกเยอะ"

"ผมเป็นแค่นักเตะที่ดี แต่ก็ยังมีนักเตะทีมชาติเวลส์ที่ดีกว่ามากมายเคยตกอยู่ภายใต้สถานการณ์เดียวกันนี้ และผมตระหนักถึงพวกเขา มีใครเคยบอกไว้เมื่อปีก่อนว่า ผมน่าจะย้ายตัวครั้งใหญ่ที่สุดในอาชีพด้วยการไปอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผมก็แค่ต้องก้มหน้าก้มตาพยายามลงเล่นเพื่อประเทศต่อไป แน่นอนว่ามันน่าผิดหวังที่เราจะไม่ได้อะไรเลยในการแข่งขันครั้งนี้ แต่ผมต้องปล่อยวางและสู้ต่อไปในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์หน้า" ดาวยิงความเร็วสูง ทิ้งท้าย




ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

โอเว่นซีด!คาเปลโล่เปรยอาจหลุดทัพสิงโตยาว




ฟาบิโอ คาเปลโล่ กุนซือหน้าขรึมทีมชาติอังกฤษ บอกเป็นนัยๆ ว่า ไมเคิ่ล โอเว่น หัวหอกตีนจรวดของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด อาจจะหลุดทัพ "ทรี ไลออนส์" หากไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้ ชี้ชัดเขาจะเลือกนักเตะที่อยู่ในช่วงฟิต และทำผลงานได้ดี ไม่ใช่มองแต่เกียรติประวัติเก่าๆ


โปรยข่าว :
รายละเอียดข่าว :

ฟาบิโอ คาเปลโล่ ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ เปรยเขาอาจจะตัด ไมเคิ่ล โอเว่น กองหน้าความเร็วสูงของ "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ออกจากทัพ "สิงโตคำราม" หากนักเตะไม่สามารถโชว์ฟอร์มกับต้นสังกัดได้ดี และลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ

โอเว่น ติดทัพ "ทรี ไลออนส์" แค่ครั้งเดียวเท่านั้นภายใต้การกุมบังเหียนของ คาเปลโล่ ซึ่งช่วงที่ผ่านมา อดีตดาวยิง ลิเวอร์พูล ถูกกุนซือชาวอิตาเลียนมองข้ามมาตลอด แม้กระทั่ง เอมิล เฮสกี้ หัวหอกแอสตัน วิลล่า เพิ่งจะถอนตัวจากทีมชาติ แต่เขาก็ยังไม่ได้รับความไว้วางใจให้เข้ามาร่วมทีมสำหรับเกมที่จะพบกับ ยูเครน ที่สนามเวมบลีย์ ศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม 6 วันพุธที่ 1 เมษายนนี้

คาเปลโล่ กล่าวถึงโอกาสของ โอเว่น ว่า "ผมจำเป็นต้องเลือกนักเตะที่สามารถลงต่อสู้ในเกมพบ ยูเครน ไม่ใช่การสู้กับประวัติศาสตร์ ผมต้องเลือกนักเตะที่ดีที่สุดซึ่งอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยมในช่วงเวลานี้ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเลือกนักเตะบางคนที่ลงเล่นแค่ 20 นาทีเท่านั้น แล้วทำไมเขาถึงไม่ได้ลงเล่นในเกมนัดล่าสุดล่ะ ?"

นอกจากนี้ กุนซือชาวอิตาเลียน เผยว่าเขาอยากให้ เวย์น รูนี่ย์ และ สตีเว่น เจอร์ราร์ด เล่นอิสระ เหมือนกับที่ทั้งคู่ทำได้ดีในเกมอุ่นเครื่องถล่ม สโลวาเกีย 4-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา "ผมอยากให้ รูนี่ย์ และ เจอร์ราร์ด เคลื่อนที่อย่างอิสระไปทั่วสนาม เมื่อเราได้บอล นั่นเป็นแนวทางที่เราต้องการให้พวกเขาเล่น"

ส่วนกรณีที่เปลี่ยน "สตีวี่จี" และ อารอน เลนน่อน ปีกตัวจี๊ด ออกในช่วงพักครึ่งเกมชนะสโลวาเกีย คาเปลโล่ เผยว่า "ผมตัดสินใจก่อนเกมว่า เลนน่อน น่าจะได้เล่นจนกระทั่งพักครึ่ง มันก็เหมือนกับ เจอร์ราร์ด พวกเขาทั้งคู่อยู่ในฟอร์มที่สุดยอด ดังนั้น ผมไม่อยากให้พวกเขาเล่นมากนัก ผมต้องการให้พวกเขาอยู่ในสภาพที่สดสำหรับเกมนัดหน้า โดยเฉพาะ เลนน่อน ผมพยายามปกป้องเขา เขามีความรวดเร็ว และบางครั้งเมื่อพวกเขาต้องเล่นกับนักเตะแบบนี้ กองหลังจะพยายามหยุดเขาทุกวิถีทาง"




ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

Sunday, March 29, 2009

เชลซีจืด!โบซิงวาเดี้ยงจากเกมคัดบอลโลก




เชลซี กุมขมับ โชเซ่ โบซิงวา ดาวเตะทีมชาติโปรตุเกส สังเวยอาการบาดเจ็บมาจากเกมฟุตบอลโลก 2010 นัดเสมอ สวีเดน แบบไร้สกอร์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หวังเจ้าตัวจะฟิตทันเวลาเกมลีก นัดเยือน นิวคาสเซิ่ล วันเสาร์นี้


โชเซ่ โบซิงวา ปราการหลังทีมชาติโปรตุเกส ทำให้ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ต้นสังกัดแห่งศึกพรีเมียร์ลีก ต้องวิตกจริต ภายหลังโชคร้ายได้รับบาดเจ็บมาจากเกมช่วยชาติบ้านเกิด ลุยศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม 1 นัดเสมอ สวีเดน 0-0 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา


ขอบเขตของอาการบาดเจ็บที่แท้จริงนั้นยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ โบซิงวา จำต้องขอถอนตัวออกจากทีมชาติ ในเกมอุ่นเครื่องกับ แอฟริกาใต้ วันพุธที่ 1 เม.ย.นี้ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดย เชลซี ก็หวังว่า อาการบาดเจ็บจะไม่หนักหนาสาหัสนัก และดาวเตะวัย 26 ปี จะฟิตทันเวลาเกม พรีเมียร์ลีก นัดยกพลเยือน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด วันเสาร์ที่ 4 เม.ย.นี้


"โบซิงวา มีแผลยาวลึกตรงขาซ้าย เขาต้องพลาดเกมนัดต่อไปอย่างช่วยไม่ได้" เอ็นริเก้ โจนส์ แพทย์ทีมชาติโปรตุเกส กล่าว





........................................................................................................................................................................



ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

ผอ.ลาซามพ์ชอบใจปาซซินี่เล่นดีกว่าที่วิโอล่า




จูเซ็ปเป้ มาร็อตต้า ผอ.กีฬา ซามพ์โดเรีย เผยเหตุผลที่ทำให้ จามเปาโล ปาซซินี่ ดาวยิงตัวเก่ง ทำผลงานได้ระเบิดเถิดเทิงในช่วงเวลานี้ เพราะนักเตะได้อยู่ในบรรยากาศที่เหมาะสม ซึ่งสิ่งนี้ไม่มีเลยที่ ฟิออเรนติน่า ที่สำคัญ หัวหอกทีมชาติอิตาลียังได้พบกับคู่หูที่สุดยอดอย่าง อันโตนิโอ คาสซาโน่ กองหน้าอารมณ์ติสต์ ด้วย



จูเซ็ปเป้ มาร็อตต้า ผู้อำนวยการกีฬาของ ซามพ์โดเรีย สโมสรดังในศึกกัลโช่ เซเรีย อา เผยเหตุที่ จามเปาโล ปาซซินี่ กองหน้าทีมชาติอิตาลี โชว์ผลงานได้สุดยอด เมื่อย้ายมาเล่นให้ "ลา ซามพ์" เนื่องจากนักเตะได้อยู่ในบรรยากาศที่เหมาะสม มากกว่าสมัยที่ค้าแข้งกับ ฟิออเรนติน่า

ดาวยิงวัย 24 ปี โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอด นับตั้งแต่ย้ายจากทัพ "ม่วงมหากาฬ" มาเล่นในถิ่น ลุยจิ แฟร์ราริส เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา โดยตอนนี้นักเตะถูกเรียกตัวติดทัพ "อัซซูรี่" เกมแรก นัดเชือด มอนเตเนโกร 2-0 ศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม 8 แถมยังยิงได้ 1 ประตูด้วย

บอสบริหารแห่งทัพ "บลูแชร์คิอาตี้" กล่าวถึงสาเหตุที่ทำให้ ปาซซินี่ ระเบิดฟอร์มเจิดจรัสได้ในช่วงเวลานี้ว่า "ตั้งแต่เขายังเด็กแล้ว มันก็ชัดเจนเลยว่า เขาเป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์เต็มเปี่ยม ปาซซินี่ เล่นให้ทีมชาติทุกระดับ ตั้งแต่ยังอายุยังน้อย"

"ที่นี่ในเจนัว เขาได้พบกับบรรยากาศที่เหมาะสม ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดไปในฟลอเรนซ์ เพราะมีการแข่งขันแย่งตำแหน่งกันอย่างหนัก ผมพูดได้เลยว่า ซามพ์โดเรีย เหมาะสมสำหรับเขามาก และเขาก็ได้พบกับคู่หูที่สมบูรณ์แบบอย่าง (อันโตนิโอ) คาสซาโน่ อีกด้วย" มาร็อตต้า ระบุ





ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

ดร็อกบายันไม่สนย้ายหนีเชลซี




ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา หัวหอกจอมพลังของ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ยืนยันชัดเจนไม่เคยมีความคิดย้ายออกจากถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ เลยสักครั้ง ชี้การเป็นนักเตะอาชีพต้องรู้สึกเคารพในสัญญาที่เซ็นเอาไว้



ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา กองหน้าทีมชาติไอวอรี่ โคสต์ ของเชลซี สโมสรมหาเศรษฐีแห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกมายืนยันเจตนารมณ์อย่างชัดเจนว่าต้องการค้าแข้งอยู่ในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ต่อไป ชี้สิ่งที่สำคัญคือต้องเคารพในสัญญาที่เซ็นเอาไว้

ดาวยิงวัย 31 ปี ทำผลงานได้ไม่ดีนักในช่วงต้นฤดูกาล เนื่องจากมีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน และโดนหลุยส์ สโคลารี่ กุนซือคนก่อน ดร็อปเป็นตัวสำรองหลายครั้ง จนทำให้เขาตกเป็นข่าวมาตลอดว่าอยากย้ายหนี "สิงห์บลูส์" โดยช่วงที่ผ่านมา มีรายงานว่า โชเซ่ มูรินโญ่ เจ้านายเก่าสนใจดึงตัวนักเตะไปเล่นให้ อินเตอร์ มิลาน ขณะเดียวกัน โอลิมปิก มาร์กเซย ต้นสังกัดเก่าก็อยากได้ ดร็อกบา กลับไปล่าตาข่าย

อย่างไรก็ตาม ดร็อกบา ซึ่งมีสัญญาอยู่กับ "สิงโตน้ำเงินคราม" จนถึงปี 2010 ยืนยันว่าเขาจะอยู่ค้าแข้งในลีกเมืองผู้ดีต่อไป "มีหลายสิ่งมากมากที่พูดและเขียนเกี่ยวกับตัวผม สำหรับเรานับตั้งแต่ตอนที่เซ็นสัญญามาเล่นที่นี่ เป้าหมายก็คือการเคารพในสัญญาที่เซ็นเอาไว้"




........................................................................................................................................................................



ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

ปิแรสเชื่อบียาร์เรอัลมีดีพอคว้าชปล.




โรแบร์ ปิแรส มิดฟิลด์เลือดน้ำหอมของ "เรือดำน้ำเหลือง" บียาร์เรอัล มั่นใจพวกเขาเป็นทีมที่แข็งแกร่งมากพอที่จะประสบความสำเร็จในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก แม้จะไม่ได้มีเงินทองมหาศาลเหมือนกับสโมสรอื่นก็ตาม ยืนยันพร้อมทุ่มเทเกินร้อยให้ต้นสังกัด

โรแบร์ ปิแรส อดีตปีกทีมชาติฝรั่งเศสของ บียาร์เรอัล สโมสรดังแห่งศึกลา ลีกา ออกมากระตุ้นเพื่อนร่วมทีมให้มีความเชื่อมั่นในตัวเองว่าสามารถประสบความสำเร็จในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ถึงจะไม่ได้เป็นทีมชั้นนำมีเงินทองมากมาย แต่ความทุ่มเทที่เต็มเปี่ยมก็สามารถสร้างสรรค์สิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้

ดาวเตะเลือดเฟร้นช์ เตรียมช่วยทัพ "เรือดำน้ำเหลือง" รับมือ อาร์เซน่อล ในเกมรอบก่อนรองชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก สัปดาห์หน้า โดยเป็นครั้งแรกของเขาที่จะได้มีโอกาสพบ "ไอ้ปืนใหญ่" นับตั้งแต่ย้ายออกมาเมื่อปี 2006 ซึ่ง ปิแรส ได้กล่าวเตือน อดีตต้นสังกัดเก่า ว่าอย่าได้ประเมินพวกเขาต่ำเกินไป ไม่งั้นมีสิทธิโดนเขี่ยตกรอบแน่นอน

มิดฟิลด์วัย 35 กะรัต กล่าวว่า "แน่นอนผมมีความเชื่อมั่นในทีมของผม แม้ผมรู้ว่ามีหลายทีมที่คว้าแชมป์มากมาย และก็มีงบประมาณมหาศาลกว่าเรา แต่เราก็มีดีพอที่จะชนะได้ทุกทีม ผมหวังว่าเพื่อนร่วมทีมจะคิดเหมือนกับผม และมีความเชื่อมั่นว่าเราสามารถทำในสิ่งนี้ได้ มีบางคนคิดว่าผมย้ายมาที่ บียาร์เรอัล เพื่อพักผ่อน และผมคงไม่ทุ่มเทเพื่อทีม แต่ผมพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพวกเขาคิดผิด ผมมาที่นี่ด้วยแผนการที่ยอดเยี่ยม เพราะผมต้องคิดแบบมืออาชีพ"





........................................................................................................................................................................



ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

วิเอร่าตั้งเป้าเรียกฟอร์มเก่งกลับมา




ปาทริค วิเอร่า ห้องเครื่องจอมแกร่งของ "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน ตั้งเป้าอยากที่จะเรียกฟอร์มเก่งของตัวเก่งกลับมาให้ได้โดยเร็วที่สุด ยอมรับตอนนี้ตั้งหน้าตั้งตาทำงานหนักเพื่อให้สิ่งที่ต้องการเป็นจริง พร้อมยืนยันอยากอยู่ค้าแข้งในถิ่นจูเซ็ปเป้ เมอัซซ่า ต่อไปเรื่อยๆ



ปาทริค วิเอร่า กองกลางทีมชาติฝรั่งเศสของ อินเตอร์ มิลาน มหาอำนาจลูกหนังแห่งศึกกัลโช่ เซเรีย อา มุ่งมั่นที่จะเรียกฟอร์มเก่งของตัวเองกลับมาอีกครั้ง พร้อมยืนยันจะขอพิสูจน์ความยอดเยี่ยมของตัวเองว่าเป็นผู้เล่นที่คุ้มค่าสำหรับการเล่นให้กับทัพ "เนรัซซูรี่" แน่นอน

อดีตดาวเตะ อาร์เซน่อล เพิ่งจะหายจากอาการบาดเจ็บ และกลับมาลงสนามช่วยทัพ "งูใหญ่" ได้แล้วในช่วงเวลานี้ อย่างไรก็ตาม ดาวเตะวัย 32 ปี ยอมรับว่าเขายังไม่อยู่ในฟอร์มที่สุดยอด และตอนนี้ก็หวังที่จะเรียกผลงานที่แข็งแกร่งของตัวเองกลับมาอีกครั้ง รวมทั้งช่วยทีมผงาดครองแชมป์ลีกมะกะโรนีสมัย 4 ในฤดูกาลนี้

กองกลางทีมชาติฝรั่งเศส กล่าวว่า "ผมต้องทำงานหนัก กลับมาแข็งแกร่งและเล่นอยู่ในระดับที่ดีที่สุดของผมให้ได้ ผมต้องการลงเล่น และผมอยากลงเล่นแทนที่จะเอาแต่พูดไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีใครสักคนบอกกับผมในสิ่งที่ตรงกันข้าม ผมอยากอยู่ที่นี่ ผมมีสัญญาจนกระทั่งถึงปี 2010 และผมต้องการที่จะอยู่ใน มิลาน และลงเล่นให้มากที่สุด"





ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

ดร็อกบายันไม่สนย้ายหนีเชลซี




ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา หัวหอกจอมพลังของ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ยืนยันชัดเจนไม่เคยมีความคิดย้ายออกจากถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ เลยสักครั้ง ชี้การเป็นนักเตะอาชีพต้องรู้สึกเคารพในสัญญาที่เซ็นเอาไว้



ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา กองหน้าทีมชาติไอวอรี่ โคสต์ ของเชลซี สโมสรมหาเศรษฐีแห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกมายืนยันเจตนารมณ์อย่างชัดเจนว่าต้องการค้าแข้งอยู่ในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ต่อไป ชี้สิ่งที่สำคัญคือต้องเคารพในสัญญาที่เซ็นเอาไว้

ดาวยิงวัย 31 ปี ทำผลงานได้ไม่ดีนักในช่วงต้นฤดูกาล เนื่องจากมีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน และโดนหลุยส์ สโคลารี่ กุนซือคนก่อน ดร็อปเป็นตัวสำรองหลายครั้ง จนทำให้เขาตกเป็นข่าวมาตลอดว่าอยากย้ายหนี "สิงห์บลูส์" โดยช่วงที่ผ่านมา มีรายงานว่า โชเซ่ มูรินโญ่ เจ้านายเก่าสนใจดึงตัวนักเตะไปเล่นให้ อินเตอร์ มิลาน ขณะเดียวกัน โอลิมปิก มาร์กเซย ต้นสังกัดเก่าก็อยากได้ ดร็อกบา กลับไปล่าตาข่าย

อย่างไรก็ตาม ดร็อกบา ซึ่งมีสัญญาอยู่กับ "สิงโตน้ำเงินคราม" จนถึงปี 2010 ยืนยันว่าเขาจะอยู่ค้าแข้งในลีกเมืองผู้ดีต่อไป "มีหลายสิ่งมากมากที่พูดและเขียนเกี่ยวกับตัวผม สำหรับเรานับตั้งแต่ตอนที่เซ็นสัญญามาเล่นที่นี่ เป้าหมายก็คือการเคารพในสัญญาที่เซ็นเอาไว้"




........................................................................................................................................................................



ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

Saturday, March 28, 2009

คาเปลโล่เรียกเบนท์เสียบแทนโคล




ดาร์เรน เบนท์ ดาวยิง สเปอร์ส รับส้มเต็มๆ เมื่อถูก ฟาบิโอ คาเปลโล่ กุนซือทีมชาติอังกฤษ เรียกตัวมาติดทัพ ชุดลงเตะเกมคัดบอลโลกกับ ยูเครน วันพุธนี้ แทนที่ คาร์ลตัน โคล หัวหอก เวสต์แฮม ที่เดี้ยงมาจากเกมอุ่นแข้งกับ สโลวะเกีย เมื่อคืนวันเสาร์


ฟาบิโอ คาเปลโล่ โค้ชทีมชาติอังกฤษ ทำการเรียกตัว ดาร์เรน เบนท์ กองหน้าความเร็วสูงของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มาติดทัพชุดลงทำศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กับ ทีมชาติยูเครน ที่สนาม เวมบลีย์ วันพุธที่ 1 เมษายนนี้ ในฐานะตัวตายตัวแทนของ คาร์ลตัน โคล ดาวยิงร่างใหญ่ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่ดันได้รับบาดเจ็บในระหว่างเกมอุ่นเครื่องนัดถล่ม ทีมชาติสโลวะเกีย 4-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา


"ดอน คาเปลโล่" ถึงกับปวดหัว เมื่อ 3 กองหน้าอย่าง เอมิล เฮสกี้, คาร์ลตัน โคล และ ปีเตอร์ เคร้าช์ ได้รับบาดเจ็บกันพร้อมหน้าจากเกมอุ่นแข้งนัดดังกล่าว โดยเฉพาะในรายของ โคล นั้นเป็นที่แน่นอนแล้วว่า ลงเล่นในเกมวันพุธนี้ไม่ได้ และก็เป็น เบนท์ ที่ถูกกุนซือชาวอิตาเลียนวัย 62 ปี เลือกมาติดทีมแทนเหนือ ไมเคิ่ล โอเว่น หัวหอก นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และ เควิน เดวิส ดาวยิง โบลตัน วันเดอเรอร์ส


คาเปลโล่ กล่าวว่า "ไมเคิ่ล โอเว่น ได้ลงเล่นแค่ 20 นาทีเท่านั้นในเกมนัดล่าสุด ซึ่งมันยังไม่เพียงพอ เควิน เดวิส ก็เช่นกัน คาร์ลตัน โคล ไม่สามารถลงเล่นในเกมวันพุธนี้ได้ แต่ผมคิดว่า เคร้าช์ จะกลับมาโอเคอีกครั้ง ส่วน เฮสกี้ จะเข้ารับการสแกนในวันพรุ่งนี้"





ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

ฟาร์ทยันเตรียมหนีชุดขาวซบสิงห์บลูส์




ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท เพลย์เมกเกอร์เลือดดัตช์ ประกาศชัดเจนขอย้ายออกจาก "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ในช่วงจบฤดูกาลนี้ หลังจากตกเป็นตัวสำรองยาวในยุคของฆวนเด้ รามอส จนหวั่นว่าจะส่งผลกระทบต่อตำแหน่งในทีมชาติฮอลแลนด์ พร้อมเผย "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ยักษ์ใหญ่เมืองผู้ดี เตรียมอ้าแขนรับตัวไปใช้งานต่อ



ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท มิดฟิลด์ทีมชาติฮอลแลนด์ของเรอัล มาดริด มหาอำนาจลูกหนังศึกลา ลีกา ออกมาประกาศชัดเจนว่าเขาจะย้ายออกจากถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว ในหน้าร้อนนี้ โดยมี เชลซี เจ้าบุญทุ่มแห่งเกาะอังกฤษเป็นเป้าหมาย

เพลย์เมกเกอร์ วัย 26 ปี เพิ่งย้ายมาร่วมทัพ "ราชันชุดขาว" ฤดูกาลนี้ แต่ต้องอยู่บนม้านั่งสำรองตลอดนับตั้งแต่ ฆวนเด้ รามอส เข้ามากุมบังเหียนแทน แบรนด์ ชูสเตอร์ เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ทำให้เขาหวั่นใจว่าอาจส่งผลกระทบกับตำแหน่งในทีมชาติหลังจากศึกเวิลด์ คัพ 2010 ที่แอฟริกาใต้ กำลังมาถึง

"เป็นโชคดีสำหรับผมที่มี เชลซี ต้องการตัว ทำให้ทุกอย่างสำหรับผมค่อนข้างชัดเจน หาก กุส ฮิดดิ้งค์ ยังคงคุมเชลซีต่อไป ผมหวังว่าจะได้เซ็นสัญญาในอีกไม่นานนี้ ผมต้องการย้ายออกจากเรอัล มาดริด" อดีตเด็กปั้นอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม กล่าวกับหนังสือพิมพ์เดลี่ เมล์ ของประเทศอังกฤษ




........................................................................................................................................................................



ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

ฟอสเตอร์ปลื้มได้เฝ้าเสาช่วยสิงโตถล่มสโลวัก




เบน ฟอสเตอร์ มือกาวดาวรุ่งของ ทัพ "สิงโตคำราม" อังกฤษ สุดปลื้มได้ลงเฝ้าเสาในครึ่งหลังของเกมอุ่นเครื่องถล่ม สโลวาเกีย สนุกเท้า 4-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังจากไม่คาดคิดมาก่อน เพราะแค่ ฟาบิโอ คาเปลโล่ เรียกตัวมาติดทีมชุดนี้ก็เซอร์ไพรส์มากพออยู่แล้ว



เบน ฟอสเตอร์ ผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษ ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมากล่าวแสดงความดีใจอย่างชื่นมื่น หลังจากได้รับโอกาสลงสนามให้ทีมชาติเป็นนัดที่ 2 แบบไม่คาดฝันในเกมกระชับมิตรที่ทัพนักเตะบ้านเกิด ไล่ถล่ม ทีมชาติสโลวาเกีย ขาดลอย 4-0 ที่ สนาม เวมบลีย์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

จอมหนึบวัย 25 ปี ยอมรับว่าเขาประหลาดใจมากพออยู่แล้วที่ ฟาบิโอ คาเปลโล่ กุนซือชาวอิตาเลียน เรียกตัวเข้ามาติดทีมชุดนี้ "มันค่อนข้างเกินความคาดหมายทีเดียว เพราะไม่เพียงถูกเรียกติดทีม แต่ยังมีส่วนร่วมในเกมด้วย นี่ถือเป็นผลการแข่งขัน และ ฟอร์มที่ยอดมาก ผมถึงได้ดีใจที่มีส่วนร่วม"

"ก่อนหน้านี้ เรย์ (คลีเมนซ์) และ (ฟรังโก้) ตันเครดี้ 2 โค้ชผู้รักษาประตู ได้เรียกผมไปคุย และ บอกว่าผมน่าจะได้เล่นในครึ่งหลัง เพราะฉะนั้นคุณก็ต้องเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม ผมลงไปวอร์มอัพ และ มีเวลาเตรียมตัวให้พร้อมตอนพักครึ่ง 15 นาที" นายทวาร "ปีศาจแดง" กล่าว

พร้อมกันนี้ ฟอสเตอร์ ยังได้เปรียบเทียบโอกาสที่เขาได้ลงเล่นที่ เวมบลีย์ 2 แมตช์ หลังจากเมื่อต้นเดือน เคยช่วย "ปีศาจแดง" คว้าแชมป์คาร์ลิ่ง คัพ ที่นี่ มาแล้ว "ยังไงมันก็เป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมของผม ไม่ว่าผมได้เล่นเกมไหนในฤดูกาลนี้ ก็ถือเป็นโบนัสทั้งนั้น เพราะโอกาสไม่ค่อยเข้าทางผมเท่าไร ความจริงที่ผมได้เล่น 2 นัด ที่ เวมบลีย์ นัดหนึ่งเล่นให้ประเทศของผม และ อีกนัดเล่นให้สโมสรในนัดชิงชนะเลิศบอลถ้วย เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมจริงๆ"

นอกจากนี้อดีตนายทวารดาวรุ่งสโต๊ค ซิตี้ บอกว่าเชื่อมั่นมาตลอดว่าจะได้สานต่อการประเดิมสนามให้ทีมชาติ ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อ 2 ปีก่อน "คุณสูญเสียความเชื่อมั่นไม่ได้เลย ผมรู้ว่าผมมีอาการบาดเจ็บ 2-3 ครั้งที่ทำให้ลงเล่นไม่ได้ แต่พอกลับมาฟิตเต็มร้อย คุณก็อยากทำผลงาน เพื่อคว้าตำแหน่งในต้นสังกัด แล้วค่อยทำผลงานเพื่อลุ้นติดทีมอังกฤษ ผมคิดอยู่เสมอว่าผมจะทำได้"

สุดท้าย ฟอสเตอร์ ยังได้ชื่นชม เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าเพื่อนร่วมสโมสร เป็นพิเศษ หลังจากเขาเหมายิง 2 ประตู และ คว้าตำแหน่ง แมน ออฟ เดอะ แมตช์ "เขาเยี่ยมจริงๆ เขาพยายามอย่างหนักตั้งแต่นาทีแรก ความทุ่มเทของเขามันน่าเหลือเชื่อจริงๆ 2 ประตูของเขา ลูกโหม่งก็โหม่งเข้ามุมได้สวย กับลูกที่ชิพข้ามผู้รักษาประตู เขาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมจริงๆ และ วันนี้ผมก็ดีใจแทนเขามากๆ"




........................................................................................................................................................................



ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

สิงโตกลุ้มสังเวย3หอกเซ่นชัยเหนือสโลวัก




พลพรรค "สิงโตคำราม" อังกฤษ ถึงกับทรุด เมื่อต้องสังเวย 3 หัวหอกอย่าง เอมิล เฮสกี้ คาร์ลตัน โคล และ ปีเตอร์ เคร้าช์ ซึ่งโดนโรคเดี้ยงเล่นงานพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ในชัยชนะเหนือ สโลวะเกีย 4-0 เมื่อวันเสาร์ ทำให้กุนซือ ฟาบิโอ คาเปลโล่ อาจมีปัญหาสำหรับการจัดทัพในเกมคัดบอลโลกกับ ยูเครน กลางสัปดาห์หน้า


ทีมชาติอังกฤษ พบกับปัญหาใหญ่เสียแล้ว เมื่อ 3 กองหน้าอย่าง เอมิล เฮสกี้ คาร์ลตัน โคล และ ปีเตอร์ เคร้าช์ ต่างก็ได้รับบาดเจ็บมาจากเกมอุ่นเครื่อง นัดเปิดรัง เวมบลีย์ ทุบ สโลวะเกีย เละเทะ 4-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และอาจจะลงช่วยทีมในเกมฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก กับ ยูเครน วันพุธที่ 1 เมษายน ไม่ได้


เฮสกี้ ถูกส่งลงสนามเป็นตัวจริงในเกมนี้ และสามารกเบิกสกอร์แรกให้ อังกฤษ ขึ้นนำ 1-0 ได้สำเร็จ หลังการแข่งขันดำเนินไปได้เพียง 7 นาที แต่ต่อมาไม่นาน กองหน้าจาก แอสตัน วิลล่า ก็ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นที่เอ็นหลังหัวเข่า จนเล่นต่อไม่ไหว และต้องหลีกทางให้ โคล ลงไปเล่นแทน


อย่างไรก็ตาม หลังจากลงสนามไปได้ไม่นาน โคล ก็มีอันเป็นไปอีกคน เมื่อเกิดได้รับาดเจ็บ ซึ่งน่าจะเป็นบริเวณขาหนีบ ทำให้ ฟาบิโอ คาเปลโล่ ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ไม่มีทางเลือกต้องส่ง ปีเตอร์ เคร้าช์ ซึ่งมีปัญหาบาดเจ็บน่องติดตัวอยู่นั้น ลงไปเล่นแทน


แต่ทว่า หัวหอกร่างโย่งก็อยู่ในสนามไม่ได้จนจบเกมเช่นกัน หลังถูก มาร์ติน สเคอร์เทล กองหลัง ลิเวอร์พูล อัดจนเจ็บสะโพก และต้องถูกถอดออกจากสนาม และเปิดทางให้ ไมเคิ่ล คาร์ริค ลงมาเล่นแทนในช่วง 16 นาทีก่อนหมดเวลาการแข่งขัน





ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

คาร์ลอสจวกกัลเดร่อน-เพ็ดย่าตัวปัญหาชุดขาว




โรแบร์โต้ คาร์ลอส ฟูลแบ็ก เฟเนร์บาห์เช่ โวยแหลก ราม่อน กัลเดร่อน และ เปรแดร็ก มิยาโตวิช เป็นตัวปัญหาของ เรอัล มาดริด อย่างแท้จร้ง พร้อมชูมือสนับสนุนให้ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ กลับมานั่งเก้าอี้บิ๊กบอส "ราชันชุดขาว" อีกรอบ เนื่องจากมั่นใจว่าเจ้าตัวจะแก้ปัญหาทั้งหมดได้


โรแบร์โต้ คาร์ลอส แบ็กซ้ายชาวบราซิเลียนของ เฟเนร์บาห์เช่ ยักษ์ใหญ่จากตุรกี ออกโรงจวก ราม่อน กัลเดร่อน อดีตประธานสโมสร เรอัล มาดริด มหาอำนาจแห่งศึกลา ลีกา สเปน และ เปรแดร็ก มิยาโตวิช ผู้อำนวยการกีฬาสโมสรคนปัจจุบัน เป็นตัวสร้างปัญหาให้กับ "ราชันชุดขาว" อย่างแท้จริง


กัลเดร่อน ชิงลาออกจากตำแหน่งประธานสโมสรเมื่อปีที่ผ่านมา หลังถูกแฉว่า วิ่งล็อบบี้จนได้รับคะแนนเสียงไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งบิ๊กบอส เรอัล ต่อไปอย่างเฉียดฉิว ขณะที่ มิยาโตวิช ถึงแม้เวลานี้จะยังคงทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการกีฬาสโมสรเหมือนเดิม แต่กระนั้นมีกระแสข่าวออกมาว่า "เพ็ดย่า" อาจจะนั่งเก้าอี้ตัวเดิมได้อีกไม่นาน


คาร์ลอส กล่าวว่า "เวลานี้ ผมอาจจะยังเล่นให้กับ มาดริด ก็ได้ แต่เขา (มิยาโตวิช) ต้องการทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ ฟลอเรนติโน่ (เปเรซ) ได้สร้างเอาไว้ รวมถึงในเรื่องอื่นๆ ด้วย มาดริด กำลังเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ผมไม่เชื่อว่า พวกเขาจะเจอน้อยกว่าที่ แมนเชสเตอร์ (ยูไนเต็ด) หรือ บาร์เซโลน่า เจอ แต่ บาร์เซโลน่า กำลังเล่นได้อย่างน่าประทับใจ"


พร้อมกันนั้น ดาวเตะวัย 35 ปี ออกโรงเชียร์ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ควรได้รับการเลือกตั้งให้กลับมานั่งเก้าอี้ประธานสโมสรอีกครั้ง โดยกล่าวว่า "กับเขา มาดริด จะเป็นแชมเปี้ยนส์ และจะเป็น 1 ในทีมที่ดีที่สุดในโลก ประธานสโมสรคนต่อไปมีหน้าที่ในการแก้ปัญหาเลวร้ายทั้งหมดที่มีคนสร้างขึ้นมา"







........................................................................................................................................................................



ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

เบ็คส์อุทิศสถิติติดทีมชาติมากสุดให้ครอบครัว




เดวิด เบ็คแฮม ยังเป็นแฟมิลี่แมนเหมือนเดิม ประกาศอุทิศการทำลายสถิติติดทีมชาติมากที่สุด 109 นัดให้กับครอบครัว ไม่ลืมชมเพื่อนร่วมทีม "สิงโตคำราม" เล่นกันได้ดีเยี่ยมในเกมดับ สโลวะเกีย 4-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา



เดวิด เบ็คแฮม มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ ขออุทิศการทำสถิติติดทีมชาติมากที่สุดตลอดกาล 109 นัด ในฐานะผู้เล่นเอาต์ฟิลด์ให้กับครอบครัวของตน หลังจากแซงหน้า เซอร์ บ็อบบี้ มัวร์ ตำนานนักเตะเลือดผู้ดี ได้สำเร็จ เมื่อถูกเปลี่ยนตัวลงสนามในครึ่งหลัง เกมอุ่นเครื่องชนะ สโลวะเกีย 4-0 ที่สนาม เวมบลีย์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

"หนุ่มเบ็คส์" เปิดใจว่า "ผมไม่คิดว่า ผมจะติดทีมชาติถึง 95 นัดด้วยซ้ำ อย่าพูดถึง 109 นัดเลย ผมภูมิใจและดีใจมาก เมื่อคุณโตขึ้น คุณก็ฝันจะได้เล่นให้กับทีมชาติบ้านเกิดของคุณเอง และได้เล่นที่ เวมบลีย์ การติดทีมชาติอังกฤษ 109 นัด ถือเป็นสิ่งพิเศษสุดสำหรับตัวผมและครอบครัว ผมจะไม่ทิ้งหมวกใบนี้แน่นอน ผมจะเก็บไว้ให้ตัวเอง มันจะอยู่ที่บ้านในลอนดอน และล็อกเก็บไว้อย่างดี"

"แต่ผมอยากขออุทิศมันให้ครอบครัว เพราะพวกเขาคือคนที่คอยอยู่เคียงข้างตลอดช่วงเวลาขึ้นๆ ลงๆ ในอาชีพผม และคอยอยู่เคียงข้างในช่วง เวลาที่ดีและเลวร้าย ในบางครั้งมันก็มีขึ้นมีลง แต่มันก็เป็นช่วงเวลาพิเศษ ครอบครัวผมทุกคนอยู่ที่นี่ด้วยดังนั้นมันจึงมีความหมายมากทีเดียว เมื่อคุณอยู่ ในสนาม คุณก็หวังจะคว้าชัยชนะให้ได้หรือทำสิ่งที่แตกต่างให้เกิดขึ้นได้ และผ่านบอลให้เพื่อนทำประตู"

"ผมโชคดีพอในการอยู่ในตำแหน่งที่ดี ซึ่งผมสามารถเปิดบอลสวยๆ ได้ 2-3 หน เหนืออื่นใดคือฟอร์มการเล่นของทีม เราเริ่มเกมกันได้ดี และครองเกมเอาไว้ได้ เวย์น (รูนี่ย์) เล่นได้ดีเยี่ยมเช่นกัน เขาซ้อมได้ดีมาตลอดทั้งสัปดาห์ และมีฟอร์มสุดเหลือเชื่อกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาคือนักเตะสุดพิเศษ เราโชคดีมากที่มีเขาอยู่ในทีม" กองกลางตัวยืมของ เอซี มิลาน ระบุ

อดีตดาวเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เรอัล มาดริด ฝันจะได้ติดทัพ "ทรี ไลอ้อนส์" ชุดลุยฟุตบอลโลก 2010 รอบสุดท้าย ที่ประเทศแอฟริกาใต้ เช่นกัน หลังเคยโม่แข้งมาแล้วในปี 1998, 2002 และ 2006 แต่เจ้าตัวทำเหนียมอายไม่ค่อยอยากพูดถึงสักเท่าไหร่นัก

"เป้าหมายคือการลงเล่นเท่านั้น ได้มีส่วนร่วมในทุกเกมหากเป็นไปได้ แน่นอน ผมเคยบอกเอาไว้แล้วว่า ผมอยากเล่นฟุตบอลโลกอีกสักครั้ง หรือ 2 ครั้งก็ได้! แต่เราก็ต้องรอดูกันต่อไป มันยังเหลือเวลาอีกยาวนานก่อนจะถึงวันนั้น ยังมีเกมอีกมากมายให้ต้องฟันฝ่ากัน" กองกลางเท้าชั่งทอง เผย





ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

นกแก้วเชิญหงส์อุ่นแข้งประเดิมรังใหม่




"เจ้านกแก้ว" เอสปันญ่อล ยืนยัน จัดส่งเทียบเชิญยอดทีมเมืองผู้ดีอย่าง ลิเวอร์พูล มาเตะเกมอุ่นแข้ง พร้อมประเดิมสนาม กอร์เนย่า เอล ปราต รังเหย้าแห่งใหม่ ในวันที่ 2 ส.ค.นี้ เรียบร้อยแล้ว


เอสปันญ่อล สโมสรชื่อดังในศึกลา ลีกา สเปน ยืนยันว่า ได้เชื้อเชิญ ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาเตะเกมอุ่นเครื่อง ในวันที่ 2 สิงหาคมนี้ และถือว่าเป็นการประเดิมสนามเหย้าแห่งใหม่ความจุ 40,000 ที่นั่ง ของพวกเขาที่ชื่อ กอร์เนย่า เอล ปราต อีกด้วย


ฤดูกาลนี้ถือว่าเป็นซีซั่นสุดท้ายแล้วที่ "เจ้านกแก้ว" ใช้สนาม โอลิมปิก เด มอนต์จูอิค เป็นรังเหย้าของตัวเอง และในเกมอุ่นแข้งกับ ลิเวอร์พูล นั้น นับว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้เห็น สตีฟ ฟินแน่น แบ็กขวาชาวไอริชของพวกเขา และ อัลเบิร์ต ริเอร่า ปีกซ้ายทีมชาติสเปนของ "หงส์แดง" ลงปะทะกับทีมเก่าของกันและกัน


อย่างไรก็ตาม เป็นที่โชคร้ายของ เอสปันญ่อล ไม่น้อยที่ส่อแววจะได้ใช้สนามเหย้าแห่งใหม่เป็นครั้งแรกในฤดูกาลหน้า ด้วยการโลดแล่นระดับ เซกุนด้า ลีกา (ดิวิชั่น 2) เนื่องจากเวลานี้พวกเขากำลังรั้งอันดับสุดท้ายในตาราง ลา ลีกา และมีคะแนนห่างจากโซนปลอดภัยถึง 8 แต้มเลยทีเดียว ซึ่งนั่นก็เท่ากับว่าพวกเขามีโอกาสตกชั้นสูงมาก




........................................................................................................................................................................



ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

คาเปลโล่เรียกเบนท์เสียบแทนโคล




ดาร์เรน เบนท์ ดาวยิง สเปอร์ส รับส้มเต็มๆ เมื่อถูก ฟาบิโอ คาเปลโล่ กุนซือทีมชาติอังกฤษ เรียกตัวมาติดทัพ ชุดลงเตะเกมคัดบอลโลกกับ ยูเครน วันพุธนี้ แทนที่ คาร์ลตัน โคล หัวหอก เวสต์แฮม ที่เดี้ยงมาจากเกมอุ่นแข้งกับ สโลวะเกีย เมื่อคืนวันเสาร์


ฟาบิโอ คาเปลโล่ โค้ชทีมชาติอังกฤษ ทำการเรียกตัว ดาร์เรน เบนท์ กองหน้าความเร็วสูงของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มาติดทัพชุดลงทำศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กับ ทีมชาติยูเครน ที่สนาม เวมบลีย์ วันพุธที่ 1 เมษายนนี้ ในฐานะตัวตายตัวแทนของ คาร์ลตัน โคล ดาวยิงร่างใหญ่ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่ดันได้รับบาดเจ็บในระหว่างเกมอุ่นเครื่องนัดถล่ม ทีมชาติสโลวะเกีย 4-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา


"ดอน คาเปลโล่" ถึงกับปวดหัว เมื่อ 3 กองหน้าอย่าง เอมิล เฮสกี้, คาร์ลตัน โคล และ ปีเตอร์ เคร้าช์ ได้รับบาดเจ็บกันพร้อมหน้าจากเกมอุ่นแข้งนัดดังกล่าว โดยเฉพาะในรายของ โคล นั้นเป็นที่แน่นอนแล้วว่า ลงเล่นในเกมวันพุธนี้ไม่ได้ และก็เป็น เบนท์ ที่ถูกกุนซือชาวอิตาเลียนวัย 62 ปี เลือกมาติดทีมแทนเหนือ ไมเคิ่ล โอเว่น หัวหอก นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และ เควิน เดวิส ดาวยิง โบลตัน วันเดอเรอร์ส


คาเปลโล่ กล่าวว่า "ไมเคิ่ล โอเว่น ได้ลงเล่นแค่ 20 นาทีเท่านั้นในเกมนัดล่าสุด ซึ่งมันยังไม่เพียงพอ เควิน เดวิส ก็เช่นกัน คาร์ลตัน โคล ไม่สามารถลงเล่นในเกมวันพุธนี้ได้ แต่ผมคิดว่า เคร้าช์ จะกลับมาโอเคอีกครั้ง ส่วน เฮสกี้ จะเข้ารับการสแกนในวันพรุ่งนี้"





ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

งู,เรือใบจ๋อย!อเกวโร่ยันขออยู่ตราหมีต่อ




อินเตอร์ มิลาน และ แมนฯ ซิตี้ ควงแขนกันจ๋อย เมื่อ เซร์คิโอ อเกวโร่ ดาวยิงฝีเท้าจัด แอตฯ มาดริด ยืนกราน ไม่อำลาถิ่น บิเซนเต้ กัลเดร่อน อย่างแน่นอน เหตุมีความสุขที่จะอยู่ล่าตาข่ายให้ "ตราหมี" ต่อไป


เซร์คิโอ อเกวโร่ กองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินาของ แอตเลติโก มาดริด สโมสรชื่อดังในศึกลา ลีกา สเปน ออกมาปฏิเสธข่าวลือที่ระบุว่า ตัวเขาต้องการย้ายสังกัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยยืนยันว่า ยังมีความสุข และต้องการอยู่ค้าแข้งในถิ่น บิเซนเต้ กัลเดร่อน ต่อไป


"กุน" ถือว่าเป็นนักเตะที่เนื้อหอมที่สุดคนหนึ่งในโลกลูกหนังยุคนี้ และก็มีข่าวว่า อินเตอร์ มิลาน ยอดทีมจากอิตาลี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมเงินถุงเงินถังจากอังกฤษ ต่างให้ความสนใจที่จะกระชากตัวไปเสริมทัพ และในระหว่างสัปดาห์ก็มีข่าวลือเล็ดลอดออกมาว่า หนึ่งในเอเยนต์ส่วนตัวของเขาได้เดินทางไปเจรจากับ มัสซิโม่ โมรัตติ ประธานสโมสร "งูใหญ่" อีกด้วย


อย่างไรก็ตามล่าสุด หัวหอกฝีเท้าจัดวัย 20 ปี คอนเฟิร์มชัดว่า จะไม่ย้ายหนี "ตราหมี" แน่ โดยระบุว่า "สโมสรแห่งนี้ดูแลผมเป็นอย่างดี และตัวผมเองก็ได้เข้าไปบอกกับผู้บริหารของเราแล้วว่า ผมต้องการอยู่ที่นี่ต่อไป หลังจากนั้นเราจะได้เห็นกัน ผมมีประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมกับที่นี่ และผมเองก็มีความกระตือรือร้นที่จะลงเล่นให้ทีมชาติด้วย"





........................................................................................................................................................................



ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

คันนาเนื้อหอมมิลาน-สเปอร์ส-ซิตี้รุมตอม




เอ็นริโก้ เฟเดเล่ นายหน้าคู่ใจ ฟาบิโอ คันนาวาโร่ เซนเตอร์ฮาล์ฟ เรอัล มาดริด ยืนยัน นักเตะในความดูแลของตนจะไม่ย้ายกลับไปเล่นให้กับ นาโปลี แล้ว ภายหลังทีมดังแห่งเมืองเนเปิ้ลส์ตัดสินใจทาบทามนักเตะคนอื่น พร้อมรับเวลานี้ "คันนา" กำลังได้รับความสนใจจาก เอซี มิลาน, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้


เอ็นริโก้ เฟเดเล่ เอเยนต์ส่วนตัวของ ฟาบิโอ คันนาวาโร่ กองหลังทีมชาติอิตาลีของ เรอัล มาดริด ยืนยัน "คันนา" ไม่มีความคิดที่จะย้ายกลับไปเล่นให้กับ นาโปลี อีกครั้งหนึ่ง พร้อมเผย เอซี มิลาน, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่างก็ให้ความสนใจอยากจะดึงนักเตะในความดูแลของตนไปร่วมทีมแบบฟรีๆ


ดาวเตะวัย 35 ปี ซึ่งรับค่าเหนื่อยตกอยู่ราว 4 ล้านปอนด์ (ประมาณ 200 ล้านบาท) ต่อปีนั้น เหลือสัญญาค้าแข้งกับ เรอัล จนถึงฤดูกาลนี้เท่านั้น และล่าสุด "ราชันชุดขาว" แสดงท่าทีชัดเจนแล้วว่า ไม่ต้องการยื่นสัญญาฉบับใหม่ให้พิจารณา นั่นหมายความว่า อดีตดาวเตะ ยูเวนตุส สามารถย้ายทีมได้อย่างอิสระในช่วงหน้าร้อนนี้


อย่างไรก็ตาม เฟเดเล่ ยืนยัน ถึงแม้ก่อนหน้านี้ คันนาวาโร่ จะยืนยันมาโดยตลอดว่า อยากย้ายกลับไปเล่นให้กับ นาโปลี แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าเรื่องดังกล่าวคงไม่มีทางเกิดขึ้นแล้ว โดยกล่าวว่า "ฟาบิโอ และ นาโปลี มีวิถีทางที่ต่างกัน เขายังรักทีมบ้านเกิดของเขาเหมือนเดิม แต่สโมสรแห่งนี้เลือกที่จะทาบทามนักเตะคนอื่นแทน"






........................................................................................................................................................................



ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

รูนี่ย์พอใจฟอร์มสิงโต-ลั่นพร้อมยืนหอกเดี่ยว




เวย์น รูนี่ย์ รับพอใจฟอร์มเพื่อนร่วมทีมชาติอังกฤษ หลังจบเกมไล่ถลุง สโลวะเกีย 4-0 ประกาศก้อง พร้อมรับบทหัวหอกเดี่ยวในเกมฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก กับ ยูเครน วันพุธนี้ เพื่อทดแทน ปีเตอร์ เคร้าช์, เอมิล เฮสกี้ และ คาร์ลตัน โคล ที่ต่างก็เดี้ยงมาจากเกมนัดนี้


เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าทีมชาติอังกฤษ ยอมรับว่า ตนพอใจฟอร์มการเล่นโดยรวมของทัพนักเตะ "สิงโตคำราม" ในเกมอุ่นเครื่องที่ไล่ต้อน สโลวะเกีย ขาดลอย 4-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ชี้พร้อมยืนหัวหอกเดี่ยวในเกมฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก กับ ยูเครน วันพุธที่ 1 เม.ย.นี้ เนื่องจากทั้ง ปีเตอร์ เคร้าช์, เอมิล เฮสกี้ และ คาร์ลตัน โคล ต่างก็ได้รับบาดเจ็บกันถ้วนหน้า


หัวหอกร่างตัน ซึ่งซิวตำแหน่ง "แมน ออฟ เดอะ แมตช์" ไปครอง หลังเหมายิงคนเดียว 2 ตุง กล่าวว่า "ผมคิดว่าเราเล่นกันได้ดีเยี่ยมมาก ในครึ่งแรกเราคุมเกมเอาไว้ได้หมด เราน่าจะทำประตูได้มากกว่านี้ด้วยซ้ำ โดยรวมแล้วมันเป็นฟอร์มการเล่นที่ดี มันเป็นการเตรียมพร้อมอันยอดเยี่ยมก่อนเกมรอบคัดเลือกวันพุธนี้"


"มันน่าเศร้าที่เรามีอาการบาดเจ็บเล่นงานตั้งแต่ต้นเกม จนทำให้บางคนหมดโอกาสโชว์ผลงาน แต่หวังว่าพวกเขาจะหายทันเกมวันพุธนี้ ผมไม่มีปัญหาหรอกในการก้าวขึ้นมานำทีม ผมเคยทำมาก่อนแล้ว ผมพอใจที่สามารถทำประตูให้กับ อังกฤษ ได้" ดาวยิง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระบุ


ส่วนกรณี เดวิด เบ็คแฮม ทำสถิติติดทีมชาติ 109 นัด มากที่สุดในตำแหน่งผู้เล่นเอาต์ฟิลด์นั้น รูนี่ย์ ชี้ว่า "มันคือความสำเร็จอันเหลือเชื่อมาก คุณสามารถมองเห็นสิ่งที่แฟนบอล อังกฤษ คิดเกี่ยวกับตัวเขาได้เลย แต่เราต่างก็ดีใจที่ยิงประตูถล่มทลายเพื่อเอาใจแฟนบอลได้"






ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

กระทิงขวิดเติร์ก1-0,ฝอยทองฝืด0-0




"กระทิงดุ" สเปน เปิดบ้านเฉือน "ไก่งวง"ตุรกี สุดหวิว 1-0 ได้ประโทนประตูชัยจาก เคราร์ด ปิเก้ เก็บสามคะแนนนำโด่ง ขณะที่ "ฝอยทอง" โปรตุเกส สถานการณ์น่าเป็นห่วงเปิดบ้านเจ๊า "ไวกิ้ง" สวีเดน แบบโนสกอร์ 0-0 โอกาสเข้ารอบต้องลุ้นเหนื่อย ในเกมฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนยุโรป เมื่อคืนที่ผ่านมา


การแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม 5
สเปน 1 - ตุรกี 0


สนาม: เอสตาดิโอ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว, มาดริด, สเปน


"กระทิงดุ" ทีมชาติสเปน จ่าฝูงกลุ่ม 5 มี 12 คะแนนเต็มจาก 4 นัด ลงฟาดแข้งกับ ตุรกี ทีมอันดับ 2 ในถิ่นของตัวเอง โดยเกมนี้เจ้าบ้านไม่มี อันเดรส อิเนียสต้า กองกลางบาร์เซโลน่า บาดเจ็บเช่นเดียวกับ การ์เลส ปูโยล กองหลังตัวแกร่ง แต่ได้ ชาบี เอร์นานเดซ ฟิตทันลงสนาม ส่วน ดาบิด บีย่า หายเจ็บลงล่าตาข่ายกับ เฟร์นานโด ตอร์เรส


ทางด้าน "ทัพไก่งวง" ทีมชาติตุรกี ได้ เซมีห์ เซนเติร์ก ลงล่าตาข่ายร่วมกับ นิฮัต คาห์เวชี่ ดาวยิงตัวเก่งจากสโมสร บียาร์เรอัล

เปิดฉากครึ่งแรกแค่ 5 นาที ตุรกี ทักทายได้อันตราย นิฮัต คาห์เวซี่ ใช้ความสามารถเฉพาะตัวแตะหลอกกองหลังเจ้าถิ่น 2 รายก่อนจะยิงหลุดเสานิดเดียวเท่านั้น


ผ่านมาครึ่งชั่วโมง สเปน ได้ลุ้นบ้าง ดาบิด บีย่า แทงบอลทะลุช่องให้ ชาบี เอร์นานเดซ หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงผ่านมือ โวลคาน เดมิเรล นายทวารตุรกี เข้าไปแล้ว แต่ว่าจังหวะนี้ผู้ตัดสินไม่ให้ เนื่องจากเป็นลูกล้ำหน้า


เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 35 สเปน ได้โอกาสอีกครั้ง มาร์กอส เซนน่า เปิดบอลจากริมเส้นมาหน้าประตูให้ ดาบิด บีย่า โหม่งโล่งๆ หลุดกรอบออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ หมดครึ่งแรกเสมอกันไปก่อน 0-0


มาเล่นกันต่อในครึ่งหลังได้แค่ 3 นาที ซานติ กาซอร์ล่า กองกลางของสเปน ครอสให้กับ เซร์คิโอ รามอส โหม่ง แต่โดนกองหลังเติร์กสกัดออกมาได้


จากนั้น ตุรกี มีโอกาสได้ลุ้นบ้าง แต่ลูกตะบันด้วยอีซ้ายของ ตุนกาย ซานลี่ หลุดเป้าไปในนาทีที่ 50
7 นาทีต่อมา ตุรกี มีการปรับเปลี่ยนตัวผู้เล่นให้ อายฮาน อั๊คมาน กองกลางลงมาเล่นแล้วถอด เซมีห์ เซนเติร์ก กองหน้าออกมาพัก


สเปน มาได้ประตูออกนำจนได้ในนาทีที่ 60 จากจังหวะที่ ชาบี เอร์นานเดซ เปิดฟรีคิกจากทางด้านขวามาที่เสาสองบอลมาโดนหน้าขาของ เซร์คิโอ รามอส เด้งมาทางเสาแรกเข้าทางของ เคราร์ด ปิเก้ กองหลังอีกรายที่เติมขึ้นมาแปเข้าไปให้ กระทิงดุ นำ 1-0 จนได้


เจ้าถิ่นเปลี่ยนตัวบ้างให้ ฆวน มานูเอล มาต้า มิดฟิลด์ตัวริมเส้นจากบาเลนเซีย มาลงเล่นแทน ดาบิด บีย่า เพื่อนร่วมสังกัดเดียวกันที่สภาพร่างกายยังไม่ฟิตเต็มร้อย ในนาทีที่ 64


กระทิงดุ ยังครองเกมได้ดีกว่า ฆวน มานูเอล มาต้า พาบอลหลุดเข้าไปครอส แต่เพื่อนเข้าชาร์จไม่ทันในนาทีที่ 72


เวลาที่เหลือทำอะไรกันไม่ได้ จบเกม 90 นาที สเปน เฉือนชนะ ตุรกี ไปหวุดหวิด 1-0 เก็บสามคะแนนไปตามความคาดหมาย ทำให้คว้าชัย 5 นัดรวด มี 15 คะแนนเต็ม นำโด่งเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม 5 ต่อไป ส่วน ตุรกี อยู่อันดับ 3 ของตาราง

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
สเปน : อีเกร์ กาซิยาส - เซร์คิโอ รามอส, ราอูล อัลบิโอล, เคราร์ด ปิเก้, โจน กัปเดบีล่า - มาร์กอส เซนน่า, ชาบี อลอนโซ่ - ชาบี เอร์นานเดซ, ซานติ กาซอร์ล่า - เฟร์นานโด ตอร์เรส, ดาบิด บีย่า
สำรอง: ดีเอโก้ โลเปซ (ผู้รักษาประตู) - โฆเซ่ เรน่า (ผู้รักษาประตู) - การ์ลอส มาร์เชน่า, อัลบาโร่ อาร์เบลัว, ฆวน มานูเอล มาต้า, อัลเบิร์ต ริเอร่า, ดาบิด ซิลบา, เฟร์นานโด ยอเรนเต้
ตุรกี : โวลคาน เดมิเรล - โกคาน โกนุล, อิบราฮิม อูซูลเมซ, เอ็มเร่ อาซิค, ฮาคาน บัลต้า - เมห์เม็ต ออเรลิโอ, เอ็มเร่ เบโลโซกลู - ตุนกาย ซานลี่, อาร์ด้า ตูราน - เซมีห์ เซนเติร์ก, นิฮัต คาห์เวชี่
สำรอง: รุสตู เร็คเบอร์ (ผู้รักษาประตู) - อายฮาน อั๊คมาน, อิบราฮิม คาส, คาราเดนิซ, นูรี่ ซาฮิน, ซาบี ซาริโอกลู, เมฟลุด เออร์ดิ้ง, โคลิน คาซิม ริชาร์ดส์
ผู้ตัดสิน: มัสซิโม่ บูซัคก้า (สวิตเซอร์แลนด์)

***************************************************************************************************************





การแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม 1
โปรตุเกส 0 - สวีเดน 0


สนาม : ดรากัล (ปอร์โต้, โปรตุเกส)


ทีมชาติโปรตุเกส เปิดบ้านปะทะ สวีเดน คู่แข่งสำคัญในกลุ่ม 1 โดย คาร์ลอส เคยรอซ กุนซือโปรตุเกสส่ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ซิเมา นำทัพ ส่วน ลาร์ส ลาเกอร์บัค โค้ชสวีเดนส่ง เฮนริค ลาร์สสัน กองหนาตัวเก๋า, คิม คัลล์สตรอม มิดฟิลด์โอลิมปิก ลียง และ โอลอฟ เมลล์เบิร์ก เป็นแกนหลัก


ในครึ่งแรก ทั้งสองทีมสู้กันได้อย่างสูสี นาที 15 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้บอลหลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษ แต่อันเดรียส อิซัคส์สัน นายทวารเซฟได้อย่างไม่ยากเย็น


นาที 35 โยฮัน เอลมานเดอร์ กองหน้าสวีเดนพาบอลหนีกองหลังเจ้าถิ่น ก่อนซัดข้ามคาน จบครึ่งแรกทั้งสองทีมเสมอกันอยู่ 0-0


มาถึงครึ่งหลัง นาที 50 เจ้าถิ่นทักทายก่อนทันที เมื่อ มิเกล แดนนี้ ได้ยิงเต็มเท้าบอลเหินข้ามคานออกไป และห้านาทีต่อมา สวีเดนได้บอล โยฮัน เอลมานเดอร์ ยิงไปติด เอดูอาร์โด้ นายทวารโปรตุเกส


เข้าสู่นาที 57 โปรตุเกสมีลุ้นอีกครั้ง ราอูล ไมเรเลส มิดฟิลด์ซัลโวระยะไกล บอลเหินข้ามคานไม่กี่หลา
นาที 58 สวีเดนเปลี่ยนตัวสำรองส่ง คริสเตียน วิลเฮล์มส์สัน ลงเล่นแทน ซามูเอล โฮลเมน และโปรตุเกสส่ง เดโก้ เล่นแทน ติอาโก้ นาที 62 พร้อมกับที่ ฮูโก้ อัลเมด้า เล่นแทน มิเกล แดนนี่ นาที 66


โปรตุเกสมีลุ้นที่จะได้ประตูนาที 73 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โยนบอลจากเสาแรก ก่อนมาเข้าทาง เดโก้ ซัดไปถูก อิซัคส์สัน ปัดบอลออกเส้นหลังได้อย่างหวุดหวิด


เดโก้ ลงมาสร้างความปั่นป่วนให้กองหลังสวีเดนไม่น้อย นาที 75 เดโก้ สบโอกาสซัลโวจากนอกกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย บอลถากเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย จบเกม โปรตุเกส สร้างความผิดหวังให้แฟนบอล เมื่อทำได้เพียงเสมอ สวีเดน 0-0 โปรตุเกส แข่งไป 5 นัด มีเพียง6แต้ม อยู่อันดับ3ของตาราง สถานการณ์เข้ารอบต้องลุ้นเหนื่อยต่อไป

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
โปรตุเกส : เอดูอาร์โด้, เปเป้, โบซิงวา, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, บรูโน่ อัลเวส, ดูด้า, ติอาโก้, ราอูล ไมเรเลส, มิเกล แดนนี่, ซิเมา, คริสเตียโน่ โรนัลโด้
สำรอง : ดาเนี่ยล เฟอร์นานเดส, ยาร์ดิม กอนซาโล่ บรันเดา, จอร์จ ปิเรส เดอ ฟอนเซก้า โรลันโด้, เดโก้, นานี่, เจา มูตินโญ่, ฮูโก้ อัลเมด้า
สวีเดน : อันเดรียส อิซัคส์สัน, มิคาเอล นีลส์สัน, โอลอฟ เมลล์เบิร์ก, ดาเนี่ยล มาจสโตโรวิซ, อดัม โยฮันส์สัน, ราสมุส เอล์ม, คิม คัลล์สตรอม, อันเดอร์ส สเวนส์สัน, ซามูเอล โฮลเมน, โยฮัน เอลมานเดอร์, เฮนริค ลาร์สสัน
สำรอง : เอ็ดดี้ กุสตาฟส์สัน, อีริค เอ็ดมัน, เพ็ตเตอร์ ฮันส์สัน, เซบาสเตียน ลาร์สสัน, วิคเตอร์ เอล์ม, คริสเตียน วิลเฮล์มส์สัน, มาร์คุส เบิร์ก
ผู้ตัดสิน : ฟร้องค์ เดอ บลีกแกร์ (เบลเยี่ยม)

สรุปฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนยุโรป
กลุ่ม 1
มอลต้า แพ้ เดนมาร์ก 0-3
อัลเบเนีย แพ้ ฮังการี 0-1
โปรตุเกส เสมอ สวีเดน 0-0
กลุ่ม 2
ลักเซมเบิร์ก แพ้ ลัตเวีย 0-4
มอลโดว่า แพ้ สวิตเซอร์แลนด์ 0-2
อิสราเอล เสมอ กรีซ 1-1
กลุ่ม 3
ไอร์แลนด์เหนือ ชนะ โปแลนด์ 3-2
สโลวีเนีย เสมอ สาธารณรัฐเช็ก 0-0
กลุ่ม 4
รัสเซีย ชนะ อาเซอร์ไบจาน 2-0
เวลส์ แพ้ ฟินแลนด์ 0-2
เยอรมัน ชนะ ลิกเตนสไตน์ 4-0
กลุ่ม 5
อาร์เมเนีย เสมอ เอสโตเนีย 2-2
เบลเยียม แพ้ บอสเนีย 2-4
สเปน ชนะ ตุรกี 1-0
กลุ่ม 7
โรมาเนีย แพ้ เซอร์เบีย 2-3
ลิทัวเนีย แพ้ ฝรั่งเศส 0-1
กลุ่ม 8
ไซปรัส ชนะ จอร์เจีย 2-1
มอนเตเนโกร แพ้ อิตาลี 0-2
ไอร์แลนด์ เสมอ บัลแกเรีย 1-1
กลุ่ม 9
เนเธอร์แลนด์ ชนะ สกอตแลนด์ 3-0





ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

คาเปลโล่ชมลูกทีมเล่นดีแต่อยากเห็นดีกว่านี้




ฟาบิโอ คาเปลโล่ กุนซือทีมชาติอังกฤษ รับลูกทีม "สิงโตคำราม" เล่นกันได้ดีเยี่ยม ในเกมเชือด สโลวะเกีย 4-0 แต่กระตุ้นลูกทีม เกมฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก กับ ยูเครน วันพุธนี้ ต้องรีดฟอร์มให้ดีกว่านี้อีก ชมเปาะ เดวิด เจมส์ โชว์ฟอร์มเหนียวแน่น ทำให้เพื่อนร่วมทีมอุ่นใจได้เลย


ฟาบิโอ คาเปลโล่ กุนซือทีมชาติอังกฤษ ออกอาการประทับใจฟอร์มการเล่นของ เดวิด เจมส์ นายทวารจอมเก๋าอย่างยิ่ง หลังจบเกมอุ่นเครื่องชนะ สโลวะเกีย 4-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยจอมหนึบ พอร์ทสมัธ แม้จะไม่โดนทดสอบมากนัก แต่เมื่อโอกาสอันตรายมาถึง เจ้าตัวก็ไม่มีเสียสมาธิ สามารถปัดป้องประตูได้สบายๆ


"เราเล่นกันได้ดี เรามีโอกาสมากมายในการทำประตูทั้งสองครึ่ง เจมส์ เซฟจังหวะเยี่ยมๆ ได้เช่นกัน ผมดีใจมาก เราเล่นกันได้ดี มันเป็นสกอร์ที่วิเศษจริงๆ ผมหวังว่าในเกมกับ ยูเครน เราจะเล่นได้ดีกว่านี้อีก" อดีตโค้ช เอซี มิลาน, เรอัล มาดริด และ ยูเวนตุส กล่าว


สำหรับกรณี ปีเตอร์ เคร้าช์, เอมิล เฮสกี้ และ คาร์ลตัน โคล บาดเจ็บกันระนาวนั้น กุนซือชาวอิตาเลียน ตอบว่า "เคร้าช์ ก็ดูไม่แย่นัก เขาอาจลงเล่นได้ในเกมนัดหน้า เฮสกี้ เราทำการสแกนกันไปแล้ว และต้องรอฟังผลในวันพรุ่งนี้(วันอาทิตย์)"





ขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา
 

Copyright 2008 All Rights Reserved Revolution Two Church theme by Brian Gardner Converted into Blogger Template by Microebook.com