Tube Manager สุดยอดโปรแกรมการจัดการ Youtube ฟรีครับ

Tube Manager Toturial#1: Search &View Youtube Video

Tube Manager Toturial#2: Youtube Video Downloader

Tube Manager Toturial#3: Video Editor &Conversion

Sunday, May 31, 2009

บีย่ายันไม่คิดย้ายหนีบาเลนเซีย




ดาบิด บีย่า หัวหอกฟอร์มฮอตของ บาเลนเซีย ประกาศลั่น ไม่เคยคิดที่จะย้ายออกจากถิ่น เมสตาย่า สเตเดี้ยม แม้แต่นิดเดียว ยันเป็นคนรักษาคำพูด และจะอยู่กับ "ไอ้ค้างคาว" จนครบสัญญา 5 ปีแน่นอน



ดาบิด บีย่า กองหน้าทีมชาติสเปนของ บาเลนเซีย สโมสรดังแห่งศึกลา ลีกา ยืนยัน จะอยู่ค้าแข้งกับ "ไอ้ค้างคาว" ต่อไป เนื่องจากมีสัญญาอยู่ในถิ่น เมสตาย่า สเตเดี้ยม ถึง 5 ปี และไม่คิดที่จะย้ายหนีไปไหนทั้งนั้น พร้อมลั่นจะช่วยต้นสังกัดกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง

บีย่า ซึ่งทำสถิติเทียบเท่า มาริโอ เคมเปส และ เปรแดร็ก มิยาโตวิช อดีต 2 ดาวยิงของสโมสร ที่สามารถซัลโวถึง 28 ประตูในลีกซีซั่นนี้ และคว้าตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดในอันดับ 3 ของลีก เพิ่งจะช่วยให้ บาเลนเซีย ได้สิทธิ์ไปเล่นในศึกยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ในฤดูกาลหน้า ตกเป็นข่าวเตรียมจะย้ายทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยมี เรอัล มาดริด เป็นทีมเต็งที่จะได้ตัวไปครอบครอง

อย่างไรก็ตาม ดาวยิงวัย 27 ปี ได้ปฏิเสธเรื่องนี้ทันที พร้อมยืนยันว่า ตัวเองเป็นคนรักษาคำพูด และจะอยู่กับทีมต่อไปจนครบสัญญา "ผมยังมีสัญญาอยู่กับทีมอีก 5 ปี"

นอกจากนี้ อดีตหัวหอก เรอัล ซาราโกซ่า ยอมรับว่า การพลาดได้ตั๋วไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ถือเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังทั้งกับนักเตะ และแฟนบอลทุกคน "เราไม่ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่จะติด 4 อันดับแรก เนื่องจากเราต้องพบกับช่วงเวลาที่ยากลำบากพอสมควรในซีซั่นนี้ ผมเกลียดคำว่าล้มเหลว แต่เราทำไม่ได้ตามเป้าหมายของเรา ช่วงต้นซีซั่นเราตั้งเป้าที่จะอยู่ในอันดับ 4 และหลังจากเริ่มต้นได้ดี เราก็คิดว่า เราน่าจะประสบความสำเร็จได้"






........................................................................................................................................................................



ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

เมสซี่ปลื้มบาร์ซ่ากลายเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด




ลิโอเนล เมสซี่ หัวหอกทีมชาติอาร์เจนตินาของ บาร์เซโลน่า รับความสำเร็จในฤดูกาลนี้เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และทำให้พวกเขากลายเป็นสโมสรที่ดีที่สุดในโลก เชื่อการคว้า 3 แชมป์ในฤดูกาลเดียว คงยากที่ทีมในลีกกระทิงดุจะทำได้



ลิโอเนล เมสซี่ กองหน้าพรสวรรค์สูงของ บาร์เซโลน่า มหาอำนาจลูกหนังแห่งศึกลา ลีกา ยังปลื้มไม่เลิกหลังช่วยให้ "เจ้าบุญทุ่ม" ประสบความสำเร็จคว้าทริปเบิ้ลแชมป์ในฤดูกาลนี้ สร้างประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ให้กับวงการลูกหนังสเปน

บาร์ซ่า ทำผลงานได้อย่างสุดยอดในฤดูกาลนี้ และกวาดแชมป์ทั้ง ลา ลีกา, โกปา เดล เรย์ และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลายเป็นทีมแรกในลีกสเปนที่คว้า 3 แชมป์ได้ในฤดูกาลเดียว โดย หัวหอกทีมชาติอาร์เจนตินา กล่าวว่า "เราพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเราเป็นทีมที่ดีที่สุด ผมมีความสุขเพราะทุกๆ คนสนุกกับสไตล์การเล่นฟุตบอลของเราด้วย ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นแฟนบอล บาร์ซ่า หรือเปล่า"

"ผมได้ยินผู้คนทั่วโลกพูดว่า พวกเขาหลงใหลสไตล์การเล่นของเรา การเล่นฟุตบอลแบบนี้สมควรที่จะคว้าแชมป์แล้ว เรามีโอกาสที่จะเขียนประวัติศาสตร์ในฐานะสโมสรที่ดีที่สุด และเราก็ทำสำเร็จแล้ว ผมคิดว่ามันคงเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับการทำสิ่งแบบนี้อีกครั้ง" ดาวเตะวัย 21 ปี กล่าว




........................................................................................................................................................................



ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

เปเรซรับความสำเร็จบาร์ซ่าทำอยู่เฉยไม่ได้




ฟลอเรนติโน่ เปเรซ บอสใหญ่คนใหม่หน้าเก่าของ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ยอมรับความสำเร็จที่ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า คู่อริตลอดกาล คว้า 3 แชมป์ในฤดูกาลนี้ ทำให้เขาตัดสินใจเสนอตัวกลับมานั่งเก้าอี้ตัวเดิมอีกครั้ง เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังจากที่หวนกลับมาสู่ตำแหน่งแบบไร้คู่แข่งต่อกร



ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ผู้อยู่เบื้องหลังทัพนักเตะ เรอัล มาดริด ยุค กาลาคติกอส ออกมาเปิดเผยเป้าหมาย หลังจากที่ได้กลับมารับตำแหน่งประธานสโมสรเป็นวาระที่ 2 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพราะไม่มีผู้ท้าชิงเก้าอี้คนอื่นเสนอตัวขึ้นมา ภายในเวลาเที่ยงคืนของวันอาทิตย์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น

ผู้ท้าชิง 3 คนที่เดิมทีได้รับการคาดหมายว่าจะขึ้นมาท้าทาย เจ้าสัวธุรกิจก่อสร้างวัย 62 ปี ได้พากันถอนตัวไปหมด ส่งผลให้ เปเรซ จะเข้าพิธีรับตำแหน่ง ที่ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ตอน 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นในวันจันทร์ จากการเปิดเผยทางเว็บไซต์สโมสร

เปเรซ ที่เคยสร้างทีมโดยใช้นโยบาย กาลาคติกอส ดึงนักเตะอย่าง โรนัลโด้,หลุยส์ ฟิโก้, ซีเนดีน ซีดาน และ เดวิด เบ็คแฮม มาสวมชุด "ราชันชุดขาว" ได้ให้สัญญาว่าจะสร้างโครงการที่น่าตื่นเต้น แต่ยังไม่ได้เปิดเผยชื่อว่าเขาจะดึงนักเตะหรือโค้ชคนใดเข้ามา ท่ามกลางกระแสที่สื่อแดนกระทิงรายงานว่า มานูเอล เปเยกรินี่ โค้ชของ บียาร์เรัล เป็นตัวเต็งในตำแหน่งกุนซือ ขณะที่ บอสใหญ่คนใหม่ ตกเป็นข่าวกับนักเตะอย่าง กาก้า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ฟร้องค์ ริเบรี่

เปเรซ ให้สัมภาษณ์ผ่านหนังสือพิมพ์ เอล เปส ฉบับวันอาทิตย์ พร้อมเสริมว่า ความสำเร็จที่ บาร์เซโลน่า เป็นทริปเปิ้ลแชมป์ในฤดูกาลนี้ กระตุ้นให้เขาเสนอตัวกลับมา "คำถามไม่ใช่แค่สร้างทีมรุ่นใหม่ แต่เราต้องซ่อมแซม และ ฟื้นฟูด้วย เรอัล มาดริด ต้องการการปฏิวัติอย่างแท้จริงที่นำความตื่นเต้นกลับมา"

"แต่เราต้องเอาใจแฟนๆ อีกครั้งด้วยทีมน่าตื่นตาตื่นใจที่มีนักเตะชั้นยอดเป็นรากฐาน ไม่ว่าจะเป็นชาวสเปน ชาวต่างชาติ และ มาจากทีมเยาวชน และเรายังต้องฟื้นความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจด้วย ประวัติศาสตร์ของ เรอัล มาดริด บังคับให้เราต้องมีสุดยอดนักเตะจากทั่วโลก และ จากสเปนเสมอ ผมไม่ได้กำหนดข้อจำกัดอะไรให้ตัวเองทั้งนั้น"

ภายใต้การนำของ เปเรซ เรอัล คว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 2002 และ แชมป์ลีก ปี 2001 และ 2003 แต่เขาก็มาลาออกไปในช่วงที่สโมสรกำลังจะไม่มีแชมป์ติดมือเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2006 ขณะที่ ราม่อน กัลเดร่อน ที่มารับตำแหน่งต่อ โดนบีบให้ลาออกไป เมื่อเดือนมกราคม หลังจากที่ถูกกล่าวหาว่าซื้อเสียงในการประชุมสามัญของสโมสร เมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน




........................................................................................................................................................................



ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

เนดเวดยันแขวนสตั๊ดเหตุอยากอยู่กับครอบครัว




พาเวล เนดเวด ยอดมิดฟิลด์ชาวเช็ก ออกมากล่าวขอบคุณเพื่อนร่วมทีม "ม้าลาย" ยูเวนตุส หลังตัดสินใจแขวนสตั๊ดแน่นอนแล้ว ยอมรับเหตุผลที่อำลาเกมลูกหนัง เนื่องจากต้องการใช้เวลาอยู่ใกล้ชิดกับครอบครัวให้มากขึ้นกว่าเดิม ยืนยันจะคิดถึงทุกๆ ในถิ่นโอลิมปิก ตูริน ตลอดไป



พาเวล เนดเวด กองกลางมากประสบการณ์สายเลือดเช็ก ประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากช่วย "ม้าลาย" ยูเวนตุส เปิดรังโอลิมปิก ตูริน ไล่ต้อน "อินทรีฟ้า-ขาว" ลาซิโอ 2-0 ในเกมเซเรีย อา นัดสุดท้าย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

หลังจากที่ อดีตดาวเตะทีมชาติเช็ก ตัดสินใจแยกทางกับ ยูเว่ มีข่าวลือออกมาทันทีว่าเขาอาจจะย้ายไปเล่นให้กับ ลาซิโอ สโมสรเก่า หรือไม่ก็ไปค้าแข้งในลีกอื่น แต่สุดท้าย เนดเวด วัย 36 ปี ตัดสินใจที่จะเลิกเล่น เนื่องจากอยากใช้เวลาอยู่กับครอบครัวให้มากขึ้นกว่าเดิม

"ผมคิดที่จะทำเรื่องนี้ ตอนนี้ผมไม่ต้องวิ่งอีกต่อไปแล้ว นี่เป็นเกมสุดท้ายของผม และผมอยากที่จะอยู่ใกล้ชิดกับครอบครัวให้มากขึ้น นี่เป็นวันที่ยากลำบากสำหรับผม แต่มันก็เป็นวันที่สวยงามด้วย เพราะผมได้รับความรักจากเพื่อนร่วมทีม และแฟนบอลทุกคน ผมคงคิดถึงพวกเขาแน่นอน ผมตัดสินใจเลิกเล่นด้วยการตัดสินใจอย่างรอบคอบ เพราะผมรู้ว่าเราทำหลายสิ่งที่สุดยอดมากมายร่วมกัน"

ก่อนหน้านี้ "คอร์ริเอเร่ เดลโล่ สปอร์ต" และ "ตุ๊ตโต้สปอร์ต" หนังสือพิมพ์ชื่อดังเมืองมะกะโรนี ตีข่าวสาเหตุที่ เนดเวด ประกาศแยกทางจาก ยูเวนตุส เพราะไม่พอใจข้อเสนอของทีมที่ให้สัญญาแบบจ่ายเงินเฉพาะเกมที่เขาได้ลงเล่นเท่านั้น ซึ่งเหมือนเป็นการดูถูกคุณภาพฝีเท้าของเขา




ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

กาก้าสรรเสริญคาร์เล็ตโต้ช่วยสอนจนเก่ง




ริคาร์โด้ กาก้า กองหน้ารูปหล่อของ เอซี มิลาน ยกย่อง คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือจอมแท็กติก เป็นครูของเขาอย่างแท้จริงๆ หลังช่วยสอนสั่งมาตลอดนับตั้งแต่ย้ายมาเล่นให้ "ปีศาจแดง-ดำ" และก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะระดับโลกจนทุกวันนี้



กาก้า เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติบราซิลของ เอซี มิลาน มหาอำนาจลูกหนังแห่งศึกกัลโช่ เซเรีย อา กล่าวยกย่อง คาร์โล อันเชล็อตติ เทรนเนอร์ชาวอิตาเลียน ที่คอยสอนหลายสิ่งหลายอย่างให้กับเขามาตลอดนับตั้งแต่ที่ย้ายมาเล่นในถิ่น ซาน ซิโร่ และรู้สึกใจหายที่ "คาร์เล็ตโต้" อำลาทีมหลังจบซีซั่นนี้

กองหน้ารูปหล่อวัย 27 ปี กล่าวหลังจบเกมบุกชนะ ฟิออเรนติน่า 2-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา "มันเป็นวันที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก และเป็นเกมสุดท้ายของ เปาโล มัลดินี่ และ อันเชล็อตติ ในฐานะโค้ช มิลาน เรามีความสุขกับผลการแข่งขันนัดสุดท้ายของลีก หลังจากที่ประสบความสำเร็บตามเป้าหมายด้วยการคว้าสิทธิ์ไปเล่นในแชมเปี้ยนส์ ลีก โดยอัตโนมัติ"

"คาร์โล อันเชล็อตติ เป็นคนที่ผมมีสายสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมตลอด 6 ปีที่ผมอยู่ทำงานร่วมกับเขาที่ มิลาน ผมสำนึกบุญคุณของเขาเสมอ สำหรับสิ่งที่เขาสอนผมตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขาทำให้ผมมีโอกาสได้เป็นนักเตะระดับโลก และผมก็คว้าแชมป์มากมายภายใต้การชี้แนะของเขา ผมขออวยพรให้เขาพบแต่สิ่งดีๆ กับทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำ"

นอกจากนี้ กาก้า ยังได้กล่าวถึงเรื่องที่ มิลาน แต่งตั้ง เลโอนาร์โด้ ขึ้นมาเป็นเทรนเนอร์คนใหม่ว่า "วันพรุ่งนี้ คงจะมีการแนะนำโค้ชคนใหม่ตามธรรมเนียมที่เคยปฏิบัติกันมา การเข้ามาคุมทีมของเขาคงจะนำความสำเร็จมาสู่ มิลาน ในอนาคตแน่นอน"




ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

Saturday, May 30, 2009

บียาโนบารับบาร์ซ่าทำเต็มที่บุกเจ๊าเดปอร์




ติโต บียาโนบา รองนายใหญ่ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า รับนักเตะทำได้ดีที่สุดแล้วในการส่งท้ายฤดูกาลที่ยาวนาน ด้วยการบุกไปแบ่งแต้ม เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า 1-1 เมื่อวันเสาร์ ด้าน มิเกล อังเกล โลติน่า กุนซือเจ้าถิ่น เผยสุดยินดีกับฟอร์มการเล่นของทีมที่ทำได้ดีต่อเนื่องจนประสบความสำเร็จ



ติโต บียาโนบา ผู้ช่วยเทรนเนอร์บาร์เซโลน่า ทีมทริปเปิ้ลแชมป์แดนกระทิงดุ พอใจกับผลการแข่งขันในนัดส่งท้ายลา ลีกา ที่สามารถบุกไปเสมอ เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า ที่สนามริอาซอว์ สเตเดี้ยม 1-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยเห็นว่าเป็นเกมที่ลำบาก แต่ทีมก็สามารถผ่านพ้นมาได้

ในนัดนี้ บียาโนบา ต้องลงคุมทีมข้างสนามแทน โจเซฟ กวาร์ดิโอล่า กุนซือคนเก่งของทีมที่โดนไล่ออกจากข้างสนามในเกมกับ โอซาซูน่า เมื่อสัปดาห์ก่อน โดยแสดงความเห็นหลังเกมว่า " นัดนี้มันไม่ใช่เกมที่ง่ายเลย หลังจากเกมรอบชิงถ้วยยุโรปเมื่อวันพุธ และเกมหนักๆที่เราเจอมาตลอด 2 เดือนหลัง มันก็ยากทุกเกม แต่เราก็ทำได้ดีที่สุดแล้ว "

นอกจากนั้น รองกุนซือ "เจ้าบุญทุ่ม" ยังคงยกย่องการเล่นของทีมเจ้าบ้าน ที่เล่นได้อย่างกระตือรือร้นและแข็งขัน และยังแสดงความยินดีกับฤดูกาลที่ประสบความสำเร็จของทีมคู่แข่งด้วย ก่อนที่จะยอมรับว่านักเตะของบาร์ซ่า จิตใจอาจไปอยู่กับการพักผ่อนในช่วงปิดฤดูกาลกันหมดแล้ว

ด้าน มิเกล อังเกล โลติน่า กุนซือ "ซูเปอร์เดปอร์" ยกย่องผลงานของนักเตะตลอดทั้งฤดูกาลที่ผ่านมา ที่นับเป็นฤดูกาลที่ประสบความสำเร็จ " นี่มันแสดงให้เห็นว่าเราเล่นมาทั้งฤดูกาลยังไง เราเล่นดีมาก โดยมีความชาญฉลาด เราไม่เสียโอกาสมากนัก แม้ว่าสุดท้ายพวกเขาจะตีเสมอได้ ก็เป็นเพราะพวกเขาฉวยโอกาสจากที่ว่างได้ดี แต่ยังไงผมก็พอใจมากกับนัดนี้ และทั้งฤดูกาลที่ผ่านมาด้วย "




........................................................................................................................................................................



ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

แอชลี่ย์ยันอยากขายสาลิกาเต็มแก่




ไมค์ แอชลี่ย์ บิ๊กบอส "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ยืนกรานเจตนาเดินอยากขายสโมสรทิ้งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ รับสุดช้ำที่ต้องเสียทั้งเงิน และกระเด็นตกชั้นอย่างเจ็บปวด เพราะความไม่ประสีประสาในการบริหารทีมฟุตบอลของตนเอง



ไมค์ แอชลี่ย์ ประธานสโมสร นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ทีมดังแห่งเกาะอังกฤษ ยอมรับว่ากำลังพยายามขายกิจการให้นักลงทุนรายใหม่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แม้ว่าต้องขาดทุนมหาศาลก็ตาม หลังจากทะ "สาลิกาดง" พลาดท่าหล่นชั้นลงไปเล่นในศึก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาลหน้า

ก่อนหน้านี้ เจ้าของทีมร่างท้วม เคยออกมาขอโทษบรรดา "ทูน อาร์มี่" กับความผิดพลาดในการบริหารของเขาทำให้ทีมต้องเผชิญชะตากรรมลำบาก ก่อนร่วงหล่นชั้นไปแบบสุดช้ำ และล่าสุด เจ้าสัววัย 46 ปี ออกมาเผยผ่าน "ซันเดย์ ไทม์ส" นิตยสารดังในอังกฤษว่า " มันเป็นหายนะสำหรับทุกคน ผมเสียเงินไปมากมาย และผมก็ตัดสินใจผิดพลาด ตอนนี้ผมอยากขายสโมสรให้เร็วที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ จะมีการตั้งที่ปรึกษาเข้ามาดูแลเรื่องนี้ในไม่ช้า "

พร้อมกันนี้ นักธุรกิจ เจ้าของกิจการร้านขายเครื่องกีฬาชั้นนำ ยอมรับอีกว่า เขาตัดสินใจผิดที่ซื้อหุ้นของ "เดอะ แม็กพายส์" มาครองไว้เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ เมื่อปี 2007 " แน่นอนว่าผมเสียใจ ผมไม่เคยบอกว่าผมเก่งกาจในเรื่องบริหารสโมสรฟุตบอล ผมเป็นแค่แฟนบอล แม้ว่าจะเป็นแฟนบอลที่ร่ำรวยก็ตาม แต่ผมก็ไม่ได้มั่งคั่งอะไรแล้วในตอนนี้ ผมทุ่มเงินไปกับสโมสร และพยายามทำให้ดีที่สุด แต่ผมก็ยอมรับว่าดีที่สุดของผมมันยังไม่พอ ผมขอโทษทุกคนจริงๆกับสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น "

ทั้งนี้ แอชลี่ย์ เคยพยายามหาเจ้าของทีมรายใหม่เมื่อปลายปีก่อน หลังโดนกลุ่มแฟนบอล นิวคาสเซิ่ล โจมตีอย่างหนัก ที่เป็นต้นเหตุให้ เควิน คีแกน ผู้จัดการทีมคนเก่ง ตัดสินใจอำลาถิ่น เซนต์ เจมส์ พาร์ค โดยมอบหมายให้ คีธ แฮร์ริส ประธานธนาคารเพื่อการลงทุน เซย์มัวร์ เพียร์ซ เป็นผู้มองหาผู้สนใจจากทั่วทุกมุมโลก

แม้ว่า ตลอดช่วงที่ผ่านมา ยังไม่มีกลุ่มนักลงทุนรายใดที่เข้ามาเจรจาพร้อมข้อเสนอที่ยอมรับได้ แต่ แอชลี่ย์ ก็ยังคงเลือกแผนการผ่องถ่ายสโมสรออกไป จนล่าสุด มีรายงานว่า แฮร์ริส อาจกำลังเปิดโต๊ะเจรจากับผู้สนใจกลุ่มใหม่ หลังจากเดินทางขึ้นไปแถบอีสานเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา




........................................................................................................................................................................



ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

บล็องก์ยิ้มร่าพาบอร์กโดซ์ซิวแชมป์ลีกสุดยิ่งใหญ่




โลรองต์ บล็องก์ กุนซือมือทองของ บอร์กโดซ์ ยกย่องทีมงาน และนักเตะทุกคนในทีม ที่ร่วมแรงร่วมใจกันจนสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ลีกเมืองน้ำหอมมาครองแบบพลิกความคาดหมาย หลังเฉือนชนะ ก็อง ในนัดสุดท้าย 1-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ชี้ทีมได้ความมั่นใจมาจากฟอร์มที่ยอดเยี่ยมในช่วงท้ายฤดูกาลที่ทำสถิติชนะ 11 นัดติดต่อกัน



โลรองต์ บล็องก์ เทรนเนอร์คนเก่งของ บอร์กโดซ์ ออกมาแสดงความยินดีกับผู้ร่วมงานทุกคนในสโมสร หลังจากคว้าแชมป์ลีก เอิง ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1999 ด้วยการบุกไปเฉือนชนะ ก็อง 1-0 ในนัดสุดท้ายของฤดูกาล เมื่อวันเสาร์ที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา

อดีตกองหลังทีมชาติฝรั่งเศส เพิ่งคุมทีมได้เป็นฤดูกาลที่ 2 เท่านั้น แต่สามารถพาบอร์กโดซ์ หยุดการครองอำนาจของโอลิมปิก ลียง ที่คว้าแชมป์ลีกแดนน้ำหอม 7 สมัยติดต่อกัน โดยเขายกย่องทีมงานทุกคนว่า " เมื่อคุณมีโชคดีพอที่จะคว้าแชมป์ คุณก็ต้องแบ่งปันมันกับทุกๆคน ผมจะมีเวลาในการคว้ามันมาด้วยตัวเอง แต่ในตอนนี้ผมต้องการแบ่งปันมันกับทีมสตาฟฟ์ทุกคน พวกเขาทำงานได้ยอดเยี่ยมใน 2 ปีที่ผ่านมา "

ในช่วงท้ายฤดูกาล บอร์กโดซ์โชว์ฟอร์มสุดยอดด้วยการเอาชนะรวด 11 นัด เป็นสถิติใหม่ของลีก โดยบล็องก์ กล่าวว่า " ในช่วงหนึ่งทุกคนคิดว่า ลียง จะป้องกันแชมป์ได้ จากนั้นก็เป็นช่วงของ มาร์กเซย ความกดดันมันตกอยู่กับเราในช่วงท้าย ในขณะที่ทีมอื่นเจอกับมันมาตลอด ผมคิดว่ามันทำให้เราได้เปรียบ ในบางนัดเราสามารถเปลี่ยนแปลงเกมได้ในนาทีสุดท้าย ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักเตะในทีมของเรามีความแข็งแกร่งทางจิตใจมาก "

กุนซือวัย 43 ปี เปิดเผยว่าความคิดที่ว่าทีมของเขาอาจได้แชมป์ลีกนั้น เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อบอร์กโดซ์สามารถเอาชนะ ลียง ได้ในวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมานี้เอง " มันเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของเราในฤดูกาลนี้ ถ้าเรามีความสามารถที่จะชนะลียง เราก็สามารถทำได้ทุกอย่าง ทุกคนรู้ว่าจากนั้นมา บอร์กโดซ์ จะเป็นทีมที่มีบทบาทสำคัญ เรารู้ทันทีว่าเราสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ "

สำหรับเรื่องการกระตุ้นนักเตะในทีมให้ก้าวขึ้นมาคว้าแชมป์ได้นั้น อดีตปราการหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กล่าวว่า " ผมบอกกับนักเตะของผมว่า ในช่วงท้ายฤดูกาลที่แล้ว เราเล่นได้ดีมากๆ แต่มันก็จะไม่มีใครจำได้หรอก ผมบอกว่าถ้าเราเล่นได้ดีและคว้าแชมป์ได้ในครั้งนี้ ประวัติศาสตร์หน้าใหม่จะเปิดฉากขึ้น "




ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

ชาฟซูฮกแข้งนางนวลสู้สุดใจคว้าเดเอฟเบฯ




โธมัส ชาฟ กุนซือมาดเข้มของ "นกนางนวล" แวร์เดอร์ เบรเมน เชิดชูลูกทีมที่ต่อสู้อย่างหนักมาทั้งฤดูกาล จนได้รางวัลตอบแทนเป็นแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล หลังจากเชือด เลเวอร์คูเซ่น 1-0 เมื่อวันเสาร์ ด้าน บรูโน่ ลาบบาเดีย กุนซือ "ห้างขายยา" โอดครวญความน่าเสียดายที่ทีมชวดแชมป์ แม้จะเล่นได้ดีตลอดเกม ทำให้สถานการณ์ของเขากับทีมย่ำแย่ลง



โธมัส ชาฟ เทรนเนอร์ แวร์เดอร์ เบรเมน ทีมดังบุนเดสลีกา เปิดเผยความรู้สึกหลังจากพาทีมคว้าแชมป์เดเอฟเบ โพคาล เป็นสมัยที่ 6 ของสโมสร ด้วยการเฉือนชนะ ไบเออร์ เลเวอร์คูแซ่น 1-0 ที่สนามโอลิมปิก สเตเดี้ยม กรุงเบอร์ลิน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยเห็นว่าเป็นการแสดงถึงความแข็งแกร่ง และความตั้งใจที่ทีมมีมาตลอดฤดูกาล

ในนัดนี้ เบรเมนได้ประตูชัยจาก เมซุต โอซิล กองกลางดาวรุ่ง และนัดนี้ ยังมีความพิเศษตรงที่เป็นนัดสุดท้ายในทีมของ ดีเอโก้ จอมทัพเลือดแซมบ้า ที่จะย้ายไปค้าแข้งกับ ยูเวนตุส ในฤดูกาลหน้าด้วย ซึ่งเพลย์เมกเกอร์รายนี้ก็โชว์ฟอร์มส่งท้ายได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเป็นคนจ่ายบอลให้ โอซิล เข้าไปทำประตูด้วย

แม้ในฤดูกาลนี้ ทีม "นกนางนวล" จะโชว์ฟอร์มไม่ดีในลีก และพลาดพ่ายชัคเตอร์ โดเน็ตส์ค ในนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า คัพ แต่ชาฟ ยืนยันว่าเป็นฤดูกาลที่ประสบความสำเร็จของทีม จากการเข้ารอบลึกในหลายถ้วย " เราแสดงถึงความตั้งใจและความทุ่มเทแล้ว การลงเล่นในเกมทางการถึง 55 นัดในฤดูกาลเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มาก "

ด้าน ทอร์สเท่น ฟริงก์ส กองกลางตัวเก๋าของเบรเมน ก็แสดงความยินดีกับแชมป์สุดท้ายในฤดูกาลนี้ ที่ทีมคว้ามาครองได้ แม้จะเพิ่งพ่ายจากนัดชิงยูฟ่า คัพ อย่างเจ็บปวดก็ตาม " เราอยู่ในความกดดันมากหลังจากพ่ายแพ้ในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า คัพ แต่เราก็ลงเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม เราชนะ และจะได้ไปฟุตบอลยุโรปในฤดูกาลหน้า "

ส่วน บรูโน่ ลาบบาเดีย กุนซือ "ห้างขายยา" ก็แสดงความผิดหวังที่ต้องพ่ายแพ้ในนัดสำคัญ แม้ว่าทีมจะสามารถเล่นได้ดีก็ตาม " เราผิดหวังกันอย่างมาก เราเล่นกันได้ดีในเกม แต่เราแค่ไม่สามารถยิงประตูได้เท่านั้น ถ้วยแชมป์นี้มันจะมีความหมายและประโยชน์กับเราอย่างมาก แต่เราก็เสียมันไป "




ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

จ่ามูปากหวานบอกหลงรักอินเตอร์เข้าแล้ว




โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือจอมเครียด อินเตอร์ มิลาน โชว์โวหารมัดใจสาวก "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน ด้วยการบอกตกหลุมรักสโมสรแห่งนี้เข้าเต็มเปา และคงไม่นึกอาลัยที่ต้องลาจาก "สิงห์บลูส์" เชลซี ต่อไปอีกแล้ว แจงเหตุที่ตัดสินใจขยายสัญญาใหม่ เพราะอยากจบข่าวโยกคุมทัพ เรอัล มาดริด ซีซั่นหน้า



โชเซ่ มูรินโญ่ ยอดโค้ชชาวโปรตุเกสของ อินเตอร์ มิลาน แชมป์กัลโช่ เซเรีย อา 4 สมัยซ้อน โปรยคำหวานแบบไม่มีเขินว่า เขาตกหลุมรักสโมสรแห่งนี้ไปเรียบร้อยแล้ว เหมือนกับที่เคยเป็นสมัยคุมทัพ เชลซี ยอดทีมเกาะอังกฤษ ภายหลังจากจรดปากกาขยายสัญญาต่อไปในถิ่น จูเซปเป้ เมอัซซ่า ต่อไปจนถึงปี 2012 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

กุนซือจอมเครียด กล่าวผ่านผู้สื่อข่าว เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า " หลังจากตกหลุมรักในสโมสร เหมือนกับที่ผมทำกับ เชลซี ผมก็ไม่คิดว่าความสัมพันธ์แบบนั้นมันจะถูกสร้างขึ้นมาได้อีก แต่ผมก็ตกหลุมรักอินเตอร์ เข้าให้แล้ว ในเวลานี้ ผมสามารถมองย้อนกลับไป โดยปราศจากความอาลัยอาวรณ์ ถึงจะไม่มีการเซ็นสัญญาใหม่ ความจริงเรื่องนี้ก็คงไม่เปลี่ยนแปลง ผมชื่นชอบทัศนคติของสโมสรแห่งนี้มาโดยตลอด "

" ผมอาจทำให้ตัวเองต่อสัญญาออกไปอย่างง่ายดาย แต่ถ้าผมไม่ได้ทำแบบนั้น นั่นก็หมายความว่าผมไม่อยากต่อสัญญาออกไป เรื่องของ เรอัล มาดริด จบลงแล้ว " อดีตนายใหญ่ เอฟซี ปอร์โต้ กล่าวยืนยันถึงการตัดสินใจโชว์ฝีมือการคุมทัพในเกมลูกหนังอิตาเลี่ยนต่อไป

มีหลายฝ่ายหวั่นเกรงกันว่า โค้ชเจ้าของฉายา "เดอะ สเปเชี่ยล วัน" อาจตัดสินใจเดินออกจากเมืองมิลาน หลังพา "เนรัซซูรี่" คว้าสคูเด็ดโต้ มาครองได้แบบง่ายดาย มูรินโญ่ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า " ผมเข้าใจดีว่าแฟนๆรัก อินเตอร์ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเหน็บแนมเอาบ้างเมื่อทีมชั้นนำของลีกต้องลงท้ายด้วยผลเสมอ พวกเรานำเป็นจ่าฝูงตลอดเวลา และไม่เคยหวั่นเกรงว่าจะเสียแชมป์ไป แม้ว่าไม่มีอะไรแน่นอนในเกมฟุตบอลก็ตามที "

" ผมอยากให้คะแนนตัวเอง 7.5 - 8 จากคะแนนเต็ม 10 สำหรับผลงานในฤดูกาลนี้ สิ่งที่ดีที่สุดคือการคว้าสคูเด็ดโต้ สิ่งเลวร้ายที่สุดคือการแพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และตกรอบ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แม้ว่ามันไม่ใช่เรื่องน่าโศกเศร้าก็ตาม หลังจากนั้นพวกเราก็กลับมาอิตาลี และเดินหน้าเก็บชัยชนะอย่างต่อเนื่อง " กุนซือโปรตุกีส กล่าวก่อนนำ อินเตอร์ ดวลแข้ง อตาลันต้า เกมสุดท้ายของฤดูกาล วันอาทิตย์นี้

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มูรินโญ่ ทำให้เกิดความแปลกใจ เมื่อเขาบอกว่าจะอยู่กับ อินเตอร์ ต่อไป "99.9 เปอร์เซ็นต์" แต่ภายหลังจากตกลงต่อสัญญาต่อไปแล้ว เขาก็ยืนยันเต็มปากว่าจะอยู่ต่อไปเต็ม "100 เปอร์เซ็นต์" อย่างไรก็ดี คำถามที่ยังเป็นปัญหาในตอนนี้ กลับกลายเป็นเรื่องของผู้เล่น อย่างเช่นในกรณีของ ดั๊กลาส ไมค่อน ฟูลแบ็กจอมบุกชาวแซมบ้า และ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กองหน้าหมายเลข 1 ของทีม

" สำหรับ ไมค่อน มันชัดเจนมากๆ เขาบอกว่าจะอยู่กับทีมต่อไป 200 เปอร์เซ็นต์ แต่เราไม่อาจพูดได้เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ในกรณีของ อิบรา แต่เขาจะอยู่ต่อ และนี่ก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล เขาแค่จำเป็นต้องหยุดพักในช่วงซัมเมอร์ หลังจากนั้น เขาจะกลับมาที่นี่ในวันแรกของการฝึกซ้อมก่อนเปิดฤดูกาลด้วยความสุข " อดีตบิ๊กบอส "สิงห์บลูส์" กล่าวสรุป




ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

บียาโนบารับบาร์ซ่าทำเต็มที่บุกเจ๊าเดปอร์




ติโต บียาโนบา รองนายใหญ่ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า รับนักเตะทำได้ดีที่สุดแล้วในการส่งท้ายฤดูกาลที่ยาวนาน ด้วยการบุกไปแบ่งแต้ม เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า 1-1 เมื่อวันเสาร์ ด้าน มิเกล อังเกล โลติน่า กุนซือเจ้าถิ่น เผยสุดยินดีกับฟอร์มการเล่นของทีมที่ทำได้ดีต่อเนื่องจนประสบความสำเร็จ



ติโต บียาโนบา ผู้ช่วยเทรนเนอร์บาร์เซโลน่า ทีมทริปเปิ้ลแชมป์แดนกระทิงดุ พอใจกับผลการแข่งขันในนัดส่งท้ายลา ลีกา ที่สามารถบุกไปเสมอ เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า ที่สนามริอาซอว์ สเตเดี้ยม 1-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยเห็นว่าเป็นเกมที่ลำบาก แต่ทีมก็สามารถผ่านพ้นมาได้

ในนัดนี้ บียาโนบา ต้องลงคุมทีมข้างสนามแทน โจเซฟ กวาร์ดิโอล่า กุนซือคนเก่งของทีมที่โดนไล่ออกจากข้างสนามในเกมกับ โอซาซูน่า เมื่อสัปดาห์ก่อน โดยแสดงความเห็นหลังเกมว่า " นัดนี้มันไม่ใช่เกมที่ง่ายเลย หลังจากเกมรอบชิงถ้วยยุโรปเมื่อวันพุธ และเกมหนักๆที่เราเจอมาตลอด 2 เดือนหลัง มันก็ยากทุกเกม แต่เราก็ทำได้ดีที่สุดแล้ว "

นอกจากนั้น รองกุนซือ "เจ้าบุญทุ่ม" ยังคงยกย่องการเล่นของทีมเจ้าบ้าน ที่เล่นได้อย่างกระตือรือร้นและแข็งขัน และยังแสดงความยินดีกับฤดูกาลที่ประสบความสำเร็จของทีมคู่แข่งด้วย ก่อนที่จะยอมรับว่านักเตะของบาร์ซ่า จิตใจอาจไปอยู่กับการพักผ่อนในช่วงปิดฤดูกาลกันหมดแล้ว

ด้าน มิเกล อังเกล โลติน่า กุนซือ "ซูเปอร์เดปอร์" ยกย่องผลงานของนักเตะตลอดทั้งฤดูกาลที่ผ่านมา ที่นับเป็นฤดูกาลที่ประสบความสำเร็จ " นี่มันแสดงให้เห็นว่าเราเล่นมาทั้งฤดูกาลยังไง เราเล่นดีมาก โดยมีความชาญฉลาด เราไม่เสียโอกาสมากนัก แม้ว่าสุดท้ายพวกเขาจะตีเสมอได้ ก็เป็นเพราะพวกเขาฉวยโอกาสจากที่ว่างได้ดี แต่ยังไงผมก็พอใจมากกับนัดนี้ และทั้งฤดูกาลที่ผ่านมาด้วย "




........................................................................................................................................................................



ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

รุมเมนิกเก้ลั่นได้เงินแค่ไหนก็ไม่ขายริบาก




คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ บิ๊กบอส บาเยิร์น มิวนิค ประกาศลั่นใครเอาเงินก้อนโตมาวางไว้ตรงหน้าก็ไม่มีทางขาย ฟร้องค์ ริเบรี่ ดาวเตะเฟร้นช์แมน แน่นอน ขณะที่ อูลี่ เฮอเนส ผู้จัดการทั่วไป "เสือใต้" ยันขอรั้งตัวให้อยู่ค้าแข้งในรัง อัลลิอันซ์ อารีน่า ต่อไป



คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ ประธานสโมสร บาเยิร์น มิวนิค มหาอำนาจลูกหนังแห่งศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน ยืนยันชัดเจนว่า จะไม่ขาย ฟร้องค์ ริเบรี่ มิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศส ออกจากถิ่น อัลลิอันซ์ อารีน่า อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะได้ราคาสูงขนาดไหนก็ตาม หลังบรรดายักษ์ใหญ่จากอังกฤษ และสเปน ต้องการดึงตัวไปเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์นี้


สื่อมวลชนในแดนผู้ดี เปิดเผยว่า เชลซี พร้อมทุ่มเงิน 50 ล้านยูโร (ประมาณ 2,400 ล้านบาท) เพื่อแลกกับอดีตดาวเตะ โอลิมปิก มาร์กเซย ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กล้าควักให้ถึง 70 ล้านยูโร (ประมาณ 3,360 ล้านบาท) เลยทีเดียว ส่วน เรอัล มาดริด และบาร์เซโลน่า 2 ทีมดังแดนกระทิงดุ ก็ให้ความสนใจอย่างจริงจังเช่นกัน


รุมเมนิกเก้ เผยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า "ไม่ว่าเงินจำนวนมากมายแค่ไหนมากองอยู่บนโต๊ะ เราก็ไม่สนใจ สุดท้ายมันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ บาเยิร์น ผมบอกได้เลยว่า เราไม่ได้มีความต้องการที่จะขาย ฟร้องค์ ริเบรี่ แต่อย่างใด"


ด้าน อูลี่ เฮอเนส ผู้จัดการทั่วไป "เสือใต้" เสริมว่า "ตอนที่ผมได้ยินว่า มีข้อเสนอจำนวน 125 ล้านยูโร (ประมาณ 6,000 ล้านบาท) เพื่อซื้อ กาก้า นั้น ผมก็คิดว่า ฟร้องค์ ต้องมีค่าตัวไม่ต่ำกว่า 100 ล้านยูโร (ประมาณ 4,800 ล้านบาท) แต่ผมไม่ต้องการตั้งค่าตัวของเขา เพราะเราอยากให้เขาอยู่กับทีมต่อไป"




ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

บาสโต๊สแย้มลาลีลล์เพื่อติดธงบราซิลลุยบอลโลก




มิเชล บาสโต๊ส มิดฟิลด์ตัวเก่งของ ลีลล์ รับอาจต้องย้ายทีมเพื่อเพิ่มโอกาสติดทีมชาติบราซิลไปลุยศึกฟุตบอลโลก 2010 แย้มอาจย้ายไปค้าแข้งในลีกที่ใหญ่กว่า เหตุลีกแดนน้ำหอมไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร ในบ้านเกิด แต่ไม่วายรีบยันยังไม่คิดเรื่องการย้ายสังกัดในตอนนี้



มิเชล บาสโต๊ส ปีกตัวเก่ง ลีลล์ ทีมในศึก ลีก เอิง ฝรั่งเศส ออกมายอมรับว่าตนอาจต้องย้ายสังกัด เพื่อเพิ่มโอกาสล่าฝันในการติดทีมชาติบราซิลไปลุยศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ พร้อมแย้มว่าน่าจะเป็นการย้ายไปค้าแข้งในลีกลูกหนังที่ใหญ่กว่าลีกแดนน้ำหอมอีกด้วย แม้จะทำผลงานกับต้นสังกัดได้ดีในฤดูกาลนี้ ด้วยการซัดไป 14 ประตู และส่งให้เพื่อนทำประตูได้อีก 9 ลูกก็ตาม


อย่างไรก็ตาม ดาวเตะแซมบ้า ชี้ว่าการย้ายทีมยังไม่ใช่ประเด็นที่สำคัญที่สุดสำหรับตนในเวลานี้ โดยกล่าวว่า "ผมรู้ว่าการก้าวขึ้นไปติดทีมชาติบราซิลมันคงจะเป็นเรื่องที่ยากมากๆ หากผมยังค้าแข้งอยู่กับ ลีลล์ เพราะลีกฝรั่งเศสไม่เป็นที่จับตามองในบราซิล แต่ตอนนี้ผมยังไม่คิดเรื่องนั้น มันยังไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด"


นอกจากนี้ บาสโต๊ส ซึ่งเคยตกเป็นข่าวว่าอาจย้ายไปอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค ยักษ์ใหญ่แห่งศึก บุนเดสลีกา เยอรมัน ก่อนที่เรื่องจะเงียบหายไปในที่สุดนั้น กล่าวเพิ่มเติมว่า "ผมยังไม่ได้รับข้อเสนอใดๆ และผมคิดว่าผมคงกลับมาเล่นให้ ลีลล์ ในฤดูกาลหน้า ก่อนหน้านี้เคยมีการติดต่อเข้ามาบ้าง แต่ตอนนี้เรื่องมันก็เงียบหายไปแล้ว"




ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

วอร์ดแขวนถุงมือหลังโดนแมวดำลอยแพ




ดาร์เรน วอร์ด นายทวารชาวเวลส์ ตัดสินใจแขวนถุงมือเรียบร้อย หลังโดน ซันเดอร์แลนด์ ลอยแพ ยันยังมีความกระหายในการเล่นฟุตบอล แต่สภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวยแล้ว พร้อมตั้งเป้าผันตัวเองไปทำหน้าที่โค้ชต่อไป



ดาร์เรน วอร์ด อดีตผู้รักษาประตูทีมชาติเวลส์ ประกาศอำลาสนามเป็นที่เรียบร้อย หลังไม่ได้รับสัญญาฉบับใหม่จาก ซันเดอร์แลนด์ สโมสรในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยเจ้าตัวลงเล่นนัดสุดท้ายให้ "แมวดำ" ในเกมเสมอ แอสตัน วิลล่า 1-1 เมื่อเดือนธันวาคม 2007


นายทวารวัย 35 ปี ซึ่งลงเฝ้าเสาไปทั้งสิ้น 582 นัดตลอดอาชีพการเป็นนักเตะ เผยผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ ซันเดอร์แลนด์ ว่า "ผมยังมีความกระหายในการเล่นฟุตบอล แต่โชคร้ายที่สภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวยให้ทำเช่นนั้นอีกแล้ว ทำให้ผมไม่ต้องคิดหนักถึงเรื่องการอำลาสนาม"


"ผมรู้ดีว่า หากผมยังฝืนเล่นต่อไป ผมอาจจะทำให้ร่างกายของตัวเองเสียหายในระยะยาวก็เป็นได้ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องเศร้าที่ต้องถึงเวลาเลิกเล่น อย่างไรก็ตาม ผมต้องการใช้ประสบการณ์ของตัวเองให้เป็นประโยชน์ด้วยการก้าวไปทำหน้าที่โค้ชต่อไป" วอร์ด ทิ้งท้าย




........................................................................................................................................................................



ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

Friday, May 29, 2009

เวโลโซ่ยกสิทธิ์ให้ลิสบอนตัดสินอยู่หรือไป




มิเกล เวโลโซ่ กองกลางเนื้อหอม สปอร์ติ้ง ลิสบอน เผยการย้ายทีมขึ้นอยู่กับสโมสร หลังตกเป็นข่าวอำลาต้นสังกัดมาตลอด พร้อมยันการออกมาเผยว่าอยากไปค้าแข้งต่างแดน ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ทีมล้มเหลวแต่อย่างใด



มิเกล เวโลโซ่ กองกลางตัวเก่ง สปอร์ติ้ง ลิสบอน สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งลีกโปรตุเกส ออกมาเผยเกี่ยวกับอนาคตการค้าแข้งของตนเอง เมื่อวันศุกร์ที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา ว่า การที่ตนจะย้ายทีมหรือไม่ในช่วงปิดฤดูกาลนี้ ขึ้นอยู่กับต้นสังกัดเท่านั้นที่จะเป็นผู้ตัดสิน


ดาวเตะวัย 23 ปี ตกเป็นข่าวเรื่องการย้ายทีมอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา โดยได้รับความสนใจจากหลายทีมในพรีเมียร์ลีก จนเรื่องดังกล่าวกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในหมู่แข้ง ลิสบอน อย่างมาก โดยมี บรูโน่ เปเรยรินญ่า และ ฟาบิโอ โรเชมบัค 2 กองกลางคนสำคัญ ต่างพร้อมใจกันออกมาตำหนิการให้ความเห็นของ เวโลโซ่ ว่าเป็นสาเหตุทำให้ทีมต้องจบฤดูกาลนี้แบบมือเปล่า


เปาโล เบนโต้ นายใหญ่ ลิสบอน ออกมายอมรับเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า เวโลโซ่ น่าจะย้ายออกจากถิ่น เอสตาดิโอ โชเซ่ อัลวาลาด แน่นอน ซึ่งสอดคล้องกับคำพูดที่เปรยเป็นนัยของนักเตะว่า ถึงตอนนี้แล้วอนาคตค้าแข้งของตัวเองขึ้นอยู่กับสโมสรเท่านั้น


เวโลโซ่ กล่าวว่า "หากโค้ชบอกว่าผมจะถูกขาย นั่นก็คือทางเลือกของเขา ไม่ใช่ผม เขาเป็นโค้ชและเป็นผู้ตัดสินใจ"


พร้อมกันนี้ เวโลโซ่ ยังกล่าวถึงคำครหาต่างๆ ที่ระบุว่าเขาเป็นตัวการทำให้ทีมให้ล้มเหลวด้วยว่า "ผมคิดว่าสิ่งที่พูดถึงตัวผมนั้นไม่ถูกต้อง บางทีพวกเขาอาจต้องการทำให้ผมเป็นแพะรับบาป ผู้คนมากมายพูดแบบนี้ และผมก็แค่แสดงความเห็นของตัวเองเท่านั้นว่าผมฝันอยากจะได้เล่นในต่างแดน ผมไม่เสียใจเลยด้วยกับสิ่งที่ผมพูดออกมา"


ด้าน เปาโล บาร์โบซ่า เอเยนต์ของ เวโลโซ่ ออกมากล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า เขายังไม่ได้ตกลงเรื่องการย้ายทีม และอนาคตการค้าแข้งของนักเตะก็ยังไม่มีการตัดสินใจใดๆ ทั้งนั้น จนกว่าจะเสร็จสิ้นการเลือกตั้งประธานสโมสรคนใหม่ในช่วงซัมเมอร์นี้ ซึ่งขัดแย้งกับข่าวก่อนหน้านี้ที่สื่อจากอังกฤษ รายงานว่า โบลตัน วันเดอเรอร์ส เตรียมจะยื่นข้อเสนอเพื่อคว้าตัวไปร่วมทีม




ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

สาลิกาดงบ้าเลือดตั้งค่าหัวบาสซง750ล.




อาร์เซน่อล, แอสตัน วิลล่า และ สเปอร์ส 3 ทีมที่กำลังช่วงชิงลายเซ็นของ เซบาสเตียน บาสซง กองหลัง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด มีอันต้องสะดุ้งโหยง หลัง "สาลิกาดง" ประกาศแปะป้ายราคาดาวเตะฝรั่งเศสไว้ที่ 750 ล้านบาท พร้อมเตรียมยื่นข้อเสนอสัญญาฉบับใหม่เพื่อขึ้นค่าเหนื่อยให้นักเตะด้วย



"เดอะ ซัน" หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์จอมสร้างกระแสประจำอังกฤษ รายงานเมื่อวันศุกร์ที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด สโมสรน้องใหม่แห่งศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ออกมาตั้งค่าตัว เซบาสเตียน บาสซง กองหลังชาวฝรั่งเศส เอาไว้เบาะๆ แค่ 15 ล้านปอนด์ (ราว 750 ล้านบาท) เพื่อหวังจะรั้งตัวนักเตะหลังจากเนื้อหอมแบบสุด ๆ มีสโมสรยักษ์ใหญ่ร่วมลีกหลายทีมรุมจีบอยากได้ไปร่วมทีม


นิวคาสเซิ่ล เคยออกมายืนยันว่า ถึงแม้ทีมต้องตกชั้น แต่บรรดาเหล่าสตาร์ดังจะไม่ย้ายแน่นอน ซึ่งขัดกับคำพูดของ บาสซง ก่อนหน้านี้ที่ออกมาเผยว่าคิดเรื่องอำลาต้นสังกัดเช่นกัน หาก "เดอะ แม็กพายส์" พลาดท่าตกชั้น เพราะไม่อยากลงไปเล่นในระดับเดอะ แชมเปี้ยนชิพ และต้องการอยู่ค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกต่อไป เพื่อรักษาความหวังในการติดทีมชาติฝรั่งเศส เอาไว้ต่อไป


ปราการหลังดีกรีทีมชาติฝรั่งเศส ชุดยุ 21 ตกเป็นข่าวว่าได้รับความสนใจจาก อาร์เซน่อล, แอสตัน วิลล่า และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 3 สโมสรแห่งศึกพรีเมียร์ลีก ที่พร้อมขับเคี่ยวแย่งกันล่าลายเซ็นกองหลังเจ้าของความสูง 6 ฟุต 2 นิ้ว ไปร่วมทีมในฤดูกาลหน้า


อย่างไรก็ตาม นิวคาสเซิ่ล แสดงความต้องการอย่างชัดเจนว่าอยากที่จะเก็บอดีตดาวเตะ เม็ตช์ ไว้ใช้งานต่อไป พร้อมทั้งมีรายงานว่าพวกเขาเตรียมที่จะยื่นข้อเสนอสัญญาฉบับใหม่ซึ่งจะทำให้นักเตะได้รับค่าเหนื่อยเพิ่มขึ้นอีกสัปดาห์ละ 5,000 ปอนด์ (ราว 2.5 แสนบาท) อีกด้วย




........................................................................................................................................................................



ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

มิเกลเชื่อแชมป์เอฟเอลบความเจ็บช้ำจากชปล.




จอห์น โอบี มิเกล มิดฟิลด์ เชลซี เชื่อการคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ฤดูกาลนี้ จะช่วยลบความเจ็บปวดของพลพรรค "สิงห์บลูส์" จากการตกรอบตัดเชือก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยน้ำมือของ บาร์เซโลน่า แบบเจ็บแสบได้ พร้อมหวังคว้าถ้วยเพื่อส่งท้ายการคุมทัพของ กุส ฮิดดิ้งค์ ที่จะอำลาทีมหลังจบเกมนี้อีกด้วย



จอห์น โอบี มิเกล กองกลางทีมชาติไนจีเรียของ เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เชื่อว่าการเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ฤดูกาลนี้มาครองได้สำเร็จ ในวันเสาร์ที่ 30 พ.ค.นี้ จะช่วยลบความเจ็บปวดของทีมจากการตกรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ หลังพลพรรค "สิงห์บลูส์" โดน บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก ลา ลีกา สเปน ตีเสมอ 1-1 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของเกมนัดที่ 2 ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ทำให้ต้องตกรอบไปด้วยกฏประตูทีมเยือนแบบสุดช้ำ


มิดฟิลด์ เชลซี กล่าวว่า "เราจะจัดการลบความเจ็บปวดจากการตกรอบ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้ได้ ดังนั้นเราต้องมั่นใจว่าเราต้องคว้าชัยชนะให้ได้ในเกมนี้ ถ้วยแชมป์ก็คือถ้วยแชมป์ เราพยายามทำให้มั่นใจอยู่เสมอว่าเราจะคว้าแชมป์ในทุกรายการ ไม่ว่าเรากำลังจะลงเล่นในรายการไหน เราต้องการคว้าแชมป์ ถ้า เอฟเอ คัพ จะเป็นรายการที่เราทำได้สำเร็จในฤดูกาลนี้ มันก็เยี่ยมไปเลย"



นอกจากนี้ มิเกล ยังต้องการคว้าแชมป์เพื่อเป็นการส่งท้าย กุส ฮิดดิ้งค์ ผู้จัดการทีมคนเก่ง ที่เตรียมอำลาสโมสรกลับไปคุมทีมชาติรัสเซีย อย่างเดียว หลังจบเกมนี้ด้วย โดยกล่าวว่า "มันสำคัญสำหรับพวกนักเตะและทุกคน เราต้องคว้าแชมป์ให้ได้เพื่อผู้จัดการทีมของเรา เรายังไม่เคยคว้าแชมป์อะไรอีกเลยหลังได้แชมป์ เอฟเอ คัพ 2007 ดังนั้น เราต้องมั่นใจว่าเราจะคว้าถ้วยมาครองได้สำเร็จในซีซั่นนี้ ถ้าเราชนะ มันจะเป็นการนำความหวังกลับมาสู่สโมสรและบรรดานักเตะในทีมเพิ่มขึ้นอีกนิด"




ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

ปธ.ทอฟฟี่ชูเคฮิลล์เทียบชั้นบอลล์




บิลล์ เคนไรท์ บิ๊กบอส เอฟเวอร์ตัน ชู ทิม เคฮิลล์ มิดฟิลด์ออสซี่ มีฝีเท้าเทียบชั้นกับ อลัน บอลล์ อดีตดาวเตะทีมชาติอังกฤษ ชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 1966 ได้เลยทีเดียว ยกเป็นกำลังสำคัญที่ทำให้ทีมประสบความสำเร็จในซีซั่นนี้ รวมไปถึงการผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ได้อีกด้วย



บิลล์ เคนไรท์ ประธานสโมสร เอฟเวอร์ตัน ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกโรงยกย่อง ทิม เคฮิลล์ กองกลางทีมชาติออสเตรเลีย ว่า เป็นนักเตะกำลังสำคัญ และมีอิทธิพลอย่างยิ่งสำหรับความสำเร็จของ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ในฤดูกาลนี้ พร้อมกับนำไปเปรียบเทียบถึงขั้นของ อลัน บอลล์ อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ ชุดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1966 เลยทีเดียว


บอสใหญ่ถิ่น กูดิสัน พาร์ค กล่าวก่อนที่ขุนพลทอฟฟี่ จะทำศึก เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ กับ เชลซี ที่สนาม เวมบลีย์ ในวันเสาร์นี้ว่า "เกมแรกที่ เดวิด มอยส์ และผมได้เห็นการเล่นของ เคฮิลล์ คือนัดที่ มิลล์วอลล์ ลงเล่นเกมเพลย์ออฟกับ เบอร์มิงแฮม โดยที่ตอนแรกพวกเรามีความตั้งใจที่จะไปดูผู้เล่นในตำแหน่งปราการหลังตัวกลาง"


"แต่หลังเกมผ่านไปครึ่งชั่วโมง เดวิด ก็มองหน้าผมแล้วถามว่า ผมเห็นนักเตะผมดำที่วิ่งจากเขตโทษถึงเขตโทษอีกฝั่งอย่างที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนเลยหรือเปล่า จากนั้นเราก็ดูเขาเล่นในช่วงที่เหลืออีก 1 ชั่วโมง เขาเล่นน่าตื่นตาตื่นใจมากเลยทีเดียว"


"จากนั้นไม่นาน ผมก็โทรศัพท์ให้เขามาหาที่ออฟฟิศ และเขาก็บอกว่า อยากเล่นให้ เอฟเวอร์ตัน มากแค่ไหน ผมตื่นเต้นมาก เพราะเขาเป็นเจ้าชายแห่งวงการฟุตบอล เขาเป็น อลัน บอลล์ คนใหม่ เขาเป็นสปิริตที่แท้จริงของ เอฟเวอร์ตัน และเป็นคนที่ไม่เคยยอมแพ้ในทีม" เคนไรท์ กล่าวในที่สุด




........................................................................................................................................................................



ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

มาร์ติเนซแบะท่าสนใจย้ายซบหงส์




ฆาบี มาร์ติเนซ มิดฟิลด์ดาวรุ่ง แอธเลติก บิลเบา เผยพร้อมพิจารณาข้อเสนอ ลิเวอร์พูล หากมีการยื่นเข้ามาในซัมเมอร์นี้ ยก "หงส์แดง" เป็นสโมสรใหญ่ และทุกคนก็อยากไปร่วมทีมด้วย



ฆาบี มาร์ติเนซ กองกลางดาวรุ่ง แอธเลติก บิลเบา สโมสรแห่งศึกลา ลีกา สเปน ออกมาเผยเมื่อวันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ว่า เขาพร้อมที่จะพิจารณาข้อเสนอ หาก "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก ยื่นขอซื้อไปร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้


ราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ตกเป็นข่าวว่าสนใจในฝีเท้า มาร์ติเนซ และต้องการได้ตัวไปร่วมทีมในช่วงปิดฤดูกาลนี้ โดยถึงตอนนี้ "หงส์แดง" ยังไม่ได้ยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการสำหรับดาวเตะวัย 20 ปี แต่มิดฟิลด์ บิลเบา ยอมรับว่าสนใจที่จะย้ายไปค้าแข้งในอังกฤษเช่นกัน


"ผมสงบนิ่ง ข่าวลือต่างๆ ไม่ทำให้ผมวุ่นวายใจ ถ้าผมได้รับข้อเสนอ ผมก็จะพิจารณามันร่วมกับสโมสร ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่ยิ่งใหญ่กับประวัติศาสตร์อันเกรียงไกร และนักเตะทุกคนก็อยากไปที่นั่น" มาร์ติเนซ กล่าว




........................................................................................................................................................................



ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

กูตีรับตาร้อนเห็นบาร์ซ่าคว้าทริปเบิ้ลแชมป์




กูตี มิดฟิลด์เลือดกระทิงของ เรอัล มาดริด รับ ขอบตาร้อนผ่าวหลังเห็นความสำเร็จของ บาร์เซโลน่า คู่อริตลอดกาล สร้างความยิ่งใหญ่ผงาดคว้า 3 แชมป์ เป็นสโมสรแรกของสเปน ชี้ความสำเร็จแบบนี้เหมือนสมัยที่ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ บริหารทีมชุดขาวยังไงยังงั้น



กูตี กองกลางจอมเก๋าของ เรอัล มาดริด ทีมยักษ์ใหญ่แห่งศึกลา ลีกา ยอมรับ อิจฉาตาร้อนที่เห็น บาร์เซโลน่า ผงาดครองแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลนี้ ชี้ความยิ่งใหญ่ของ "เจ้าบุญทุ่ม" เหมือนกับ "ราชันชุดขาว" ภายใต้การบริหารงานของ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ อดีตประธานสโมสร และเป็นว่าที่บิ๊กบอสคนใหม่ของทีม

บาร์ซ่า โชว์ฟอร์มดุจเทพไล่อัด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สบายเท้า 2-0 ในเกมนัดชิง ที่สนามโอลิมปิก สเตเดี้ยม เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทำให้พวกเขากลายเป็นทีมแรกในหน้าประวัติศาสตร์วงการลูกหนังแดนกระทิง ที่คว้าเทรเบิ้ลแชมป์ ได้อย่างยิ่งใหญ่ คือทั้งแชมป์ยุโรป, แชมป์ลีก และ โกปา เดล เรย์

มิดฟิลด์วัย 32 ปี กล่าวว่า "บาร์ซ่า เมื่อวานนี้เหมือนกับ มาดริด สมัยที่ ฟลอเรนติโน่ บริหารทีม ผมไม่รู้สึกมีความสุขหรือเศร้าอะไรทั้งนั้น แต่ต้องแสดงความยินดีกับ บาร์เซโลน่า สำหรับปีที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขา พวกเขาเป็นทีมที่สุดยอด และมีโค้ชที่ยิ่งใหญ่ (เป๊ป) กวาร์ดิโอล่า มีส่วนสำคัญกับความสำเร็จนี้"

"เพราะเขาเซ็นนักเตะใหม่แค่ 2-3 คน และไม่ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงสภาพจิตใจของทีม นักเตะทุกๆ คนเล่นร่วมกัน และนั่นก็ได้เห็นกันแล้วในสนาม อย่างไรก็ตาม นักเตะที่ย้ายมาเล่นให้ มาดริด ก็มีแรงปรารถนาอย่างแรงกล้า และเราก็เป็นทีมที่ดีเช่นกัน" กูตี กล่าว

ส่วนข่าวที่ว่า มานูเอล เปเยกรินี่ เทรนเนอร์บียาร์เรอัล จะเข้ามากุมบังเหียน เรอัล ในฤดูกาลหน้านั้น กูตี ให้ความเห็นว่า "เขาเป็นโค้ชที่เก่งมาก และก็มีฤดูกาลที่สุดยอดกับ บียาร์เรอัล โค้ชทุกคนกล่าวชมเขาผ่านสื่อ และสไตล์การทำงานของ เปเยกรินี่ ก็น่าจะดีสำหรับ มาดริด เขาเข้าใจฟุตบอลเป็นอย่างดี"

นอกจากนี้ กูตี ยังหวังว่า หาก เปเรซ ชนะเลือกตั้ง และได้เข้ามารับตำแหน่งประธานคนใหม่ เขาจะทุ่มเงินเพื่อดึงนักเตะระดับโลกเข้ามาร่วมทีม "มันคงจะเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น ก่อนหน้านี้เขาคว้าแชมป์มากมาย และซื้อนักเตะระดับโลกมาร่วมทีมเพียบ ครั้งนี้เขาจะทำให้ทีมแข็งแกร่ง"

"ดังนั้น เราสามารถที่จะมีลุ้นแชมป์ได้ทุกรายการ ผมหวังว่า (ฟร้องค์) ริเบรี่ , กาก้า หรือ คริสเตียโน่ (โรนัลโด้) จะย้ายมาร่วมทีม แต่ว่านักเตะสแปนิชอย่าง (ดาบิด) บีย่า และ (ดาบิด) ซิลบา ก็น่าจะเล่นได้อย่างสุดยอดให้กับ มาดริด เช่นกัน" กูตี ระบุ




........................................................................................................................................................................



ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

ฟานเพอร์ซี่รับต่อสัญญาปืนยังไม่คืบหน้า




โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ หัวหอกตัวความหวังของ อาร์เซน่อล ยันยังไม่มีความคืบหน้าในเรื่องการต่อสัญญาฉบับใหม่กับ "เดอะ กันเนอร์ส" พร้อมรับว่าพอใจกับการได้ลงช่วยทีมหลายนัดในซีซั่นนี้ แต่สิ่งที่ผิดหวังก็คือการที่ต้นสังกัดไม่มีแชมป์ติดมือมา 4 ปีติดต่อกัน



โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กองหน้าทีมชาติฮอลแลนด์ของ อาร์เซน่อล สโมสรดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก ยืนยันยังไม่มีความคืบหน้าในเรื่องการต่อสัญญาฉบับใหม่กับทัพ "ไอ้ปืนใหญ่" แต่ยอมรับยังรอโอกาสที่จะเจรจากับต้นสังกัดในเรื่องนี้เช่นกัน

ก่อนหน้านี้ อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมเลือดเฟร้นช์ ยืนยันว่าเขากำลังรอโอกาสที่จะเปิดการเจรจาเรื่องสัญญาฉบับใหม่กับ ฟาน เพอร์ซี่ และทางนักเตะซึ่งยังเหลือสัญญาอยู่ในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม อีก 2 ปี ก็ยังไม่ได้พูดคุยเรื่องนี้ซะที ทำให้มีข่าวลือออกมาว่า ดาวเตะเลือดดัตช์ อยากที่จะอำลาสโมสร

หัวหอกวัย 25 ปี ยอมรับว่ายังไม่มีความคืบหน้าในเรื่องการต่อสัญญา แต่ยืนยันว่าจะมีข่าวในเรื่องนี้ในเร็ววันนี้แน่นอน "สโมสรกับผมยังไม่มีความคืบหน้าในเรื่องนี้ แต่บางทีในเร็วๆ นี้ผมอาจจะมีข่าวใหม่ๆ ออกมาอีก และนั่นก็คือทั้งหมดที่ผมสามารถพูดได้ในช่วงเวลานี้"

ขณะเดียวกัน อดีตดาวเตะเฟเยนูร์ด ยอมรับว่า พอใจกับการได้มีส่วนช่วยเหลือ อาร์เซน่อล ในซีซั่นนี้ แต่ก็ผิดหวังที่สโมสรไม่มีอะไรติดไม้ติดมือมา 4 ปีติดต่อกัน "เป้าหมายของผมก็คือลงสนามให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และผมก็ทำเรื่องนี้สำเร็จเมื่อได้ลงเล่นถึง 44 เกม ผมมีความสุขกับจำนวนประตู และการจ่ายให้เพื่อนทำประตู แต่รอยมลทินเพียงเรื่องเดียวของเราก็คือไม่ได้แชมป์อะไรเลย การได้ชูถ้วยแชมป์ และความรู้สึกแบบนั้น มันเป็นทุกอย่างของการเล่นฟุตบอล"




........................................................................................................................................................................



ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

ม็อตต้าหวังได้เล่นกับโรม่าต่อซีซั่นหน้า




มาร์โก้ ม็อตต้า กองหลังดาวโรจน์ของ โรม่า หวังได้สวมชุด "หมาป่าเหลือง-แดง" ค้าแข้งต่อไปในฤดูกาลหน้า หลังทำผลงานได้น่าพอใจ ตั้งแต่ย้ายจาก อูดิเนเซ่ มาเล่นในถิ่นโอลิมปิก สเตเดี้ยม แบบยืมตัวเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา



มาร์โก้ ม็อตต้า กองหลังทีมชาติอิตาลีของ โรม่า สโมสรดังแห่งศึกกัลโซ่ เซเรีย อา ตั้งความหวังว่า จะได้อยู่ค้าแข้งในถิ่นโอลิมปิก สเตเดี้ยม ต่อไปในฤดูกาลหน้า หลังทำผลงานได้อย่างสุดยอดนับตั้งแต่ที่ย้ายมาค้าแข้งแบบยืมตัวกับทัพ "จัลโล่รอสซี่"

ดาวเตะวัย 23 ปี ย้ายจาก อูดิเนเซ่ มาเล่นกับทัพ "หมาป่าเหลือง-แดง" แบบยืมตัว ช่วงต้นปี และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนกลายเป็นนักเตะกำลังหลักของโค้ช ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ ที่สำคัญยังได้รับโอกาสจาก มาร์เชลโล่ ลิปปี้ เทรนเนอร์ทีมชาติอิตาลี เรียกตัวติดทัพ "อัซซูรี่" แล้วด้วย โดยเจ้าตัวหวังจะได้ขยายสัญญายืมตัวเพื่อค้าแข้งกับ โรม่า "ผมหวังว่าจะได้อยู่เล่นที่ โรม่า ต่อไป"

ขณะเดียวกัน เกมพบ โตริโน่ นัดสุดท้ายของฤดูกาลวันอาทิตย์นี้ โรม่า จะไม่มี ม็อตต้า เนื่องจากติดโทษแบน 1 นัด เช่นเดียวกับ โรดริโก้ ตัดเด นอกจากนี้ พวกเขายังจะไม่มี อัลแบร์โต้ อาควิลานี่, อเล็กซานเดอร์ โดนี่ และ ชิซินโญ่ เนื่องจากมีปัญหาบาดเจ็บ แต่ยังดีที่ ชูลิโอ บาปติสต้า กลับมาเล่นได้อีกครั้ง หลังพลาดเกมชนะ เอซี มิลาน สัปดาห์ที่แล้ว




ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

ปูดบรูซเตรียมชิ่งวีแกนคุมแมวดำวีกเอนด์นี้




สื่อเมืองผู้ดีแฉข่าวเซอร์ไพรส์ สตีฟ บรูซ กุนซือ วีแกน แอธเลติก เตรียมย้ายสายฟ้าแลบไปกุมบังเหียนทีม "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ ที่ต้องการนายใหญ่คนใหม่ เผยการเจรจาลุล่วงแล้ว และเตรียมเปิดตัวกันภายในสุดสัปดาห์นี้



"เดอะ การ์เดี้ยน" หนังสือพิมพ์ชื่อดังของอังกฤษ เปิดเผยข่าววงใน โดยระบุว่า สตีฟ บรูซ ผู้จัดการทีม วีแกน แอธเลติก ได้รับข้อเสนอในการย้ายมาคุมทีม "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ ทีมร่วมพรีเมียร์ลีก หลังการเจรจาบรรลุผล โดยเตรียมประกาศการเข้าคุมทีมอย่างเป็นทางการภายในสุดสัปดาห์นี้

ถึงแม้ "สกาย สปอร์ตส์" สื่อยักษ์ใหญ่อีกเจ้า จะรายงานว่า ยังไม่ได้มีข้อเสนอใดๆ อย่างเป็นทางการจากทีม "แมวดำ" รวมทั้ง ซันเดอร์แลนด์ ก็กำลังมองหาตัวเลือกอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย อย่างเช่น แฟร้งค์ ไรจ์การ์ด หรือ สลาเวน บิลิช แต่ เดอะ การ์เดี้ยน รายงานว่า ข้อเสนอนั้นบรรลุไปแล้ว หลังจากการเจรจาอย่างจริงจังถึง 48 ชั่วโมง

นอกจากนี้ สื่อเล่มดังกล่าวยังระบุอีกว่า เดฟ วีแลน ประธาน "เดอะ ลาติกส์" ต้องการค่าชดเชยจากการสูญเสียผู้จัดการทีม เป็นเงินจำนวนถึง 5 ล้านปอนด์ (ราว 250 ล้านบาท) ซึ่งเป็นจุดที่ ซันเดอร์แลนด์ ต้องการเจรจาต่อรองกันต่อไป แต่ วีแลน ก็มองหาตัวแทน บรูซ เอาไว้แล้ว โดยเล็งไปที่ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ กุนซือหนุ่มชาวสเปนของ สวอนซี

ขณะเดียวกัน บีบีซี สปอร์ต รายงานเพิ่มเติมว่า ซันเดอร์แลนด์ ได้ดำเนินการปล่อยตัวนักเตะออกจากทีมไปแล้วถึง 7 คน เพื่อเป็นการลดรายจ่าย และลดขนาดของทีมลง ซึ่งนักเตะที่โดนเด้งออกจากถิ่น สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์นั้น ประกอบด้วย ดไวท์ ยอร์ค , เดวิด คอนนอลลี่, อาร์นู ริเอร่า, ดาร์เรน วอร์ด, นิค โคลแกน, ไนออล แม็คอาร์เดิ้ล และ ปีเตอร์ ฮาร์ทลี่ย์ ส่วน ทาล เบน ฮาอิม กับ คาลั่ม ดาเวนพอร์ท ที่ยืมตัวมาจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ตามลำดับ จะย้ายกลับไปต้นสังกัดเดิม




........................................................................................................................................................................



ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

งูใหญ่เซ็งกุนยันหนักแน่นไม่ย้ายหนีตราหมีแน่




เซร์คิโอ "กุน" อเกวโร่ หัวหอกดาวโรจน์อาร์เจนไตน์ของ "ตราหมี" แอตเลติโก มาดริด ปัดข่าวย้ายหนีทีมในช่วงหน้าร้อนนี้ แม้มีข่าว อินเตอร์ มิลาน และยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป จ้องตาเป็นมัน ยืนยันตั้งใจฝากอนาคตไว้กับทีม และไม่มีทางเปลี่ยนใจแน่นอน



เซร์คิโอ "กุน" อเกวโร่ กองหน้าเนื้อหอมทีมชาติอาร์เจนตินา ปฏิเสธข่าวลือเรื่องย้ายทีมออกจาก แอตเลติโก มาดริด ในช่วงปิดฤดูกาล โดยยืนยันว่า ไม่เคยมีทีมใดยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการเข้ามา ขณะที่เขาก็ต้องการค้าแข้งอยู่ในถิ่น บิเซนเต้ กัลเดร่อน ต่อไป

แม้จะมีข่าวว่า อินเตอร์ มิลาน มหาอำนาจลูกหนังอิตาลี กำลังติดต่อขอซื้อตัวดาวยิงฟอร์มแรงไปร่วมทีม รวมทั้งมีทีมยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป กำลังให้ความสนใจในตัวดาวรุ่งรายนี้อยู่เช่นกัน แต่ล่าสุดเจ้าตัวเองก็ออกมายืนยันกับ มาร์ก้า หนังสือพิมพ์กีฬายักษ์ใหญ่ของสเปน ว่าตั้งใจฝากอนาคตเอาไว้กับทีม "ตราหมี" ต่อไป

ดาวเตะวัย 20 ปี เปิดเผยว่า " แม้ ดีเอโก้ มาราโดน่า (กุนซือทีมชาติอาร์เจนติน่า) บอกว่า ผมจะเป็นคู่หูกองหน้าที่ดีกับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (หัวหอกอินเตอร์ มิลาน) และผู้คนต่างเชื่อว่า ผมจะย้ายไป อินเตอร์ แต่ผมยังไม่ได้รับข้อเสนอจากที่ไหน และผมก็บอกเสมอว่า ผมจะอยู่กับทีมต่อไป แฟนๆ ต้อนรับผมดีมาก และผมอยากอยู่ที่นี่ แฟนบอลต้องการเห็นผม นักเตะทุกคนย่อมมีการตัดสินใจของตัวเอง และผมก็เช่นกัน ผมต้องการอยู่ที่นี่ "

นอกจากนั้น หัวหอกเลือดอาร์เจนไตน์ ยังยืนยันว่าจะไม่หักหลังแฟนบอล แอตเลติโก ย้ายข้ามฟากไปอยู่กับทีมคู่แค้นร่วมเมือง เรอัล มาดริด อย่างแน่นอน " คู่ปรับที่สำคัญที่สุดของ แอตเลติโก คือ เรอัล มาดริด และผมคิดว่า ถ้าผมย้ายไปที่นั่น ผมจะกลายเป็นคนทรยศสโมสร ผมได้รับการดูแลอย่างดีมากที่นี่ และผมจะไม่ไปที่นั่นแน่ๆ "

อดีตดาวยิง อินดิเพนเดียนเต้ ยังเชื่อมั่นว่าแอตเลติโก จะก้าวขึ้นมาลุ้นแย่งตำแหน่งแชมป์กับทีมยักษ์ใหญ่ในสเปน ได้อย่างแน่นอนในอนาคต " สโมสรแห่งนี้ทำงานอย่างหนัก เรานำนักเตะที่มีชื่อเสียงเข้ามา และเราก็มีโอกาสดีที่จะเข้าร่วม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ผมคิดว่าในปีหน้า เราจะสามารถสู้เพื่อแย่งแชมป์ลีกได้ อาเบล เรซิโน่ (กุนซือแอตเลติโก) ทำงานได้ดีมาก และนักเตะในทีมก็สนับสนุนเขา "

สำหรับผลงานส่วนตัวในฤดูกาลนี้ของเขา แม้ว่าเขายังไม่สามารถยิงได้เท่ากับในฤดูกาลที่แล้ว แต่ดาวรุ่งจอมเทคนิค ก็ยังพอใจในผลงานของตัวเอง " ผมต้องยิงให้ได้อีก 3 ลูกถึงจะเท่ากับปีที่แล้ว บางทีวันเสาร์นี้ผมอาจจะทำแฮตทริคก็ได้ ผมไม่คิดว่าปีนี้จะแย่กว่าเดิม แม้มันจะไม่ใช่ปีที่ดีที่สุดของผม แต่ 16 ประตูที่ผมทำได้ ก็ช่วยให้ทีมได้ประโยชน์แน่นอน "




........................................................................................................................................................................



ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

Thursday, May 28, 2009

เอเยนต์เผยราอูลอาจย้ายถ้ามาดริดต้องการ




คีเนส การ์บาฆาล เอเยนต์ของ ราอูล กอนซาเลซ กัปตันทีม เรอัล มาดริด ไม่ปัดความเป็นไปได้ที่นักเตะอาจย้ายทีม ถ้าหากสโมสรอยากให้เป็นแบบนั้น หลังเชื่อว่า มาดริดยุคใหม่ อาจมีการปฏิวัติทีมพอสมควร ชี้ที่ผ่านมามีข้อเสนอมาตลอด เพียงแต่ มาดริด ไม่ยอมขายดาวยิงขวัญใจแฟนบอลเท่านั้น



คีเนส การ์บาฆาล เอเยนต์ของ ราอูล กอนซาเลซ กองหน้ากัปตันทีม "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่ของสเปน เผย แม้รู้ดีว่า ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ว่าที่ประธานสโมสรคนใหม่ เคารพ และให้เกียรติ ดาวยิงหมายเลข 7 เสมอ แต่ถ้าหากสโมสรอยากให้นักเตะของเขาย้ายออกไป ก็ไม่แน่ว่าอาจมีการย้ายทีมช็อกโลกเกิดขึ้นจริงๆ

การเข้ามาเป็นประธานสโมสรอีกครั้งของ เปเรซ ถ้าเขาชนะการเลือกตั้ง มีการคาดหมายว่า อาจจะมีการปฏิวัติทีมพอสมควร และแม้แต่ ราอูล ก็ไม่มีข้อยกเว้นว่า อาจโดนปล่อยตัวออกไป ซึ่งหากเป็นความต้องการของสโมสร ราอูล ก็อาจย้ายทีม เพราะที่ผ่านๆ มามีหลายทีมยื่นข้อเสนอมาเช่นกัน แต่นักเตะปฏิเสธเรียบวุธ

"เมื่อเร็วๆ นี้มีอะไรบางอย่างจากทาง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก่อนนั้นก็ เชลซี และทีมใหญ่ๆ อีกหลายทีมต่างเคยแสดงความสนใจ นี่เป็นสิ่งที่เราไม่ควรลืมแม้บางคนอาจไม่อยากยอมรับ ราอูล จัดเป็นหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรป สิ่งที่เกิดขึ้นคือสโมสรใหญ่ๆ ในยุโรปต่างรูว่า มันยากมากที่จะคุยกับ มาดริด เพื่อเซ็นสัญญากับเขา" การ์บาฆาล กล่าว

เอเยนต์คนดัง ยังเอ่ยถึงอนาคตของ ฆวนเด้ รามอส ที่อยู่ในการจัดการของเขาเช่นกันว่า คงไม่อยู่คุม มาดริด ต่อแน่ๆ เพราะว่าที่ประธานฯ ต้องการความแปลกใหม่ แต่ก็บอกว่า รามอส จะว่างงานไม่นาน ขณะเดียวกัน เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ มาดริด จะซื้อผู้เล่นใหม่ การ์บาฆาล บอกว่า น่าจะเน้นการปั้นเด็กดีกว่า

"นักเตะอย่าง ลิโอเนล เมสซี่, โบยาน และ อิเนียสต้า ไม่มีทางได้รับเสียงยกย่องชื่นชมจากทั่วโลกได้เลยถ้าหากพวกเขาไม่ได้รับโอกาส มันไม่สำคัญว่า คุณจะวาดโครงการด้วยการดึงนักเตะต่างชาติ คุณภาพหลายหลาย มาร่วมทีม แต่จิตวิญญาณของสโมสรควรจะมีความเป็นสเปนอยู่ แบบเดียวกับที่ อังกฤษ และ อิตาลี" การ์บาฆาล กล่าว




........................................................................................................................................................................



ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

สื่อปูด!เจ้าสัวอาหรับเล็งสเวนคุมปอมปีย์




สื่อแดนผู้ดี ตีข่าวใหญ่รับ สุไลมาน อัล-ฟาฮิม เจ้าสัวจากยูเออี ว่าที่เจ้าของทีมคนใหม่ "ปอมปีย์" พอร์ทสมัธ ทันที ชี้กำลังจะเขี่ย พอล ฮาร์ท โค้ชที่ทำให้ทีมรอดตกชั้นออกจากตำแหน่ง พร้อมคว้า สเวน โกรัน อีริคส์สัน กุนซือคนดังชาวสวีดิช เข้ามารับบทสำคัญในการสร้างสโมสรให้ก้าวไปเป็นทีมชั้นนำในอนาคต



"สกาย สปอร์ต นิวส์" สำนักข่าวกีฬายักษ์ใหญ่แดนผู้ดี เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า สุไลมาน อัล-ฟาฮิม มหาเศรษฐีจากสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ว่าที่ประธานสโมสร พอร์ทสมัธ แห่งศึกพรีเมียร์ลีก ตั้งเป้าดึง สเวน โกรัน อีริคส์สัน อดีตผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ มานั่งคุมทัพแข้ง "เดอะ ปอมปีย์" ในฤดูกาลหน้า

เจ้าสัวพันล้านจาก อาบูดาบี ซึ่งใกล้เข้าครองกิจการในถิ่น แฟร็ตตัน พาร์ค เร็ววันนี้ ตกเป็นข่าวลือว่ากำลังตัดสินใจคว้าตัวอดีตกุนซือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งกำลังว่างงาน หลังถูกไล่ออกจากตำแหน่งนายใหญ่ทีมชาติเม็กซิโก เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา เข้ามาทำหน้าที่ต่อจาก พอล ฮาร์ท กุนซือชั่วคราว ที่แม้จะช่วยให้ทีมรอดตกชั้น หลังจากเข้ามารับตำแหน่งต่อจาก โทนี่ อดัมส์ แต่ทว่าอนาคตยังไม่มีความแน่นอนว่าจะได้ทำงานต่อไปหรือไม่

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา สโมสรจากแดนใต้ของแดนผู้ดี ออกแถลงการณ์ว่า พวกเขารับข้อเสนอขอซื้อกิจการของ อัล-ฟาฮิม เรียบร้อยแล้ว และขั้นตอนการซื้อขายสโมสรจาก อเล็กซานเดร กายดามัค เจ้าของทีมคนปัจจุบัน ก็น่าจะเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์หน้า โดย บิลเลียนแนร์ชาวอาหรับ ซึ่งดำรงตำแหน่ง สมาชิกบอร์ดบริหารบริษัท อาบูดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป ฟอร์ เดเวลอปเมนต์ และ อินเวสต์เมนต์ ออกมาให้ความหวังกับบรรดาแฟนพอร์ทสมัธทันทีว่า เขาจะสร้างสโมสรแห่งนี้ให้เป็นทีมที่ยอดเยี่ยมในวันข้างหน้า

อัล-ฟาฮิม กล่าวผ่าน "อราเบียนบิสซิเนสส์ ดอท คอม" (www.arabianbusiness.com) เว็บไซต์ข่าวแดนตะวันออกกลางว่า " ทุกสิ่งที่ผมได้เห็น ทำให้ผมแน่ใจว่าพวกเราสามารถสร้างสโมสรที่ยิ่งใหญ่ได้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า พอร์ทสมัธ มีประวัติศาสตร์ที่เหลือเชื่อ และแฟนๆ ของทีมก็มีความจงรักภักดีต่อทีมมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลกฟุตบอล "

" ผมไม่เพียงรอคอยที่จะทำงานร่วมกับพวกเขาเท่านั้น แต่ผมยังอยากจะฟังมุมมองความคิดเห็นที่พวกเขาต้องการในการพาสโมสรให้เดินหน้าต่อไป ผมเป็นนักลงทุน แต่นี่เป็นสโมสรของพวกเขา เป็นสังคมของพวกเขา และมันเป็นโอกาสพิเศษที่ได้เข้ามารับผิดชอบในตำแหน่งนี้ "




........................................................................................................................................................................



ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

Wednesday, May 27, 2009

เซอร์ซูฮกบาร์ซ่าลั่นพาผีทวงบัลลังก์




เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยกย่อง บาร์เซโลน่า คู่ควรกับถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังทีมที่ตัวเองสร้างมากับมือ แพ้แชมป์สเปน ราบคาบ 0-2 นัดชิงที่ โรม วันพุธที่ผ่านมา พลางประกาศลั่น ซีซั่นหน้าทีมจะกลับมาแบบแกร่งกว่าเดิม ตามธรรมชาติของสโมสรแห่งนี้



เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่ของ อังกฤษ สรรเสริญ บาร์เซโลน่า ยอดทีมแห่งลีกสเปน เจ้ายุโรปทีมใหม่ หลังทีม "ปีศาจแดง" แพ้ทีม "เลือดหมู-น้ำเงิน" 0-2 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ ที่ โอลิมปิก สเตเดี้ยม, กรุงโรม, อิตาลี วันพุธที่ผ่านมา

ยูไนเต็ด แชมป์เก่า เล่นดีในช่วงต้นเกม เมื่อเป็นฝ่ายครองเกมบุกเข้าใส่ และมีโอกาสได้ประตูนำจากฟรีคิกของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไปจนถึงจังหวะยิงประตูอีก 2 ครั้งของ จอมสับชาวโปรตุเกส แต่ บาร์ซ่า บุกทีเดียวเป็นประตูจากความสุดยอดของ ซามูเอล เอโต้ นาทีที่ 10 จากนั้น บาร์ซ่า ก็ครองเกมเอาไว้ได้ตลอด จน ลิโอเนล เมสซี่ ลอยตัวโขกประตูตอกฝาโลง 2-0 นาทีที่ 70 ช่วยให้ บาร์ซ่า เป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ของ สเปน ที่คว้า 3 แชมป์ได้

เฟอร์กี้ ให้สัมภาษณ์กับสถานี"ไอทีวี" หลังจบเกมว่า "เราเริ่มต้นเกมได้ดี และน่าจะออกนำไปก่อน แต่ประตูของ เอโต้ ฆ่าเรา การแย่งบอลจากพวกเขาเป็นเรื่องยากมาก เพราะพวกเขาทำได้ดีในส่วนนี้ คืนนี้พวกเขาเป็นทีมที่ดีกว่า"

กุนซือชาวสกอตต์ เอ่ยถึงความผิดพลาดในเกมรับ ที่เล่นดีมาทั้งซีซั่นว่า "นี่ถือเป็นสองประตูที่แย่มากในเกมระดับนี้ เกมรับเราเล่นดีมาทั้งฤดูกาล กองหลังของเราเล่นได้เยี่ยมมาก แต่คืนนี้เราต้องมาเสียประตูที่แย่มากๆ เราไม่ได้เล่นอย่างที่ควรจะเล่นได้ แต่เราก็เจอกับทีมที่ดี เราต้องให้เครดิตพวกเขา"

แม้จะพลาดถ้วยแชมป์ใบสุดท้ายที่มีลุ้น แต่ ยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จจากการคว้าแชมป์ลีก, คาร์ลิ่ง คัพ ไปจนถึง สโมสรโลก โดย เฟอร์กี้ บอกว่า "เราทำได้ดีแล้ว มันเป็นฤดูกาลที่ยาวนาน นี่เป็นเกมนัดที่ 66 ของเรา และคุณต้องยกย่องนักเตะสำหรับการเล่นที่กล้าหาญ และ ยืดหยุ่น ที่พวกเขาแสดงให้เห็นมาตลอด"

"ตอนนี้เราต้องกลับมาอย่างแข็งแกร่งกว่าเดิม นั่นเป็นสิ่งที่สโมสรแห่งนี้เป็น เราจะต้องยอมรับความพ่ายแพ้ เราแพ้ให้กับทีมที่ดีกว่า แต่เราจะแข็งแกร่งกว่าเดิมในฤดูกาลหน้า" กุนซือวัย 68 ปี กล่าวส่งท้าย




........................................................................................................................................................................



ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

โกเมสปัดย้ายบู๊ต่างแดนหวังยิ่งใหญ่กับเสือใต้




มาริโอ โกเมส จอมถล่มประตูคนใหม่ของ บาเยิร์น มิวนิค เผยใช้เวลา 2 วันตัดสินใจรับข้อเสนอของ "เสือใต้" แทนที่จะเป็นทีมจาก อิตาลี และ อังกฤษ หลังย้ายมาจาก สตุ๊ตการ์ท ด้วยค่าตัวกว่า 1,440 ล้านบาท มั่นใจเลือกไม่ผิด และจะประสบความสำเร็จกับทีมแน่นอน



มาริโอ โกเมส หัวหอกทีมชาติเยอรมัน ดาวยิงคนใหม่ของ บาเยิร์น มิวนิค ยักษ์ใหญ่แห่งศึกบุนเดสลีกา เผยว่า เขาปฏิเสธข้อเสนอจากสโมสรต่างประเทศ เพื่อเลือกย้ายจากทีม "ม้าขาว" สตุ๊ตการ์ท มาเล่นในถิ่น อัลลิอันซ์ อารีน่า กับทีม "เสือใต้" ด้วยค่าตัว 30 ล้านยูโร (ราว 1,440 ล้านบาท)

โกเมส เผยว่า เขาได้รับข้อเสนอจากทีมใน อิตาลี และ อังกฤษ ให้ย้ายไปเล่นด้วย แต่ปฏิเสธแบบไม่คิดมาก เมื่อมี บาเยิร์น มิวนิค เป็นอีกทีมที่สนใจ "ผมไม่เห็นว่ามันจะมีความจำเป็น หรือ มีความปรารถนาอะไรที่จะย้ายไปต่างประเทศ ผมย้ายทีมเพราะผมอยากก้าวหน้าไปอีกขั้นในเส้นทางอาชีพ และ บาเยิร์น คือสโมสรเยอรมัน ที่สามารถยิ่งใหญ่ในยุโรปได้"

"ผมได้รับข้อเสนอจากที่ อิตาลี, อังกฤษ และ บาเยิร์น ซึ่งผมใช้เวลาตัดสินใจแค่ 2 วันเท่านั้น บาเยิร์น แสดงความสนใจในตัวผมมา 2 ปีแล้ว ขนาดผมเล่นได้แย่มากในฟุตบอลยูโร (2008) ก็ตาม นี่แหละคือเหตุผลที่ผมไม่ย้ายไปเล่นต่างประเทศ ผมเป็นนักกีฬาที่อยากจะประสบความสำเร็จเยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ และผมมีโอกาสทำแบบนั้นกับ บาเยิร์น มากกว่าที่ สตุ๊ตการ์ท" ดาวยิงร่างโย่ง ที่ซัดไป 24 ลูกในซีซั่นล่าสุด กล่าว




ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

เป๊ปยกซีซั่นแห่งประวัติศาสตร์




โจเซฟ กวาร์ดิโอล่า กุนซือหนุ่มของ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ยกย่องให้เป็นซีซั่นแห่งประวัติศาสตร์ของสโมสร หลังจากสยบ "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด 2-0 ผงาดครองถ้วยแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่กรุงโรม เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ยกปรัชญาการเล่นเกมรุกคือกุญแจสำคัญที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จคว้า 3 แชมป์มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่



โจเซฟ กวาร์ดิโอล่า เทรนเนอร์บาร์เซโลน่า เจ้าบุญทุ่มแห่งสเปน ออกมากล่าวยกย่องความสำเร็จของทีมหลังชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดทีมจากเกาะอังกฤษ 2-0 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ ที่สนาม โอลิมปิก สเตเดี้ยม ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี เมื่อวันพุธที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา สร้างประวัติศาสตร์ครองทริปเบิ้ลแชมป์ครั้งแรกของสโมสรหลังได้แชมป์ลา ลีกา และโกปา เดล เรย์ มาก่อนหน้านี้

"ผมอยากจะลาออกทันทีในวันพรุ่งนี้เลย ผมไม่สามารถประสบความสำเร็จมากไปกว่านี้แล้ว" กวาร์ดิโอล่า วัย 38 ปี กล่าวติดตลกหลังจากเขากลายเป็นโค้ชที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่นำทีมคว้าถ้วยแชมป์หมายเลขหนึ่งของยุโรปทั้งที่เพิ่งจะเข้ามาคุมทีมได้เป็นปีแรก "เราทุกคนมีความสุขมากๆ เรารู้สึกตื่นเต้น และผมก็อยากแสดงความยินดีกับทุกคนในสโมสร"

"เราไม่ใช่ทีมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่เราเล่นในฤดูกาลที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร ด้วยการคว้า 3 แชมป์ และการเล่นที่เราแสดงออกมาให้เห็น เราเผชิญปัญหามากมายในคืนนี้ และเจอแรงกดดันมหาศาล แต่ประตูของซามูเอล (เอโต้) ยอดเยี่ยมมาก จากนั้น (ลีโอเนล) เมสซี่ ถอยลงมาในแผงกลางเพราะเราต้องการครองบอลให้มากขึ้น ถึงจะมี เธียร์รี่ อองรี อยู่ในตำแหน่งมิดฟิลด์อยู่แล้วก็ตาม เราเล่นอย่างยากลำบาก แต่ผมก็มีความสุขมาก"

กวาร์ดิโอล่า ที่อยู่ในทีมบาร์ซ่า ชุดแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ 1992 ยอมรับว่าได้ศึกษาข้อผิดพลาดจากเกมที่แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด ในรอบรองชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลก่อน มาปรับแผนการเล่นในคืนนี้ "ในช่วงต้นเกมเราเจอปัญหาอยู่พอสมควร เราไม่คิดว่ายูไนเต็ด จะไล่บีบพื้นที่ขึ้นมาสูงขนาดนี้ ทำให้เรามีปัญหาในการสร้างเกม และเราก็ต้องยอมรับว่าพวกเขามีโอกาสลุ้นประตูจากฟรีคิกของ (คริสเตียโน่) โรนัลโด้ แต่หลังจาก (อันเดรส) อิเนียสต้า เปิดบอลให้เอโต้ ยิงประตูแรกได้ เราก็พยายามครองบอลมากขึ้น และขึ้นเกมจากตรงกลางสนาม"

"เมื่อปีที่แล้วเราเห็น ลีโอ (เมสซี่) ประสบปัญหากับ (ปาทริค) เอวร่า ทำให้เราโยกเขามาเล่นตรงกลางคู่กับ ชาบี และอิเนียสต้า เพื่อเพิ่มผู้เล่นในแดนกลาง เรามีโอกาสทำประตูหลายครั้งเช่นเดียวกับคู่แข่ง แต่ท้ายที่สุดเราเป็นฝ่ายคุมบอลได้มากกว่า สำหรับเรามันจะกลายเป็นหายนะทันทีหากครองเกมไม่ได้ เมื่อเราทำได้จากนั้นก็พยายามไม่ให้เสียบอล และผ่านบอลให้แม่นยำ"

"ยูไนเต็ด ก็พยายามจะครองบอลไว้กับ (เนมานย่า) วิดิช ,(ริโอ) เฟอร์ดินานด์ และ (ไมเคิ่ล) คาร์ริค ที่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม พวกเขายังพยายามจะเปิดเกมสวนกลับเร็วโดยอาศัย โรนัลโด้ และ (เวย์น) รูนี่ย์ แต่เราสามารถคุมเกมได้อย่างยอดเยี่ยม"

"เราบอกพวกกองหลังว่าสิ่งสำคัญเมื่อเรากำลังเปิดเกมรุกในครึ่งหลังคือต้องไม่ปล่อย โรนัลโด้,รูนี่ย์,(คาร์ลอส) เตเวซ และ (ดีมิทาร์) เบอร์บาตอฟ ให้คลาดสายตาไปได้ และพวกเขาก็ทำหน้าที่ได้อย่างไม่บกพร่อง"

อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติสเปน ยังพูดถึงปรัชญาในการเล่นของขุนพล "เจ้าบุญทุ่ม" หลังจากยิงได้มากกว่า 150 ประตูจากทุกรายการในฤดูกาลนี้ว่า "ถ้าคุณได้บอล คุณก็ต้องเปิดเกมรุก และมันจะทำให้คุณมีโอกาสมากขึ้นที่จะชนะ เราไม่ใช่พวกขี้ขลาด เราไม่มีทางแสดงออกมาให้เห็นในการแข่งขันอย่างเด็ดขาด ไม่มีอะไรอันตรายมากไปกว่าการไม่ยอมเสี่ยง เราทำงานหนักหลายสิบชั่วโมงตลอดฤดูกาล และผมก็รู้ว่ามีผู้คนมากมายมีความสุข และนี่คือผลตอบแทนที่เราทุกคนได้รับ"

นอกจากนี้ กวาร์ดิโอล่า ที่เคยลงเล่นในลีกอิตาลี กับเบรสชา และโรม่า ในช่วงบั้นปลายชีวิตค้าแข้ง ยังขออุทิศตำแหน่งเจ้ายุโรปให้ เปาโล มัลดินี่ กัปตันทีมเอซี มิลาน ที่เตรียมจะปิดฉากชีวิตค้าแข้ง 24 ปีหลังจบฤดูกาลนี้ แต่ต้องเจอเหตุการณ์น่าผิดหวังที่มีแฟนบอลบางส่วนทำป้ายข้อความ และส่งเสียงโห่ ในการลงเตะนัดสุดท้าย ที่ซาน ซิโร่ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

"ผมคิดว่าคนแค่ 20-30 คน ไม่อาจทำลายความทรงจำในเกมสุดท้ายของเขา (ในซาน ซิโร่) ผมมีความสุขมากที่คว้าแชมป์ถ้วยนี้ได้ และรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะอุทิศให้กับนักเตะที่ยืนหยัดอย่างแข็งแกร่งมาตลอด 20 ปี ผมขออุทิศความสำเร็จนี้ให้กับวงการฟุตบอลอิตาลี และเปาโล มัลดินี่ ที่ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรเพราะเขาได้รับการยกย่องจากผู้คนทั่วยุโรปเสมอ"




........................................................................................................................................................................



ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

กิ๊กส์เลือกมองด้านบวกชี้ผีมีซีซั่นที่วิเศษแล้ว




ไรอัน กิ๊กส์ ปีกเลือดเวลส์ ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เผยแม้จะแพ้ บาร์เซโลน่า 0-2 พลาดป้องกันแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก วันพุธที่ผ่านมา แต่ความสำเร็จที่ทีมทำได้ อย่างการคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 3 ติดต่อกันเป็นรอบที่สอง นับว่าทีมมีฤดูกาลที่ยิ่งใหญ่มากแล้ว



ไรอัน กิ๊กส์ มิดฟิลด์จอมเก๋าของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แห่งลีกสูงสุดเมืองผู้ดี เลือกมองแง่มุมที่สว่างสดใสของทีม ว่า พวกเขามีฤดูกาลที่ประสบความสำเร็จแล้ว จากการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก , คาร์ลิ่ง คัพ รวมถึง สโมสรโลก แม้จะแพ้ บาร์เซโลน่า ไปแบบหมดรูป 0-2 ศึกชิงดำถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ โอลิมปิก สเตเดี้ยม, กรุงโรม, อิตาลี วันพุธที่ผ่านมา

ยูไนเต็ด เล่นรวม 66 นัดในซีซั่นนี้ และจบลงด้วยความพ่ายแพ้ โดย กิ๊กส์ ที่ได้เล่นแทน ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ที่ติดโทษแบน และไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง จนโดนเปลี่ยนตัวออกให้ พอล สโคลส์ มาเล่นแทน กล่าวว่า "นี่เป็นฤดูกาลที่วิเศษของเราแล้วหากคุณพิจารณาจากความสำเร็จของเรา ซึ่งรวมถึงการคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 3 ติดต่อกันด้วย"

"เราตกม้าตายตอนจบ ไม่มีทีมใดป้องกันแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ และมันก็เป็นแชมป์ที่คว้ามาครองได้ยากมากเสียด้วย เราคู่ควรกับการเข้ามาเล่นในรอบชิง แต่เราไม่คู่ควรที่จะชนะ บาร์เซโลน่า สมควรชนะ พวกเขาเป็นทีมที่ดี ถ้าพวกเขาขึ้นนำก่อน พวกเขาจะคุมเกมด้วยการครองบอลที่สุดยอดที่พวกเขาทำได้ราวกับมันเป็นเรื่องง่าย เรากลับมาสู่เกมไม่ได้หลังโดนยิงนำ ครึ่งหลังเราดีขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังเล่นไม่ได้อย่างที่ควรจะเป็น"

ปีหน้านัดชิงจะดวลแข้งกันที่ มาดริด ซึ่ง กิ๊กส์ เอามาเป็นเป้าหมายใหม่ของทีม "นั่นคือเป้าหมายของเรา ทีมที่ยิ่งใหญ่ต่างเคยพบกับความผิดหวังกันมาทั้งนั้น แต่พวกเขาจะกลับมาใหม่ และนั่นคือสิ่งที่เราจะพยายามทำ"




........................................................................................................................................................................



ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

มิลานปลดหนี้!ได้3พันล.ปล่อยกาก้า




"ปีศาจแดง-ดำ" เอซี มิลาน ตกเป็นข่าวใหญ่ พร้อมปล่อย กาก้า เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่ง ไปให้ทีมอื่น ถ้าหากมีใคร ยอมจ่าย 3.12 พันล้านบาท ซึ่งพวกเขาจะนำไปชดใช้หนี้ที่พอกมาจากฤดูกาลก่อน คาด ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ตัวเต็งชิงเก้าอี้บอสใหญ่ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด อาจรีบเดินเรื่องฉกเขาไปร่วมทีมก่อนใครเพื่อน



หนังสือพิมพ์ คอร์ริเอเล่ เดลโล่ สปอร์ต ของแดนมะกะโรนี ประโคมข่าว เอซี มิลาน ยักษใหญ่ในศึกกัลโช่ เซเรีย อา กำลังพยายามปลดหนี้ที่สะสมพอกพูนมากขึ้นจากฤดูกาลก่อน พร้อมขาย กาก้า ดาวเตะทีมชาติบราซิล ออกไปในราคาค่าตัว 65 ล้านยูโร (ราว 3.12 พันล้านบาท)

สื่อดังกล่าวระบุว่า ฟินอินเวสต์ บริษัทผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี่ ประธานสโมสร มิลาน และ นายกรัฐมนตรี เป็นเจ้าของนั้น ไม่ต้องการแบกรับภาระหนี้ 66.8 ล้านยูโร (ราว 3.21 พันล้านบาท) เอาไว้ ดังนั้นการขาย กาก้า ไป ก็จะช่วยลบหนี้ก้อนนี้ออกไปได้ทันที และ เปิดทางให้พวกเขาเริ่มต้นวางแผนสำหรับฤดูกาลหน้า

ถ้าเป็นจริง ข่าวนี้น่าจะทำให้ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ตัวเต็งอันดับ 1 ในการเลือกตั้งประธานสโมสรเรอัล มาดริด รีบดำเนินการเพื่อคว้าตัวเขาไปสู่ถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ยิ่งไปกว่านั้น "ปีศาจแดง-ดำ" มีตัวตายตัวแทนอย่าง โยอันน์ กูร์คุฟฟ์ อยู่แล้วด้วย ซึ่งหมายความว่า มิลาน จะไม่ยอมให้เขาย้ายไปอยู่กับ บอร์กโดซ์ ถาวร หลังจากหมดสัญญายืมตัว

ทั้งนี้ กาก้า เคยเกือบจะย้ายไปร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อเดือนมกราคม ก่อนจะมาล่มไป แต่ท่าทีที่ มิลาน ยินดีรับฟังข้อเสนอตอนนั้น ได้ส่งผลต่อความสัมพันธ์กับนักเตะ ในขณะที่ "ราชันชุดขาว" มีข่าวกับเขามาอย่างต่อเนื่อง หลังจาก ราม่อน กัลเดร่อน สัญญาว่าจะคว้าตัวเขาไป แต่ก็ล้มเหลวในการประกาศหาเสียงเลือกตั้ง เมื่อ 2 ปีก่อน




ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

เสือใต้จ๋อยสนิท!นอยเออร์เมินย้ายซบ




มานูเอล นอยเออร์ ผู้รักษาประตู ชาลเก้ 04 ยันไม่สนใจย้ายไปเล่นกับ บาเยิร์น มิวนิค หลังมีข่าว "เสือใต้" จ้องคว้าร่วมทีม ยันสุดแฮปปี้กับต้นสังกัด และหวังอยู่เฝ้าเสาจนครบสัญญา



มานูเอล นอยเออร์ นายทวาร "ราชันสีน้ำเงิน" ชาลเก้ 04 สโมสรแห่งศึกบุนเดสลีกา ออกมายืนยันเมื่อวันพุธที่ 27 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ว่า เขาไม่สนใจที่จะย้ายไปค้าแข้งกับ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค หลังจากที่มีรายงานว่ายอดทีมแห่งถิ่นอัลลิอันซ์ อารีน่า ต้องการคว้าตัวไปเฝ้าเสาในฤดูกาลหน้า


บาเยิร์น กำลังมองหานายทวารคนใหม่ หลังจากที่ มิชาเอล เรนซิ่ง โกลมือ 1 คนปัจจุบัน ทำผลงานน่าผิดหวังในซีซั่นนี้ และเล็งไปที่ นอยเออร์ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดจอมหนึบวัย 23 ปี ยืนยันว่ามีความสุขดีกับ ชาลเก้ และไม่สนใจที่จะย้ายทีมในช่วงซัมเมอร์นี้แต่อย่างใด


"สัญญาของผมกับ ชาลเก้ มีถึงปี 2012 และผมก็วางแผนที่จะอยู่ที่นี่อย่างน้อยจนครบสัญญา ผมไม่คิดที่จะย้ายจากเกลเซ่นเคียร์เช่นเพื่อไปร่วมทีม บาเยิร์น แม้ว่า บาเยิร์น มิวนิค เป็นทีมพิเศษสำหรับนักฟุตบอลทุกคนก็ตาม" นอยเออร์ กล่าว


การปฏิเสธของ นอยเออร์ ครั้งนี้ทำให้ บาเยิร์น ต้องมองหาผู้รักษาประตูคนใหม่ โดยมีรายงานว่าสนใจ เรเน่ อ๊าดเลอร์ นายทวาร ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น, คาร์ลอส กาเมนี่ โกล เอสปันญ่อล และ แซร์โจ โรเมโร จอมหนึบ อาแซด อัลคมาร์




ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

Tuesday, May 26, 2009

มอยส์เจ๋งทำสถิติซิวยอดกุนซือLMA3สมัย




เดวิด มอยส์ กุนซือเลือดสกอตต์ของเอฟเวอร์ตัน สร้างสถิติคว้ารางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมผู้จัดการทีมลีกอังกฤษ เป็นสมัยที่ 3 ได้เป็นคนแรก โดยโฮเวิร์ด วิลกินสัน ประธาน แอลเอ็มเอ กล่าวยกย่องเป็นกุนซือที่เก่งฉกาจทั้งที่อยู่ในสโมสรที่ไม่มีเงินทุนมากมาย แต่กลับนำทีมประสบความสำเร็จ



เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีมเอฟเวอร์ตัน สโมสรดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก กลายเป็นคนแรกที่คว้ารางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำปี 2009 จากสมาคมผู้จัดการทีมลีกอังกฤษ (แอลเอ็มเอ) เป็นสมัยที่ 3 หลังจากนำขุนพล "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ประสบความสำเร็จทั้งผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ รวมทั้งจบฤดูกาลในอันดับ 5 ได้สิทธิ์ไปเล่นในศึกยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ในฤดูกาลหน้า ทั้งที่มีเงินทุนไม่มากนัก

โฮเวิร์ด วิลกินสัน ประธานแอลเอ็มเอ กล่าวยกย่องผลงานของกุนซือชาวสกอตแลนด์ที่เคยได้รับรางวัลเมื่อปี 2003 และ 2005 หลังย้ายจากเปรสตัน นอร์ธ เอนด์ มาสู่ถิ่นกูดิสัน พาร์ค ในปี 2002 "นับตั้งแต่ที่ร่วมงานกับ เอฟเวอร์ตัน เดวิด ไม่ใช่แค่เปลี่ยนแปลงโชคชะตาของสโมสรเท่านั้น เขาได้สร้างฐานแฟนบอลขนาดใหญ่ขึ้นมา ซึ่งก็รวมถึงบรรดาเพื่อนร่วมอาชีพมากมายของเขาด้วย กับเงินทุนที่มีน้อยนิด เขาแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมา ด้วยความมีวินัย, ทุ่มเท และดึงความสามารถที่ดีที่สุดในตัวของนักเตะทุกคนออกมา"


ด้าน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้รับ 2 รางวัลคือ รางวัลเกียรติยศพิเศษจากการนำทัพ "ปีศาจแดง" ประสบความสำเร็จตั้งแต่เมื่อปีที่แล้วจนกระทั่งปีนี้ ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, แชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 18 และคาร์ลิ่ง คัพ รวมทั้งได้รับรางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีก จากคณะกรรมการจากธนาคารบาร์เคลย์ส สปอนเซอร์หลักของศึกพรีเมียร์ลีก

อย่างไรก็ตาม เฟอร์กูสัน ไม่สามารถมารับรางวัลได้ เนื่องจากต้องนำแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เดินทางไปทำศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ กับ บาร์เซโลน่า ที่สนามโอลิมปิก สเตเดี้ยม กรุงโรม ประเทศ ในคืนวันพุธที่ 27 พฤษภาคมนี้

นอกจากนี้ ดาร์เรน เฟอร์กูสัน ลูกชายของท่านเซอร์เฟอร์กี้ ได้รับรางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมของ ลีก วัน หลังจากนำ ปีเตอร์โบโร่ เลื่อนชั้นได้สำเร็จ ขณะเดียวกันมิค แม็คคาร์ธี่ นายใหญ่ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ได้รับรางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมของ แชมเปี้ยนชิพ หลังนำทีมคว้าแชมป์ฤดูกาลล่าสุด และผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมของลีก ทู ตกเป็นของ แอนดี้ สกอตต์ กุนซือเบรนท์ฟอร์ดที่พาทีมคว้าแชมป์




........................................................................................................................................................................



ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

เซดอร์ฟกระตุ้นแข้งมิลานบุกชนะวิโอล่า




คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ มิดฟิลด์มากประสบการณ์ของ เอซี มิลาน กระตุ้นเพื่อนร่วมทีมต้องงัดฟอร์มสุดยอดในการออกไปเยือน "ม่วงมหากาฬ" ฟิออเรนติน่า นัดปิดฤดูกาลในวันอาทิตย์นี้ เชื่อหากเล่นด้วยความทุ่มเท และช่วยเหลือกันคู่แข่งไม่มีทางทำอะไรได้แน่นอน



คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ ห้องเครื่องชาวฮอลแลนด์ของ เอซี มิลาน ยักษ์ใหญ่แห่งศึกกัลโช่ เซเรีย อา กระตุ้นเพื่อนร่วมทัพ "ปีศาจแดง-ดำ" ต้องบุกเอาชนะ ฟิออเรนติน่า ที่สนามอาร์เตมิโอ ฟรังคี่ เกมลีกนัดสุดท้าย วันอาทิตย์ที่ 31 พฤษภาคมนี้ให้ได้ เพื่อรั้งอันดับ 2 และคว้าสิทธิ์ไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยอัตโนมัติ

ในตอนนี้มิลาน รั้งอันดับ 2 โดยนำ ฟิออเรนติน่า ทีมอันดับ 4 แค่ 3 คะแนนเท่านั้น และหากพวกเขาแพ้เกิน 2 ลูกขึ้นไปจะถูกขุนพล "ม่วงมหากาฬ" แซงคว้าอันดับ 2 ทันที เนื่องจากผลงานการพบกันในลีกเหนือกว่า เพราะเกมแรก "ปีศาจแดง-ดำ" เอาชนะได้แค่ 1-0 เท่านั้น

จากเงื่อนไขดังกล่าวทำให้ เซดอร์ฟ ต้องรีบกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมทันที โดยกล่าวว่า "ถ้าเรามีความคิดที่จะช่วยเหลือซึ่งกันและกันในสนามเหมือนกับที่ ฟิออเรนติน่า แสดงให้เห็นในเกมล่าสุด เราคงจะชนะที่ ฟลอเรนซ์ ได้ มิลาน ชุดนี้คุ้นเคยกับการเล่นเกมนัดชิงชนะเลิศ และนี่ก็เป็นเกมนัดชิง และเราก็เคยลงเล่นมากกว่า ฟิออเรนติน่า"

"เราต้องสงบ และมีความเชื่อมั่น เราได้เปรียบเรื่องสภาพจิตใจนิดหน่อย พร้อมทั้งมีความแข็งแกร่ง และประสบการณ์ ถ้าเราเล่นช่วยเหลือกันด้วยกลุ่มนักเตะที่ยอดเยี่ยม ฟิออเรนติน่า คงไม่มีโอกาสมากนักในแมตช์นี้" อดีตดาวเตะ เรอัล มาดริด และ อินเตอร์ มิลาน ระบุ




ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

คอยล์ย้ำชัดขอพาเบิร์นลี่ย์ตะลุยพรีเมียร์




โอเว่น คอยล์ กุนซือ เบิร์นลี่ย์ ประกาศต่อหน้าสาวกของทีมให้ได้ยินอย่างชัดเจน จะอยู่รั้งบังเหียนคุมลูกทีมสู้ศึกหนักในการเอาตัวรอดบนเวที พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลหน้าแน่นอน รับภูมิใจเหมือนกันที่มีชื่อไปพัวพันเก้าอี้นายใหญ่ "ม้าลายเขียว-ขาว" กลาสโกว์ เซลติก แต่ขอทุ่มหยาดเหงื่อเพื่ออยู่กับสโมสรรักต่อไปดีกว่า



โอเว่น คอยล์ ผู้จัดการทีมชาวสกอตต์ ออกโรงยืนยันว่า เขาจะทำหน้าที่คุมทัพ เบิร์นลี่ย์ ลงสู้ศึกพรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลหน้าอย่างแน่นอน หลังเพิ่งสร้างประวัติศาสตร์พาทีมเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดครั้งแรกในรอบ 33 ปี แม้มีกระแสข่าวลือว่า กลาสโกว์ เซลติก ยอดทีมแดนวิสกี้ อยากดึงตัวไปร่วมงานแทนที่ กอร์ดอน สตรั๊คคั่น ที่เพิ่งอำลาตำแหน่งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

คอยล์ ประกาศเจตนาระหว่างร่วมขบวนแห่ฉลองการกลับคืนลีกสูงสุดของทีมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า " ผมรักที่จะอยู่ในสโมสรแห่งนี้ ทุกคนรู้ว่าผมทุ่มเททำงานอย่างสุดชีวิตให้ เบิร์นลี่ย์ ทุกวัน และนี่เป็นสิ่งที่ผมจะทำต่อไป มันย่อมเป็นเรื่องน่าปลื้มไม่น้อย เมื่อผู้คนต่างให้ความสำคัญกับชื่อของคุณ เพราะมันบอกเป็นนัยได้ว่า คุณกำลังทำงานของตัวเองได้ดี "

" คุณได้เห็นหัวข่าวเกี่ยวกับผมมาแล้วหลายครั้งเมื่อช่วงต้นปี ซึ่งผมตกเป็นข่าวคราวกับตำแหน่งงานว่างทั้งหลาย และผมก็บอกไปแล้วในตอนนั้นว่าไม่มีอะไรที่ต้องตอบคำถามเหล่านี้ แน่นอนว่าผมยังไม่ได้คุยกับใครหน้าไหนทั้งนั้น มันเป็นแค่เรื่องสมมุติขึ้นมา ผมหวังที่จะได้อยู่ที่นี่ในเดือนสิงหาคม แม้ว่าประธานสโมสรจะไม่มีความสุขกับสิ่งที่ผมทำมาตลอดก็ตาม " นายใหญ่แห่งถิ่น เทิร์ฟ มัวร์ กล่าวอย่างจริงจัง




........................................................................................................................................................................



ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

บัลเดสไม่หวั่นแนวรับยวบรับมือเกมรุกผี




บิคตอร์ บัลเดส นายทวาร บาร์เซโลน่า ไม่เครียด แม้ทีมมีปัญหาในแนวรับ ก่อนฟาดแข้งกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมนัดชิงดำ ศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก วันพุธนี้ เชื่อนักเตะที่จะได้ลงเล่นแทน ดาเนี่ยล อัลเวส และ เอริก อบิดัล จะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมแน่นอน


บิคตอร์ บัลเดส ผู้รักษาประตู บาร์เซโลน่า ยอดทีมของสเปน ไม่ได้รู้สึกกังวลกับการที่แนวรับของทีมมีปัญหา ก่อนลงทำศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังจากอังกฤษ ในวันพุธที่ 27 พฤษภาคม นี้แต่อย่างใด เพราะมั่นใจว่า นักเตะที่จะถูกส่งลงสนามแทนที่ ดาเนี่ยล อัลเวส และ เอริก อบิดัล สองแบ็กตัวเก่ง ซึ่งติดโทษแบนในเกมนัดนี้ จะทำผลงานได้เป็นอย่างดี และสามารถรับมือกับสองแนวรุก "ปีศาจแดง" อย่าง เวย์น รูนี่ย์ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้แน่นอน


มือกาววัย 27 ปี กล่าวว่า "ไม่นะ ผมไม่รู้สึกกระวนกระวายอะไรเลย พวกเราต้องเสียผู้เล่นคนสำคัญในแนวรับไป แต่เราก็มีนักเตะฝีเท้าเยี่ยมคนอื่นๆ ที่สามารถก้าวขึ้นมาแทนที่ได้ ผมได้เตรียมความพร้อมสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างในเกมรอบชิงชนะเลิศแล้ว"


"สิ่งที่สำคัญที่สุดเลยคือ คว้าแชมป์ให้ได้ ไม่ว่าใครก็ตามที่ถูกเลือกลงสนาม จะสามารถทำผลงานได้เป็นอย่างดีแน่นอน สำหรับพวกเราแล้ว นี่คือเกมที่สำคัญที่สุด เพราะอดีตก็คืออดีต และพวกเรามาอยู่ที่นี่ก็เพื่อชนะในวันพรุ่งนี้ (วันพุธ)" บัลเดส ตบท้าย






........................................................................................................................................................................



ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

เป๊ปพร้อมวัดกึ๋นเซอร์เกมชิงดำชปล.




โจเซฟ กวาร์ดิโอล่า กุนซือ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ยันไม่รู้สึกประหม่าที่จะต้องปะทะกึ๋นกับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือ "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกมนัดชิง แชมเปี้ยนส์ ลีก วันพุธนี้ รับประสบการณ์เป็นรองท่านเซอร์ก็จริง แต่ความมุ่งมั่นของเขาไม่เป็นสองรองใครทั้งนั้น


โจเซฟ กวาร์ดิโอล่า เทรนเนอร์คนหนุ่มของ บาร์เซโลน่า มหาอำนาจลูกหนังแห่งศึกลา ลีกา ยืนยัน ไม่ได้รู้สึกหวาดหวั่นในการเผชิญหน้ากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ ที่สนาม โอลิมปิก สเตเดี้ยม ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี วันพุธที่ 27 พฤษภาคมนี้ แม้จะต้องวัดฝีมือกับกุนซือจอมเก๋า อย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็ตาม


นายใหญ่วัย 38 ปี กล่าวว่า "แน่นอน เขา (เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน) มีประสบการณ์มากกว่าผม ไม่มีอะไรต้องสงสัย แต่ผมไม่รู้ว่า เรื่องนี้จะมีอิทธิพลในเกมนี้หรือเปล่า ผมดูเกมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลายนัด ผมรู้ว่า เราจะต้องเล่นกับพวกเขายังไง"


"วันก่อนผมได้อ่านบทสัมภาษณ์ของ เซอร์ อเล็กซ์ ซึ่งเขาบอกว่า ความกังวลจะทำให้คุณเล่นได้ดีขึ้น และผมก็ยอมรับในเรื่องนี้ บางครั้งความประหม่า หรือความกลัวทำให้คุณเล่น หรืออยู่ในฟอร์มที่ดีกว่าเดิม แต่ทีมมีความสงบ และพวกเขาก็เชื่อมั่นในสิ่งที่เราจำเป็นต้องทำ"


นอกจากนี้ "เป๊ป" ยอมรับว่า แมนฯ ยูไนเต็ด มีความสามารถที่ทีมของเขาขาดไปก็คือ การเล่นเกมรับที่แข็งแกร่ง โดยกล่าวว่า "แมนเชสเตอร์ เป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ ถ้าพวกเขาต้องเล่นเกมรับครึ่งชั่งโมงกับเรา พวกเขาก็สามารถทำได้อย่างสุดยอด เราไม่เคยชินกับเรื่องนี้ เรารู้สึกสบายๆ ที่จะไม่เน้นเกมรับ และไม่มีทีมไหนที่จะทำได้ใกล้เคียงกับเรา ด้วยความเคารพต่อ แมนเชสเตอร์ เราอาจจะเป็นทีมที่ดีกว่า"


"แน่นอนว่า พวกเขาเล่นเกมรับได้แข็งแกร่ง ถ้าพวกเขาเน้นตั้งรับก็ไม่มีปัญหา เพราะนั่นหมายความว่า คู่แข่งของพวกเขาจะสร้างสรรค์โอกาสได้มากมาย ผมไม่คิดว่า แมนเชสเตอร์ จะเล่นเกมรับ หรืออาศัยการเล่นสวนกลับ ถ้าเราเล่นได้ไม่ดี พวกเขาจะเปิดเกมรุกใส่เราหรืออย่างน้อยก็สร้างสรรค์โอกาสได้หลายครั้ง เราเป็นฝ่ายครองเกมมาตลอด 60 นัดในซีซั่นนี้ และเราจะพยายามที่จะรักษาสไตล์การเล่นแบบนี้ เพราะเราทำมาตลอดในช่วงที่ผ่านมา"


แม้จะขาดฟูลแบ็กทั้ง 2 ฝั่ง เนื่องจาก เอริก อบิดัล และ ดาเนี่ยล อัลเวส ติดโทษแบน ขณะที่ ราฟาเอล มาร์เกซ เซนเตอร์แบ็ก ยังมีปัญหาบาดเจ็บ แต่ข่าวดีก็คือ เธียร์รี่ อองรี และ อันเดรส อิเนียสต้า ฟิตสมบูรณ์ได้ลงเล่นในเกมสำคัญนี้แน่นอน


"เป๊ป" กล่าวว่า "ผมรู้ว่า ผมขาดนักเตะสำคัญไปหลายคน แต่นั่นไม่ใช่ข้อแก้ตัว วันพรุ่งนี้ (วันพุธ 27 พ.ค.) เราจะใช้ทีมชุดที่ดีที่สุด และพยายามเล่นในสไตล์ของ บาร์เซโลน่า มันเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เล่นให้ บาร์เซโลน่า และนั่นเป็นสิ่งที่เราจะพยายามทำ เราไม่สามารถเล่นเกมรับ 100 เปอร์เซ็นต์ เราจะเปิดเกมรุก และพยายามที่จะยิงประตูให้ได้มากที่สุด" อดีตกัปตันทีม บาร์ซ่า ยุค 90 ระบุ







........................................................................................................................................................................



ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

ดีเอโก้หวานยกยูเว่เป็นตัวเลือกแรก




ดีเอโก้ เพลย์เมกเกอร์ร่างเล็ก ยูเวนตุส หวานเอาใจต้นสังกัดใหม่ หลังยอมรับ "เบียงโคเนรี่" ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเขาแล้ว พร้อมแจงยังไม่ชัวร์ว่าจะสวมเสื้อเบอร์อะไร แต่หวังอยู่ลึกๆ ว่าในอนาคตข้างหน้าจะได้สวมเสื้อเบอร์ 10 เหมือนอย่างตอนที่เล่นให้กับ แวร์เดอร์ เบรเมน


ดีเอโก้ ว่าที่กองกลางตัวใหม่ ยูเวนตุส ยักษ์ใหญ่แห่งศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี โปรยหวานเรียกคะแนนนิยมล่วงหน้า โดยยอมรับว่า "ยูเว่" เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเขาแล้ว หลังจรดปากกาเซ็นสัญญา 5 ปี ย้ายจาก แวร์เดอร์ เบรเมน ทีมดังแห่งศึกบุนเดสลีกา มาค้าแข้งยังถิ่น โอลิมปิโก ดิ ตูริน ด้วยค่าตัว 24.5 ล้านยูโร (ประมาณ 1,225 ล้านบาท) ซึ่งจะมีผลในวันพุธที่ 1 กรกฎาคมนี้


ดีเอโก้ กล่าวว่า "ทำไมผมถึงเลือก ยูเวนตุส น่ะเหรอ? เพราะพวกเขาเป็น 1 ในทีมที่ดีที่สุดในโลก และแนวทางที่เราได้พูดคุยกันมาอย่างยาวนานสัก 2 ปีครึ่งเห็นจะได้ ผมเห็นอกเห็นใจ ยูเว่ เป็นพิเศษอยู่เสมอ มันเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผมแล้ว"


เมื่อถูกถามว่า จะใส่เสื้อเบอร์อะไรให้กับ ยูเวนตุส? อดีตดาวเตะ เบรเมน กล่าวว่า "ต้องรอดูกันเอาเอง (อเลสซานโดร) เดล ปิเอโร่ (สวมเสื้อเบอร์ 10) มีประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่กับสโมสร เขาเป็นต้นแบบของโลก และผมเองก็มั่นใจว่า เสื้อเบอร์ 10 ตกอยู่กับบุคคลที่เหมาะสมอย่างสุดๆ แล้วในเวลานี้ มันไม่มีปัญหาเลยสักนิด ผมจะเลือกเสื้อเบอร์อื่นแทน และเมื่อมันพอมีทางเป็นไปได้ ผมจะสวมเสื้อเบอร์ 10 เอง"


พร้อมกันนั้น จอมทัพร่างเล็ก ยังได้กล่าวถึงเกมลูกหนังแดนมะกะโรนีด้วยว่า "มันมีการแข่งขันสูง ทีมแต่ละทีมเล่นกันอย่างรัดกุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมรับ มันเป็นลีกที่ยาก แต่ทีมอย่าง ยูเว่ มีโอกาสเก็บชัยชนะอยู่ทุกเมื่อ ส่วนข้อความที่ผมอยากจะฝากถึงแฟนบอลนั้น? มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสโมสรอย่าง ยูเว่ และผมหวังว่าจะทำให้พวกเขาสนุกกันสุดๆ"






ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

แอชลี่ย์ขอโทษแฟนสาลิกาดงหลังทีมตกชั้น




ไมค์ แอชลี่ย์ บิ๊กบอส "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ทำใจได้แล้ว ก่อนจะออกมากล่าวขอโทษแฟนบอลที่ไม่สามารถช่วยทีมให้อยู่รอดในลีกสูงสุดได้ พร้อมยอมรับ การดึง อลัน เชียเรอร์ เข้ามาคุมทีม เป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดเท่าที่เคยทำมา



ไมค์ แอชลี่ย์ ประธานสโมสร นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ทีมน้องใหม่แห่งศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ออกมากล่าวขอโทษแฟนบอล "สาลิกาดง" หลังไม่สามารถช่วยทีมให้อยู่รอดปลอดภัยใน พรีเมียร์ลีก ยอมรับเป็นความรู้สึกที่เจ็บปวดจนไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูดได้จริงๆ

ขาใหญ่แห่งถิ่น เซนต์ เจมส์ พาร์ค กล่าวว่า "การเห็น นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ตกจาก พรีเมียร์ลีก เป็นหายนะของเราทุกคน ผมยอมรับว่าทำผิดพลาดในช่วงนี้ และต้นฤดูกาล ผมเสียใจสำหรับเรื่องทั้งหมด ผมอยากพูดคำว่าเสียใจกับแฟนบอลที่แสนยอดเยี่ยมของเรา ซึ่งมีเป็นพันคนที่ออกจากบ้าน และเดินทางไปทั่วประเทศ และคอยให้การสนับสนุนทีมมาตลอด"

"ผมก็ต้องกล่าวคำว่าเสียใจกับการทำงานหนักของเหล่าสตาฟฟ์โค้ชด้วย กับการทุ่มเทมาตลอดทั้งปี การนำ อลัน เชียเรอร์ กลับมาสู่ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดที่ผมเคยทำมา อลัน และทีมสตาฟฟ์ทั้งหมดทุ่มเท และพยายามช่วยเราในช่วงเวลาสั้นๆ ที่พวกเขามี ตอนนี้มีการพูดคุยกันตลอดระหว่างเรา เกี่ยวกับเรื่องที่ว่าเราจะสามารถนำสโมสรก้าวไปข้างหน้าอีกครั้งได้อย่างไร" แอชลี่ย์ กล่าว




........................................................................................................................................................................



ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

บุสเกตส์ลั่นทุ่มเทเต็มที่หากได้บู๊ชิงดำชปล.




เซร์คิโอ บุสเกตส์ มิดฟิลด์ดาวโรจน์ บาร์เซโลน่า ประกาศก้อง หาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ มอบโอกาสลงเล่นตัวจริง เกมนัดชิง แชมเปี้ยนส์ ลีก พบ แมนฯ ยูไนเต็ด วันพุธนี้ จะทุ่มเทสุดชีวิต เพื่อตอบแทนความไว้วางใจ แต่รับยังไม่ชัวร์จะมีโอกาสได้สัมผัสสนามหรือเปล่า



เซร์คิโอ บุสเกตส์ กองกลางดาวรุ่งของ บาร์เซโลน่า ทีมมหาอำนาจลูกหนังแห่งศึกลา ลีกา มั่นใจ หากได้รับโอกาสจาก โจเซฟ กวาร์ดิโอล่า เทรนเนอร์ ให้ลงสนามเป็นตัวจริงพบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ ที่สนาม โอลิมปิก สเตเดี้ยม วันพุธที่ 27 พ.ค.นี้ เขาจะทำผลงานได้ดีแน่นอน

จากการที่ บาร์ซ่า มีปัญหาเกมรับ เนื่องจากนักเตะได้รับบาดเจ็บ และติดโทษแบน ทำให้มิดฟิลด์วัย 20 ปี มีสิทธิ์ที่จะได้ลงเล่นเป็น 11 ตัวจริง ถ้าหาก ยาย่า ตูเร่ ถูกจับไปเล่นในตำแหน่งกองหลังตัวกลาง โดยในช่วงการฝึกซ้อมที่ผ่านมา "เป๊ป" จับ บุสเกตส์ เล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรับ อย่างไรก็ตาม นักเตะเองก็ยังไม่แน่ใจว่าจะได้รับโอกาสในครั้งนี้หรือเปล่า

มิดฟิลด์เลือดกระทิง กล่าวว่า "ผมไม่รู้ว่า ผมจะได้ลงเล่นในเกมนัดชิงชนะเลิศที่โรม หรือเปล่า มันขึ้นอยู่กับโค้ช ซึ่งเขาจะประกาศชื่อนักเตะที่จะได้ลงเล่นในนาทีสุดท้าย ผมโชว์ฟอร์มได้ดีในช่วงฝึกซ้อม แต่การตัดสินใจขั้นสุดท้ายมันไม่ได้อยู่ในมือผม ในกรณีนี้ถ้า กวาร์ดิโอล่า บอกให้ผมลงเล่น ผมจะทำผลงานให้ดีที่สุดไม่ให้เขาผิดหวัง และตอบแทนความเชื่อมั่นของเขา"





........................................................................................................................................................................



ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

เมสซี่สวมสตั๊ดใหม่อาดิดาสบู๊ผีแดงนัดชิงชปล.




ลิโอเนล เมสซี่ หัวหอกทีมชาติอาร์เจนตินา กระดี๊กระด๊าที่จะได้สวมสตั๊ดใหม่ของ อาดิดาส รุ่น "เอฟ50 ไอ" เป็นคนแรก ในการนำ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ลงเตะนัดชิง แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วันพุธนี้ ยอมรับเป็นรองเท้าที่นุ่มเบาสบายเท้า และทำให้เขาแสดงศักยภาพในการเล่นได้มากกว่าเดิม



ลิโอเนล เมสซี่ กองหน้าพรสวรรค์สูงของ บาร์เซโลน่า มหาอำนาจลูกหนังแห่งศึกลา ลีกา เตรียมสวมรองเท้าสตั๊ดใหม่ของ อาดิดาส รุ่น "เอฟ50ไอ" (F50i) ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนามโอลิมปิก สเตเดี้ยม กรุงโรม ประเทศอิตาลี ในวันพุธที่ 27 พฤษภาคมนี้

สตาร์ทีมชาติอาร์เจนตินา ให้ความเห็นกับการได้ใส่สตั๊ดคู่ใหม่ว่า "ผมไม่เคยรู้สึกดีกับการใส่สตั๊ดคู่ใหม่แบบนี้เลยจริงๆ หนังของรองเท้ารุ่นนี้มันนุ่มสบายมากๆ ผมสามารถแสดงศักยภาพได้เต็มที่ มันทำให้ผมมีการสัมผัสบอลที่สมบูรณ์แบบ แถมสีสันยังโดนใจด้วย"

สำหรับวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตรองเท้าสตั๊ดรุ่นนี้ เป็นวัตถุดิบที่สามารถยืดหยุ่นได้ โดยการสังเคราะห์ขึ้นมาและกันน้ำได้ดี รวมทั้งยังสามารถปรับให้เข้ากับเท้าได้อย่างดีเยี่ยม โดย เมสซี่ จะเป็นคนแรกที่สวมรองเท้าสตั๊ดรุ่นใหม่ของ อาดิดาส อย่างเป็นทางการ และจากนั้นในวันที่ 6 มิ.ย. เกมฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก บรรดานักเตะที่มีสัญญาสปอนเซอร์กับ อาดิดาส จะสวมสตั๊ดรุ่นนี้ลงสนามรับใช้บ้านเกิดของแต่ละคน




........................................................................................................................................................................



ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

แบล็คเวลล์ยังลังเลลาดาบคู่




เควิน แบล็คเวลล์ กุนซือทีม "ดาบคู่" เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ยังไม่ตัดสินอนาคตของตัวเองทันที หลังจากอกหักซ้ำ 2 กลายเป็นผู้แพ้ในเกมชิงตั๋วพรีเมียร์ลีก อีกครั้ง เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รับใจหนึ่งก็อยากจะหันหลังกลับไปทบทวนเรื่องต่างๆ แต่อีกใจก็อยากคุมทีมต่อให้นานที่สุด พร้อมบ่นสุดผิดหวัง ไมค์ ดีน สิงห์เชิ้ตดำ ตาถั่วไม่ยอมให้ลูกโทษถึง 2 ครั้งในเกมนี้



เควิน แบล็คเวลล์ ผู้จัดการทีม เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด สโมสรอันดับ 3 ในศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ยอมรับว่ากำลังพิจารณาอนาคตของตัวเอง หลังสุดผิดหวังที่ทีมแพ้ เบิร์นลี่ย์ หวุดหวิด 0-1 ในเกมเพลย์ออฟ รอบชิงชนะเลิศ ที่สนาม นิว เวมบลีย์ เมื่อวันจันทร์ที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้หมดโอกาสขึ้นมาเล่น พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลหน้าอย่างน่าเสียดาย

กุนซือที่เคยโดนเด้งออกจากตำแหน่ง จากการพา ลีดส์ ยูไนเต็ด แพ้ วัตฟอร์ด ในรอบชิง เกมเพลย์ออฟ เมื่อปี 2006 พูดว่า " ผมจะมีเรื่องให้คิด ผมรู้ปัญหาดี และจะรับฟังความเห็นส่วนตัว ที่สโมสรแห่งนี้มีงานที่ต้องปรับปรุงต่อไป และบางทีมันต้องมีใครบางคนที่แตกต่างออกไปเข้ามาจัดการ ผมจะเดินจากไป แล้วครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ แต่ผมก็ยังคิดว่าจะอยู่กับสโมสรให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เช่นเดียวกัน "

" ผมเคยอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มาก่อน ผมรู้ปัญหาดี การดึงสโมสรขึ้นมาหลังจากนี้มันเป็นเรื่องยาก มันเป็นสัญชาติญาณของความกล้า ผมอยากตัดสินใจด้วยตัวเองมากกว่าจะให้ใครมาตัดสิน แต่ผมรู้ว่ายังไงก็ต้องมีการตัดสินใจในเรื่องเหล่านี้แน่ในวันข้างหน้า ตอนนี้นักเตะหลายคนจะต้องออกจากสโมสร โครงสร้างค่าเหนื่องของทีมต้องเปลี่ยนแปลง สโมสรแห่งนี้มั่นคงกว่าเมื่อครั้งที่ ลีดส์ เคยเป็น แต่มันเป็นงานหนักที่ต้องปรับปรุงขนานใหญ่ และอาจต้องใช้เวลาเพื่อเปลี่ยนแปลงอยู่บ้าง "

แม้ เทรนเนอร์ "ดาบคู่" จะปิดปากเงียบถึงการตัดสินใจในอนาคต แต่เขาก็ไม่อาจปิดบังความผิดหวังที่ต้องเห็น ไมค์ ดีน ผู้ตัดสินบอกปัดให้จุดโทษลูกทีมถึง 2 ครั้ง " ผมผิดหวังจริงๆ นั่นเป็นจุดเปลี่ยนที่เราต้องการ แต่พวกเราก็ไม่ได้ ตอนนี้ เราต้องเริ่มต้นใหม่ทั้งหมดอีกครั้ง นี่ไม่ใช่สถานที่ที่จะมาแล้วผิดหวัง "

อย่างไรก็ดี แบล็คเวลล์ แสดงความมีน้ำใจนักกีฬา ด้วยการชื่นชมลูกทีมของ โอเว่น คอยล์ ที่พาทีมกลับขึ้นไปยังลีกสูงสุดได้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 1976 เป็นต้นมา " คุณต้องก้มหน้ารับ แล้วเดินต่อไป ผมเคยแสดงความยินดีกับ เอเดรียน บูธรอยด์ และ วัตฟอร์ด เมื่อครั้งก่อน และผมก็ขอดีใจกับ โอเว่น คอยล์ และ เบิร์นลี่ย์ ในวันนี้ มันเป็นวันของพวกเขา ไม่ใช่ของเรา ผมบ่นอะไรไม่ได้หรอก บรรดานักเตะหนุ่มของเราสู้อย่างเต็มที่แล้ว แต่นี่ไม่ใช่วันของเรา "




ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

เจ้าของเซลติกสรรเสริญส่งท้ายสตรั๊คคั่น




เดอร์ม็อต เดสมอนด์ บิ๊กบอส "ม้าลายเขียว-ขาว" กลาสโกว์ เซลติก ออกโรงยกย่อง กอร์ดอน สตรั๊คคั่น กุนซือคนเก่งที่เพิ่งลาออกไปเป็นการส่งท้าย แม้ว่าจะชวดคว้าแชมป์ลีกแดนขี้เมาสมัย 4 ติดต่อกัน โดยชื่นชมการที่ช่วยให้ทีมพัฒนาไปมากทั้งผลงานในสนาม และด้านการเงิน



เดอร์ม็อต เดสมอนด์ เจ้าของสโมสร กลาสโกว์ เซลติก ยักษ์ใหญ่ศึกสกอติชพรีเมียร์ลีก ออกมากล่าวขอบคุณ กอร์ดอน สตรั๊คคั่น ที่เพิ่งประกาศลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังจากพลาดการป้องกันแชมป์ลีกฤดูกาลนี้ให้กับ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส คู่ปรับร่วมเมือง แม้ว่าจะทำผลงานได้ดีตลอด 4 ปีที่เข้ารับงานในถิ่นเซลติก พาร์ค ก็ตาม

นอกจากจะสามารถพาทีมคว้าแชมป์ลีกได้ถึง 3 สมัยแล้ว การใช้จ่ายค่าตัวนักเตะในสมัยของ สตรั๊คคั่น ยังใช้เงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทำงานอย่างหนักเพื่อตัดหนี้และค่าใช้จ่ายของทีม จนได้รับคำชมจากเจ้าของสโมสร โดย เดสมอนด์ เผยว่า " กอร์ดอน ออกจากสโมสรนี้ไป โดยทำให้เราเป็นทีมที่ดีกว่าเดิม รวมทั้งในส่วนของการเงินด้วย โดยส่วนตัวแล้ว ผมชื่นชมกับผลงานของเขาอย่างมาก ในการพัฒนาสโมสรที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้ "

ด้าน จอห์น รีด ประธานสโมสร "ม้าลายเขียว-ขาว" ก็แสดงความชื่นชมในตัวอดีตกุนซือเช่นกัน " กอร์ดอน มีความมุ่งมั่นและความเป็นมืออาชีพที่เต็มเปี่ยม ตอนนี้เราตั้งใจที่จะแต่งตั้งผู้จัดการทีมคนใหม่ให้เร็วที่สุด โดยมีเป้าหมายในการกลับมาเป็นแชมป์ลีกซึ่งเราคว้ามาครองได้ตลอดในช่วงหลังๆ มันไม่มีอะไรที่น้อยเกินไปสำหรับแฟนบอลของเรา ซึ่งผมอยากขอบคุณสำหรับการสนับสนุนของพวกเขา ที่แสดงมาทั้งฤดูกาลมาในที่นี้ "




ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

มอยส์ชูกัปตันฟิลสุดมุ่งมั่นพาทอฟฟี่ไปโลด




เดวิด มอยส์ กุนซือ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน เชิดชู ฟิล เนวิลล์ กัปตันทีมจอมเก๋า ที่รับบทผู้นำของทีมในฤดูกาลนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยมีความมุ่งมั่นสูงสุดเป็นแบบอย่างให้เพื่อนร่วมทีม และเชื่อว่าจะมีส่วนสำคัญในนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ กับ เชลซี ในวันเสาร์นี้



เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีมคนเก่งของ เอฟเวอร์ตัน ในศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ยกย่อง ฟิล เนวิลล์ กองหลังสารพัดประโยชน์ของทีม ที่มีความมุ่งมั่นอย่างสูง จนเป็นแรงกระตุ้นให้ทีมสามารถโชว์ผลงานสุดยอดในฤดูกาลนี้ โดยคว้าอันดับ 5 ในลีก และก้าวเข้าไปชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ได้อีกครั้งนับตั้งแต่ปี 1995

กุนซือชาวสกอตต์ เห็นว่าอดีตดาวเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเป็นนักเตะที่มีส่วนสำคัญในรอบชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ กับเชลซี ในวันเสาร์นี้ และมีบุคลิกของผู้ชนะอยู่ในตัว ซึ่งได้รับมาในสมัยที่อยู่กับทีมเก่า " ผมต้องให้ความดีความชอบแก่ ฟิล เขาเป็นผู้นำทีมที่ดีมาก และมาจากสโมสรที่มีความกระหายชัยชนะ เขาเข้าใจว่าเขาต้องทำอะไร และบางครั้งมันก็ต้องใช้เวลาสำหรับผู้คนที่จะมองเห็นว่าเขามีประโยชน์มากแค่ไหน "

" ผมสามารถเห็นได้ถึงงานของเขาทั้งใน และนอกสนาม เขาเตรียมพร้อมมาสำหรับทุกเกม ทุกครั้งที่เขาลงเล่นมันจะเหมือนกับนัดชิงชนะเลิศ ซึ่งบอกได้หลายอย่างเกี่ยวกับเขา ซึ่งในขณะเดียวกันเขาก็ไม่ปล่อยให้นักเตะคนอื่นๆเฉื่อยชาลง เขาจะบอกให้ทุกคนรู้อยู่เสมอ ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณเห็นได้จากสโมสรที่เขาจากมา ซึ่งเป็นที่ๆยอดเยี่ยมมากในเรื่องนี้ "

สำหรับการจัดทีมลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศวันเสาร์นี้ มอยส์ ยอมรับว่าต้องเจอกับปัญหาปวดหัวว่าจะส่งใครลงเล่นในนัดสำคัญนี้ " มันมีการเปลี่ยนแปลงและทางเลือกมากมายสำหรับทีม ผมจะพิจารณามัน และเก็บมันไว้กับเราจนกว่าจะถึงวันนั้น เราจะไม่ทำอะไรพิเศษกว่าเกมทั่วไป แต่งานของผมคือการทำให้นักเตะผ่อนคลายและทำให้พวกเขาทำได้อย่างที่ทำมาทุกสัปดาห์ เราเคารพเชลซี และพวกเขาเป็นตัวเต็ง แต่เราก็เสมอกับพวกเขามา 2 ครั้งในฤดูกาลนี้ และทำได้ดีมากในการเจอกับพวกเขา ดังนั้นเราคิดว่าเราน่าจะทำมันได้อีก "




........................................................................................................................................................................



ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

โลติโต้ยังไม่ฟันธงอนาคตรอสซี่




เคลาดิโอ โลติโต้ บิ๊กบอส "อินทรีฟ้า-ขาว" ลาซิโอ ยังไม่ให้ความเห็นเรื่องอนาคตของ เดลิโอ รอสซี่ กุนซือของทีม เพราะแม้จะทำผลงานได้ดีในซีซั่นนี้ นำทีมคว้าแชมป์โคปปา อิตาเลีย แต่ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคตก็ได้



เคลาดิโอ โลติโต้ ประธานสโมสร ลาซิโอ ทีมดังในศึกกัลโช่ เซเรีย อา ยังไม่ยืนยันอนาคตของ เดลิโอ รอสซี่ เทรนเนอร์มากประสบการณ์ เพราะแม้จะนำทัพ "อินทรีฟ้า-ขาว" ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์โคปปา อิตาเลีย ในฤดูกาลนี้ได้ แต่ยังมีปัจจัยมากมายที่อาจจะทำให้ทีมต้องมีการเปลี่ยนแปลง

บิ๊กบอส "เบียงโคเชเลสเต้" กล่าวว่า "ไม่มีอะไรแน่นอนในวันพรุ่งนี้ มันเร็วเกินไปที่จะตอบคำถามครอบคลุมแบบนี้ได้ โครงการของทีม ต้องมีการประเมิน และใช้เวลาเพื่อให้แผนงานสมบูรณ์ ผมต้องเข้าใจว่าถ้าสโมสรสามารถประสบความสำเร็จในเงื่อนไขบางอย่างที่ถูกร้องขอ ยกตัวอย่างการขายนักเตะบางคน นี่ไม่ใช่เรื่องรองเลย มันไม่ใช่ปัญหาที่จะส่งต่อจากวันนี้ไปวันพรุ่งนี้ได้"

ส่วนเรื่องอนาคตของ รอสซี่ นั้น ขาใหญ่แห่งถิ่น โอลิมปิก สเตเดี้ยม ให้ความเห็นว่า "โค้ชของเราพิสูจน์ให้เห็นถึงเป็นมืออาชีพที่ยอดเยี่ยมแล้ว ตอนนี้เราต้องเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง พร้อมกับแผนการใหม่ และพิจารณาเงื่อนไขทุกอย่างเพื่อความสำเร็จ"




ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

Sunday, May 24, 2009

เฮียมูยันอยู่คุมงูใหญ่99.99%




โชเซ่ มูรินโญ่ โค้ช "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน ประกาศก้อง มีโอกาส 99.99 เปอร์เซ็นต์ ที่จะอยู่ทำหน้าที่นายใหญ่ในถิ่น จูเซ็ปเป้ เมอัซซ่า ต่อไปในฤดูกาลหน้า รับ พอใจกับความมุ่งมั่น และพัฒนาการของทีม ที่ต้องการประสบความสำเร็จต่อไปเรื่อยๆ



โชเซ่ มูรินโญ่ เทรนเนอร์ชาวโปรตุเกสของ อินเตอร์ มิลาน แชมป์กัลโช่ เซเรีย อา 4 สมัยหลังสุด ยืนยันเสียงแข็งว่า ยังมีความสุขกับการกุมบังเหียนในถิ่นจูเซ็ปเป้ เมอัซซ่า และหากฟ้าไม่ผ่ากลางสันแสกๆ เขาจะทำหน้าที่นายใหญ่ทัพ "เนรัซซูรี่" ต่อไปในฤดูกาลหน้า

อดีตกุนซือ เชลซี และ เอฟซี ปอร์โต้ ให้ความเห็นถึงเรื่องนี้ว่า "โอกาสที่ผมจะอยู่กับ อินเตอร์ ยังคงเหมือนเดิม การย้ายทีมมีโอกาสแค่ 0.01 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่ตัวเลขเท่าไหร่ไม่สำคัญกับผม นั่นหมายความว่า ผมอยู่ใกล้ อินเตอร์ มากกว่า เรอัล ผมมีความสุขกับความพยายามของสโมสร ที่ต้องการพัฒนาทีม และขยายช่วงเวลาที่ดีของเราออกไปอีก"

"ผมขอย้ำว่าผมอยู่ใกล้กับ อินเตอร์ มากกว่า มาดริด ผมพอใจมากที่ได้อยู่ที่นี่ และถ้าผมพูดว่า 51 เปอร์เซนต์ มันคงจะไม่ทำให้เกิดความแตกต่างอะไร แต่ยังไงๆ มาดริด คือข้อเสนอที่น่าสนใจ ที่ทำให้ผมต้องคิดทบทวน ผมอาจจะโกหก และทำตัวเป็นพวกหน้าไหว้หลังหลอก แต่นั่นไม่ใช่สไตล์ของผม แน่นอนว่า มันทำให้เกิดปัญหากับสื่ออิตาเลียน" มูรินโญ่ ระบุ

สื่อสแปนิช รายงานข่าวเกี่ยวกับ มูรินโญ่ โดยลงรายละเอียดสัญญาที่เขาเรียกร้องจาก มาดริด ซึ่งมีเงื่อนไขเด่นๆ 5 ข้อ โดย มูรินโญ่ บอกว่า "ไม่เป็นความจริง ผมไม่ได้เตรียมตัวจะหย่ากับ อินเตอร์ ประธานโมรัตติ เองรู้ว่าความจริงคืออะไร ผมมีสัญญาถึงปี 2011 และผมแจ้งความคืบหน้าทุกอย่างให้เขา"

ส่วนเรื่องที่โค้ชคนไหนจะได้เข้ามาเป็นกุนซือคนใหม่ของ เรอัล ซึ่งคงจะมีการแต่งตั้งหลังจากมีการเลือกตั้งประธานสโมสรคนใหม่ นั้น มูรินโญ่ เผยว่า "ใครก็ตามที่ถูกตั้งให้เป็นโค้ช เรอัล คงจะโชคดีมาก เพราะพวกเขาไม่ใช่ตัวเลือกอันดับแรก เท่าที่ผมรู้พวกเขามีรายชื่อโค้ช 4 คน และทุกคนก็ปฏิเสธไปหมดแล้ว"




ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

เวนเกอร์ฉุนวัลค็อตต์อาจไม่ได้พักช่วงซัมเมอร์




อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมอาร์เซน่อล ยัน ไม่ต้องการเห็น ธีโอ วัลค็อตต์ เล่นให้ทีมชาติ 2 ชุดช่วงซัมเมอร์ หลังมีชื่อในทีมชาติชุดใหญ่ ที่จะคัดบอลโลก 2 นัดเดือนหน้า และยังมีแววโดนเรียกไปช่วยทีมชุดเล็ก ลุยยูโร รุ่นยู-21 ปี ที่ สวีเดน ช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน



อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีม "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ระเบิดโทสะใส่ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ หลังจากมีแววว่า ธีโอ วัลค็อตต์ หัวหอกความเร็วสูง มีสิทธิเหนื่อยรากเลือดช่วงซัมเมอร์ เมื่อมีชื่อติดทีมชาติชุดใหญ่ นัดเตรียมทำศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก ต้นเดือน มิ.ย. นี้ และยังมีสิทธิอยู่ในทีมสิงโตน้อย ไปเล่นฟุตบอลยูโรรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ที่ สวีเดน อีกด้วย

ฟาบิโอ คาเปลโล่ เรียก วัลค็อตต์ ติดทีมชาติชุดใหญ่ ทำศึกคัดบอลโลก โซนยุโรป กับ คาซัคสถาน และ อันดอร์ร่า วันที่ 6 และ 10 มิถุนายน ซึ่ง เวนเกอร์ อาจังพออนุโลม แต่ประเด็นปัญหาอยู่ที่มีความเป็นไปได้ที่ สจ๊วร์ต เพียร์ซ จะเรียก ลูกศิษย์เอก ไปลุย สวีเดน ที่ทีมสิงโตน้อย จะประเดิมสนามกับ ฟินแลนด์ วันที่ 15 มิ.ย. นี้ ซึ่ง เวนเกอร์ ค้านมาตั้งแต่ต้น เนื่องจากซีซั่นนี้ วัลค็อตต์ มีปัญหาบาดเจ็บรบกวน และเขาอยากให้นักเตะได้มีเวลาพัก

ต่อคำถามที่ว่า คิดยังไงกับการที่ วัลค็อตต์ มีโอกาสเล่นให้ทีมชาติ 2 ระดับ เวนเกอร์ กล่าวว่า "ความรู้สึกของผมคือ ผมไม่เห็นด้วย ผมบอกให้ เอฟเอ รับทราบแล้วว่า เขาไม่ควรได้เล่นให้ทีมชาติ 2 ชุดระหว่างช่วงพักผ่อน มันยากที่เราจะยอมรับได้ แต่กฎมันเข้าข้างสมาคมฯ และเราทำอะไรไม่ได้"

"มันไม่มีเหตุผลเลยที่เขาจะเล่นให้ทั้งทีมชาติชุดใหญ่ และ ยู-21 ในช่วงพักผ่อน ฟุตบอลยูโรจะสิ้นสุดวันที่ 29 มิ.ย. ขณะที่เราจะเข้าค่ายเก็บตัวกันวันที่ 6 ก.ค. ผมคุยกับโค้ชทั้งสองคนแล้ว คาเปลโล่ ดูจะเข้าใจอะไรดี ส่วน เพียร์ซ ไม่ใช่" เวนเกอร์ กล่าว พลางย้ำว่า ดีที่สุดสำหรับนักเตะคือ เล่นชุดใดชุดหนึ่ง ซึ่งควรเป็นทีมชุดใหญ่

"ผมไม่มีปัญหาเลย (เล่นคัดบอลโลก) มันเป็นโปรแกรมของ ฟีฟ่า อยู่แล้ว ปัญหาก็คือ คุณสามารถใช้งานนักเตะคนเดียวเล่นทีมชาติ 2 ชุดในช่วงวันหยุดหรือไม่ ? ผมไม่ได้อยากให้ ธีโอ เลิกเล่นให้ทีมชุดยู-21 แต่ผมคิดว่าในช่วงหยุดพักผ่อนแบบนี้ เขาควรเล่นให้ทีมเดียว เขาอยากเล่น นักเตะอยากเล่นอยู่แล้ว อันนี้ผมเข้าใจดี" เวนเกอร์ กล่าว




........................................................................................................................................................................



ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

เซงก้ายันอำลาคาตาเนียหลังจบซีซั่น




วอลเตอร์ เซงก้า กุนซือ คาตาเนีย ยืนยัน วางมือจากการกุมบังเหียนต้นสังกัดหลังจบฤดูกาลนี้ ยอมรับต้องการอำลาทีมในขณะที่ทุกอย่างกำลังอยู่ในระดับสูง และหวังว่าสโมสรจะจดจำสิ่งดีๆ ที่เขาได้สร้างเอาไว้ตลอดไป



วอลเตอร์ เซงก้า เทรนเนอร์ คาตาเนีย ทีมในศึกกัลโช่ เซเรีย อา ประกาศชัดเจนว่า จะขออำลาถิ่น อันเจโล่ มัสซิมิโน่ หลังจบฤดูกาลนี้ โดยให้เหตุผลว่า ต้องการยุติทุกสิ่งทุกอย่างขณะที่ทีมอยู่ในช่วงเวลาที่ดีที่สุด พร้อมยันยืนไม่เคยติดต่อกับสโมสรอื่นแม้แต่ครั้งเดียว

คาตาเนีย โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมทุบ นาโปลี 3-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตอนนี้มี 43 คะแนน ซึ่งเป็นสถิติใหม่ของสโมสรของการเล่นใน เซเรีย อา แม้จะทำผลงานได้ดี แต่ เซงก้า กลับออกมายืนยันว่า เขาจะขอลาออกจากตำแหน่งแน่นอน

อดีตนายทวาร อินเตอร์ มิลาน และทีมชาติอิตาลี กล่าวว่า "ผมขอพูดอย่างสบายๆ และมีสติว่า นี่คือเกมในบ้านนัดสุดท้ายของผมกับ คาตาเนีย ผมจะอำลาสโมสรซึ่งเป็นที่ที่ผมมีความสุข และมันเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก บางครั้งมีหลายสิ่งในชีวิตเราที่จบลงตามธรรมชาติ และมันเป็นเรื่องดีที่จะยุติทุกอย่างในระดับสูง ผมไม่เคยติดต่อกับสโมสรอื่น แต่หวังว่า คาตาเนีย จะมีความทรงจำดีๆ เกี่ยวกับผมตลอดไป"

ทั้งนี้ เซงก้า ตกเป็นข่าวจะย้ายไปรับงานกับ ซามพ์โดเรีย, ลาซิโอ และอาจจะเป็น อินเตอร์ มิลาน หาก โชเซ่ มูรินโญ่ โค้ชชาวโปรตุกีส ตัดสินใจย้ายไปรับงานกุมบังเหียน "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด




ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

คันนาประกาศอำลาชุดขาวพุ่งเป้าฟุตบอลโลก




ฟาบิโอ คันนาวาโร่ ยอดปราการหลังชาวอิตาเลี่ยน ออกมาประกาศอำลา "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด อย่างเป็นทางการ หลังจากเตรียมกลับไปค้าแข้งกับ "ม้าลาย" ยูเวนตุส ในฤดูกาลหน้า โดยขอมุ่งมั่นกับการพาทีมชาติอิตาลี ป้องกันแชมป์ในศึกเวิลด์ คัพ ปีหน้าเป็นอันดับแรก



ฟาบิโอ คันนาวาโร่ เซนเตอร์ฮาล์ฟกัปตันทีมชาติอิตาลี ออกมาเปิดเผยว่าตอนนี้ขอพ่งเป้าหมายไปที่การลงรับใช้ชาติในฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้หลังจากที่ได้ลงเล่นเกมสุดท้ายกับ เรอัล มาดริด ในเกมที่เปิดบ้านพ่าย เรอัล มายอร์ก้า 3-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะกลับไปค้าแข้งกับ ยูเวนตุส ในลีกบ้านเกิด ฤดูกาลหน้า

ดาวเตะวัย 35 ปี ได้รับการยืนขึ้นปรบมือให้เกียรติจากกองเชียร์ในสนาม ซานติอาโก เบร์นาเบว เมื่อเขาโดนเปลี่ยนตัวออกจากสนามในครึ่งหลัง และเมื่อเขากลับมาในสนามอีกครั้งเมื่อจบเกม ซึ่งเขาก็เปิดเผยเป็นครั้งสุดท้ายว่า " ผมกำลังจะกลับไปยัง ยูเวนตุส แต่ผมคิดว่าทุกคนที่ มาดริด รู้ดีว่าผมทำงานหนักเพื่อปกป้องตราและเสื้อสีนี้เอาไว้มากแค่ไหน "

อดีตกองหลัง ปาร์ม่า และ อินเตอร์ มิลาน เผยว่าต้องการจะอยู่กับ มาดริด ต่อไปเช่นกัน แต่จากความวุ่นวายในสโมสรหลังจากการลาออกของ ราม่อน กัลเดร่อน ประธานสโมสรคนก่อน ทำให้เขาตัดสินใจอำลาทีม " ผมคอยมานานมากให้ใครซักคนบอกอะไรกับผม แต่มันก็ไม่เกิดขึ้น มันไม่ง่ายเลยที่จะย้ายออกจากมาดริด และผมอยากมีทางเลือกที่ดีกว่านี้ แต่ผมคิดว่าการกลับไปลงเล่นในอิตาลี อย่างน้อยก็จะทำให้จิตใจผมสงบนิ่งขึ้น "

คันนาวาโร่ ย้ายมาเล่น 3 ฤดูกาลในลาลีกา และเขาก็คว้าแชมป์ลาลีกา 2 สมัย ซึ่งตอนนี้เขาก็ตั้งใจในการมุ่งสมาธิไปกับการรับใช้ชาติในฟุตบอลโลก 2010 " สิ่งสำคัญที่สุดของผมในตอนนี้คือการเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกในระดับที่ดีที่สุด ยูเวนตุส เป็นทีมที่ผมรู้จักดี ผมมีความสุขมาก ตอนนี้ผมหวังให้ทุกคนที่มาดริด โชคดีสำหรับอนาคตข้างหน้า "




........................................................................................................................................................................



ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา

ราฟายกฮูเปียตำนานแข้งหงส์แดง




ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ยกย่อง ซามี่ ฮูเปีย กองหลังเลือดฟินน์ เป็นตำนานของสโมสร หลังทำผลงานได้สุดยอดมาตลอด 10 ปีที่ค้าแข้งในถิ่นแอนฟิลด์ พร้อมกระตุ้นลูกทีมต้องทำผลงานให้คงเส้นคงวาหากอยากคว้าแชมป์ลีกฤดูกาลหน้า



ราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีมชาวสเปนของ ลิเวอร์พูล รองแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลล่าสุด กล่าวสรรเสริญ ซามี่ ฮูเปีย เซนเตอร์ฮาล์ฟชาวฟินแลนด์ เป็นตำนานของสโมสรอย่างแท้จริง หลังจากลงเล่นเกมสุดท้ายที่ชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 3-1 ที่สนามแอนฟิลด์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา

อดีตนายใหญ่ บาเลนเซีย กล่าวหลังจบเกมว่า "มันเป็นเรื่องดี เราต้องการคว้าชัยชนะ เราต้องการยิงประตูให้เยอะ เพื่อการันตีว่าจะคว้า 3 แต้มได้ ซึ่งทำให้เรามี 86 คะแนน และยิงประตูได้มากที่สุด มันเป็นเรื่องดีมากเพราะมันเป็นเกมสุดท้ายของ ซามี่ ซึ่งเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมาย"

ฮูเปีย เป็นกำลังหลักในแนวรับของ "เดอะ เร้ดส์" มาตลอดช่วง 10 ปีที่ค้าแข้งอยู่ในถิ่นแอนฟิลด์ และตอนนี้ก็ตัดสินใจอำลาสโมสรเพื่อไปหาความท้าทายใหม่กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น โดย ราฟา เผยต่อไปว่า "เขาเป็นมืออาชีพที่ยอดเยี่ยม เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมาเขาทำผลงานได้ดี แต่ก่อนนี้เขาก็เล่นได้สุดยอดแบบนี้มาตลอดเช่นกัน ซึ่ง 10 ปีที่ผ่านมาคุณพูดถึงเรื่องตำนาน คุณกำลังพูดถึงใครสักคนซึ่งสุดยอดทั้งในฐานะคนๆ หนึ่ง และในฐานะมืออาชีพสำหรับเรา ถ้าเขากลับมาที่นี่เร็วๆ เราคงจะดีใจมากจริงๆ"

ขณะเดียวกัน นายใหญ่เลือดกระทิง ยอมรับว่าทีมต้องมีความคงเส้นคงวามากกว่านี้ และจะดึงผู้เล่นเข้ามาเสริมทีมแน่นอน "ถ้าคุณเห็นแต้มทั้งหมดที่เราได้ ผมคิดว่ามันเป็นความสำเร็จที่สุดยอด แต่บางทีคุณต้องพัฒนาให้ดีขึ้นเพื่อคว้าแชมป์ลีก เราจะเฝ้าดูในช่วงซัมเมอร์นี้ เพราะผมพูดว่าเราจำเป็นต้องทำงานหนักเพื่อทำให้ทีมแข็งแกร่งที่สุด และเซ็นสัญญากับนักเตะที่เหมาะสม"




........................................................................................................................................................................



ข่าวขอบคุณข้อมูลจาก: สยามกีฬา
 

Copyright 2008 All Rights Reserved Revolution Two Church theme by Brian Gardner Converted into Blogger Template by Microebook.com